Home
|
ข่าว

“วันนอร์” ชี้เปิดสมัยวิสามัญถกงบฯ68 ขึ้นอยู่กับรัฐบาล

Featured Image

 

 

 

 

“วันนอร์” ชี้ ขึ้นอยู่กับรัฐบาล เปิดสมัยวิสามัญพิจารณา พรบ.งบฯ 68 มอง เดือน มิ.ย.เหมาะสม ขณะ แก้ รธน. ใครเสนอมาก็จะรับไว้พิจารณา

 

 

 

 

นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงการเปิดประชุมสภาผู้แทนราษฎรสมัยวิสามัญเพื่อพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2568 ว่า อยู่ที่รัฐบาล จะเอาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณเข้าเมื่อไหร่ ถ้ารัฐบาลต้องการเอางบเข้าวาระแรกในช่วงปิดสมัยประชุมรัฐบาลก็แจ้งมายังรัฐสภาได้ เพื่อที่จะมีการเปิดประชุมสมัยวิสามัญ และมองเป็นเรื่องดี เพราะมีอะไรที่ค้างเร่งด่วนก็จะได้ทำช่วงนั้น

 

ส่วนจะเป็นวันที่ 5-6 มิถุนายนตามที่มีกระแสข่าวหรือไม่นั้น ก็ต้องขึ้นอยู่กับรัฐบาลเป็นคนกำหนด เพราะช่วงเดือนพฤษภาคม สส.อาจจะมีภารกิจต่างๆ หากเป็นเดือนมิถุนายน ก็เหมาะสม เพราะเป็นช่วงเวลาก่อนเปิดสมัยประชุม 1 เดือน ก็เป็นระยะเวลาที่สามารถขอเปิดประชุมสมัยวิสามัญได้

 

ทั้งนี้ ในการเปิดสมัยประชุมวิสามัญนอกจากจะมีเรื่องงบประมาณแล้วยังมีการนำเรื่องอื่นมาพิจารณาด้วยหรือไม่ นายวันมูหะมัดนอร์ กล่าวว่า ยังไม่ทราบว่าจะมีอะไรบ้าง เพราะเรื่องแก้ไขรัฐธรรมนูญยังไม่สามารถนำมาพิจารณาได้ เนื่องจากรัฐบาลจะต้องไปทำประชามติในรอบแรกก่อน ซึ่งเห็นว่าจะเสร็จประมาณเดือนกรกฎาคม แต่มีกฎหมายอีกหลายฉบับ ที่ค้างคาอยู่ ถ้ารัฐบาลอยากเอาเข้าสมัยประชุมวิสามัญสภาก็พร้อม

 

สำหรับกฎหมายที่เกี่ยวกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญหากใครเสนอมาสภาฯ ก็จะรับไว้พิจารณา ส่วนจะบรรจุได้หรือไม่นั้น เป็นเรื่องที่ฝ่ายกฎหมายของสภาฯ และฝ่ายที่เกี่ยวข้องตรวจสอบดูว่าจะสามารถบรรจุได้หรือไม่ และต้องดูว่าจะชัดแย้งกับคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญหรือไม่ รวมทั้งต้องรอให้ทำประชามติด้วย และที่เป็นกฎหมายอื่นที่เกี่ยวกับการเงินก็ต้องส่งให้นายกรัฐมนตรีให้การรับรองก่อน

 

ขณะกรณีที่พรรคก้าวไกลเรียกร้องให้ประธานสภาฯ เร่งบรรจุร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญนั้น พรรคก้าวไกลสามารถเสนอมาได้ แต่จะบรรจุหรือไม่ ต้องดูอีกที เพราะรัฐบาลก็มีมติว่าจะทำประชาติก่อน และต้องพูดอย่างต่อไปตรงมาว่าถ้าเสนอเข้ามาแล้ว มีการพิจารณาไปแล้ว หากไปมีความขัดแย้งกับศาลรัฐธรรมนูญ

 

จนมีคนไปร้องศาลรัฐธรรมนูญ ทำให้ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญถูกตีตกก็ทำให้เสียเวลาไปมากกว่าที่รัฐบาลได้ตัดสินใจว่าจะทำประชามติ 3 รอบ อย่างน้อยรอบแรก ก็เพื่อถามประชาชนก่อนว่าจะให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญหรือไม่ ถ้าอยากจะมีการแก้ไข ก็เป็นไปตามคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ จากนั้นก็ค่อยเสนอร่างเข้ามาแก้ไขก็จะทำให้ไม่เสียเวลา ซึ่งถือว่าเป็นไปตามขั้นตอนและปลอดภัย

 

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube