Home
|
คลิปข่าวทั่วไป

ครม.ไฟเขียวดิจิทัลวอลเล็ต-ประชามติ 3 รอบแก้รธน.

คณะรัฐมนตรี เห็นชอบหลักการ ดิจิทัลวอลเลต แจก 1 หมื่นช่วยประชาชนกระตุ้นเศรษฐกิจแล้ว พร้อมไฟเขียวรายงานศึกษาประชามติแก้ไขรัฐธรรมนูญ โดยจะทำประชามติ 3 ครั้ง

 

 

นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรีตามปกติ โดยภายหลังเสร็จ ได้นำพรรคร่วมรัฐบาลแถลงข่าว ว่า ที่ประชุมครม.รับทราบผลการรวบรวมข้อมูลข้อเท็จจริงและความเห็นของคณะทำงาน และเห็นชอบหลักการของกรอบโครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่านดิจิตอลวอลเล็ต

 

ทั้งเรื่องกลุ่มเป้าหมายที่จะเข้าร่วมโครงการ แนวทางเข้าร่วมโครงการของประชาชน เงื่อนไขการใช้จ่าย ประเภทสินค้า การลงทะเบียนร้านค้า รวมถึงแหล่งเงินในการดำเนินโครงการ ซึ่งกระทรวงการคลัง ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธกส.)และสำนักงบประมาณจะศึกษารายละเอียดต่อไป

 

ส่วนข้อห่วงใยเรื่องอำนาจหน้าที่ของ ธกส. มีประเด็นข้อสงสัยให้ส่งเรื่องไปสอบถามยังกฤษฎีกา ซึ่งทุกพรรคร่วมรัฐบาลเห็นชอบในหลักการของโครงการเติมเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท จากนั้น นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ได้ชี้แจงในรายละเอียด ว่า การใช้งบประมาณ ของ ธกส. เป็นไปตามอำนาจหน้าที่ และเป็นไปตามกฎหมายมาตรา 28 โดยดำเนินการภายใต้ นโยบายของกระทรวงการการคลัง และจะมีการพิจารณาผ่านบอร์ดและคณะรัฐมนตรีอีกครั้งหนึ่ง

 

นายจุลพันธ์ ยังยืนยันด้วยว่า ธกส.มีสภาพคล่อง และรัฐบาลมีแต่จะเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับ ธกส. ซึ่งได้ชี้แจงกับธกส.เมื่อวานนี้ ว่า การดำเนินการต้องเป็นไปตามกรอบกฎหมายทุกประการ เสถียรภาพของ ธกส.มีความมั่นคงสูง และไม่กระทบต่อการดำเนินนโยบายของรัฐบาล ในการช่วยเหลือช่วยเหลือเกษตรกร และศักยภาพสวัสดิการใดๆของพนักงาน ลูกจ้างของ ธกส. โดยเด็ดขาด

 

พร้อมระบุด้วยว่า ขณะนี้ยังกำหนดวันเริ่มโครงการไม่ได้ ขึ้นอยู่กับการพัฒนาระบบ Super App ซึ่งพยายามเร่งรัดในทุกกระบวนการ เพราะต้องรอบคอบ เพื่อความเสถียรภาของแอปพลิเคชั่น ความมั่นคงปลอดภัย ทั้งของประชาชนและราชการ แต่ยืนยัน ตามกรอบเดิมว่า จะเปิดลงทะเบียนในไตรมาส 3 ของปี 2567 และเปิดใช้ในไตรมาส 4

 

นอกจากนี้ ที่ประชุม คณะรัฐมนตรี ยังได้เห็นชอบในหลักการที่คณะกรรมการศึกษาพิจารณาแนวทางในการทำประชามติเพื่อแก้ไขความเห็นที่แตกต่างในเรื่องรัฐธรรมนูญ โดยเสนอการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ โดยเห็นควรให้มีการออกเสียงประชามติ 3 ครั้ง และควรให้มีการแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติการออกเสียงประชามติ พ.ศ.2564 เพื่อให้กฎหมายดังกล่าวเป็นไปตามประชาธิปไตย ที่จะช่วยส่งเสริมให้ประชาชนได้แสดงเจตจำนงเรื่องต่างๆได้โดยตรง

 

 

 

 

 

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

 

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube