Home
|
ข่าว

“กังฟู” ไทรวมพลัง ย้ำไม่อยากได้เก้าอี้ใน ครม.

Featured Image

 

 

 

 

“กังฟู” ไทรวมพลัง ย้ำไม่อยากได้เก้าอี้ใน ครม.ขอยึดผลประโยชน์ประชาชน ยันเป็นพรรคอิสระไม่ยึดโยงใคร ชมท่องเที่ยวดีขึ้น แค่สงกรานต์ทำเงินเข้าประเทศ 2,800 ล้าน

 

 

 

นายวสวรรธน์ พวงพรศรี หรือ “กังฟู” หัวหน้าพรรคไทรวมพลัง กล่าวถึงการปรับ ครม. ว่า พรรคไทรวมพลัง ไม่อยากได้เก้าอี้ แต่มาสร้างบ้านสร้างเมือง เหมือนที่เคยพูดว่า “เอาตำนาน ไม่เอาตำแหน่ง”

 

พร้อมย้ำว่า ที่เข้ามาอยู่ในรัฐบาลเพราะการยกมือเลือกอันดับหนึ่งไม่ได้ เนื่องจากกลไกของ สว. มาแทรกแซง และประชาชนในพื้นที่ไม่โอเคกับการปล่อยให้หลุดไปถึงพรรคอันดับ 3 หรือ 4 ส่วนพรรคเพื่อไทย จะเอาใครมาร่วมในรัฐบาลนั้น พรรคเพื่อไทย ต้องชี้แจ้งเอง พรรคไทรวมพลัง ทำงานเอาผลประโยชน์พี่น้องเกษตรกรหรือคนรุ่นใหม่เป็นตัวตั้ง

 

เรายินดี เพราะสองเสียงของพรรคเป็นเสียงของประชาชนจริงๆ พรรคเราไม่มีพันธะ เงื่อนไข หรือข้อต่อรอง เราเป็นพรรคของคนรุ่นใหม่ ก็ต้องให้เวลาพิสูจน์อุดมการณ์ “อดได้ รอเป็น” พร้อมยืนยัน เราเป็นพรรคที่อิสระจริงๆ ไม่ยึดโยงกับใคร เป็นตัวของตัวเอง จุดยืนชัดเจนว่า ก้าวหน้าไม่ฮาร์ดคอร์

 

ทั้งนี้ มองการปรับเก้าอี้ของรัฐมนตรีว่าอย่างไร นายวสวรรธน์ ถามกลับว่า รัฐบาลตอนนี้วางคนให้ถูกงาน วางงานให้ถูกคนหรือไม่ เมื่อถามต่อถึงการปรับเก้าอี้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา นายวสวรรธน์ กล่าวว่า เศรษฐกิจมวลรวมขับเคลื่อนด้วยภาคการท่องเที่ยวเป็นหลัก ตอนนี้ตัวเลขการท่องเที่ยวดีขึ้น จำนวนนักท่องเที่ยวมากขึ้น โดยเฉพาะช่วงสงกรานต์ที่สร้างรายได้เข้าประเทศ 2,800 ล้านบาท ตนเห็นว่า ภาคการท่องเที่ยวดีขึ้นแล้ว อะไรที่เร่งด่วน ก็ทำไปแล้วก็เห็นผลไปแล้ว ถือเป็นการสร้างมิติใหม่ของการท่องเที่ยว

 

ส่วนรัฐมนตรีกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ทำงานได้ดีหรือไม่ นายวสวรรธน์ กล่าวว่า เป็นการทำงานร่วมกัน หลายภาคส่วน ส่วนตัวคิดว่า คงไม่น่ามีอะไร แต่ต้องยอมรับว่า ภาคการท่องเที่ยวของประเทศ ก็เป็นไปตามเป้าหมาย และคาดหวังว่าจะกลับมาดีขึ้นเรื่อยๆ และทำได้ดีกว่านี้พัฒนาต่อไป

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube