รัฐบาลห่วงยอดโควิดยังพุ่งหลังสงกรานต์ ขอให้ประชาชนมั่นใจทุกโรงพยาบาล พร้อมรับมือผู้ป่วยโควิด แนะใส่หน้ากากอนามัยพื้นที่แออัด รีบตรวจ ATK หากมีอาการคล้ายหวัด
25 เม.ย 67 น.ส.เกณิกา อุ่นจิตร์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รัฐบาลและกระทรวงสาธารณสุข มีความห่วงใยต่อสถานการณ์ของโรคโควิด-19 เพิ่มสูงขึ้นหลังเทศกาลสงกรานต์ ซึ่งปัจจุบันโรคโควิด-19 เป็นโรคติดต่อที่ต้องเฝ้าระวังตาม พ.ร.บ.โรคติดต่อ และเพื่อให้เกิดความมั่นใจ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้สั่งการให้ทุกจังหวัดประเมินสถานการณ์และเตรียมความพร้อม กำชับทุกหน่วยงานดูแลประชาชนอย่างทั่วถึง
น.ส.เกณิกา กล่าวต่อว่า ข้อมูลจากกรมควบคุมโรครายงานว่า โดยในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา (วันที่ 14-20เม.ย.) พบผู้ป่วยโรคโควิด-19 ที่ต้องรักษาตัวในโรงพยาบาลจำนวน 1,004 ราย เฉลี่ย 143 รายต่อวัน มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นตามที่คาดการณ์ไว้ โดยพบผู้ป่วยมากขึ้นในพื้นที่กรุงเทพฯ ปริมณฑล และจังหวัดท่องเที่ยวหลายแห่ง และมีผู้ป่วยอาการรุนแรงปอดอักเสบ 292 ราย ใส่ท่อช่วยหายใจ 101 ราย และเสียชีวิต 3 ราย โดยผู้เสียชีวิตทุกราย เป็นกลุ่มผู้สูงอายุ หรือมีโรคเรื้อรัง (608)
รัฐบาลอยากให้ประชาชนมั่นใจว่า โรงพยาบาลทุกแห่งมีความพร้อม ทั้งด้านบุคคลากร เตียงรองรับผู้ป่วยเวชภัณฑ์ ตลอดจนมีประสบการณ์ในการดูแลผู้ป่วยเป็นอย่างดี แต่ในขณะเดียวกัน ก็ขอให้ประชาชนเน้นสุขอนามัยส่วนบุคคล โดยการสวมหน้ากากอนามัย เมื่ออยู่ในสถานที่แออัดที่มีการรวมกลุ่มคนจำนวนมาก และจำเป็นต้องล้างมือบ่อยๆ หากมีอาการคล้ายหวัด ควรทำการตรวจ ATK ที่บ้าน และหลีกเลี่ยงการใกล้ชิดกับกลุ่มเสี่ยง 608 หากผลตรวจเป็นบวก 2 ขีด ให้สวมหน้ากากเพื่อป้องกันการแพร่เชื้อ และพบแพทย์โดยเร็วเมื่อมีอาการหายใจลำบาก“
ทั้งนี้ สำหรับกลุ่ม 608 คือกลุ่มผู้สูงอายุมีอายุ 60 ปีขึ้นไป ผู้มีโรคประจำตัวในกลุ่ม 7 โรคประจำตัว ได้แก่โรคทางเดินหายใจเรื้อรัง,โรคหัวใจและหลอดเลือด,โรคไตวายเรื้อรัง,โรคหลอดเลือดสมอง,โรคอ้วน,โรคมะเร็ง,โรคเบาหวาน และกลุ่มหญิงตั้งครรภ์ หากมีอาการคล้ายหวัด และผลตรวจ ATK เป็นบวก 2 ขีด ควรสวมหน้ากากและรีบพบแพทย์เพื่อรับการรักษา เพื่อลดโอกาสในการเกิดอาการรุนแรง หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติม ติดต่อสายด่วนกรมควบคุมโรค 1422
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews