กมธ.มั่นคงฯ ชื่นชมทุกฝ่าย มีแผนรองรับสถานการณ์เมียนมา จี้รัฐบาลเร่งอนุมัติแนวทางปฏิบัติส่งความช่วยเหลือทางมนุษยธรรม
นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติ และการปฏิรูปประเทศ สภาผู้แทนราษฎร แถลงผลการประชุมคณะกรรมาธิการฯ ที่ในวันนี้ (25 เม.ย.) เชิญตัวแทนจากกระทรวงการต่างประเทศ สภาความมั่นคงแห่งชาติ หรือ สมช. และกองทัพบก รวมถึงตัวแทนภาคประชาชน มาติดตามสถานการณ์การสู้รบในเมียนมา และผลกระทบต่อความมั่นคงชายแดนไทย
โดยชื่นชมการทำหน้าที่ของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งฝ่ายความมั่นคง สาธารณสุข มหาดไทย และทิศทางของกระทรวงการต่างประเทศที่มีความก้าวหน้า รวมถึง สมช.จะมีแผนปฏิบัติงาน หรือ Standard Operating Procedure หรือ SOP ฉบับใหม่ เพื่อรองรับสถานการณ์กณีที่มีผู้หนีภัยจำนวนมากเข้าสู่ประเทศไทย ซึ่งจะต้องรอจากการอนุมัติจากรัฐบาลก่อน จึงแนะนำให้รัฐบาล เร่งอนุมัติเพื่อเป็นแนวปฏิบัติสำหรับทุกหน่วยงาน พร้อมส่งความช่วยเหลือทางมนุษยธรรม โดยทำงานร่วมกับมิตรประเทศ และภาคประชาสังคม เพื่อให้ยั่งยืน และสามารถช่วยเหลือผู้ที่รอความช่วยเหลือได้อย่างทั่วถึง ป้องกันการทะลักเข้าสู่ประเทศไทย
ประธานกรรมาธิการฯ ยังแนะนำให้รัฐบาล และกระทรวงการต่างประเทศ แสดงบทบาทเป็นผู้อำนวยความสะดวกในการสร้างสันติภาพ เพื่อช่วยเหลือชาวเมียนมา ผ่านการพูดคุยกับกลุ่มต่าง ๆ และใช้ศักยภาพของประเทศ เพื่อร่วมกันตกลงสันติภาพ และประชาธิปไตยของชาวเมียนมา และความมั่นคงของชาวเมียนมา โดยมั่นใจว่า ประเทศไทยสามารถทำได้ เพราะได้รับความเชื่อใจจากกลุ่มต่าง ๆ
ทั้งนี้ ยังเรียกร้องให้รัฐบาล พูดคุยกับรัฐบาลทหารเมียนมา ในการปฏิบัติการทางอากาศ ที่ทำให้เกิดผู้หนีภัยเข้าประเทศไทย และยังเป็นปัญหาการละเมิดสิทธิมนุษยชนด้วย รวมถึงน้ำมันที่มีการซื้อขายจากประเทศไทยจำนวน 15% ที่นำไปใช้ในปฏิบัติการโจมตีทางทหาร ซึ่งเป็นอำนาจต่อรองสำคัญที่ประเทศไทยสามารถสร้างสันติภาพ และเจรจากับรัฐบาลทหารเมียนมา เพื่อให้สอดรับกับมติของ G7 ที่ไม่ควรให้มีการขายน้ำมันให้กับรัฐบาลทหารเมียนมา พร้อมยังเสนอให้รัฐบาลไทย เจรจากับทุกฝ่าย เพราะการสู้รบได้ส่งผลกระทบต่อประเทศไทย
ซึ่งกลไกต่าง ๆ จะต้องร่วมกันแก้ปัญหา และจะเป็นหมุดหมายสำคัญในการแก้ไขปัญหาอื่น ๆ ทั้งยาเสพติด และแก๊งคอลเซ็นเตอร์ รวมถึงสถานะในอนาคตของเมียนมาด้วย พร้อมกันนี้ ยังแนะนำผู้หนีภัยต่าง ๆ จากเหตุรัฐประหารในเมียนมานับล้าน ที่หลบหนีในประเทศไทย และต้องจ่ายส่วยให้กับเจ้าหน้าที่รัฐ เข้ามาในระบบผ่านการออกบัตรประชาชนรหัสพิเศษ แต่ไม่ใช่การให้สถานะเป็นพลเมืองไทย แต่เพื่อให้สามารถตรวจสอบได้ หรือให้คณะรัฐมนตรีใช้อำนาจอนุญาตให้ผู้ลี้ภัยเข้ามาในราชอาณาจักรได้ เพื่อตอบสนองภาคเศรษฐกิจที่จำเป็นต้องใช้แรงงาน และลดการทุจริต
ขณะเดียวกัน ประธานกรรมาธิการฯ ยังเตรียมพิจารณาตั้งคณะทำงาน และอนุกรรมาธิการฯ ที่อาจมีความเป็นไปได้ ที่จะใช้ประเทศไทยเป็นฐานการฟอกเงินในการฟอกเงิน เพื่อนำไปใปซื้ออาวุธใช้ในเมียนมา ซึ่งหากเกิดขึ้นจริง ประเทศไทย อาจเป็นต้นเหตุที่ทำให้เกิดการสู้รบ และละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างรุนแรงได้
ส่วนในวันที่ 12-14 พฤษภาคมนี้ กรรมาธิการฯ มีกำหนดจะลงพื้นที่อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก เพื่อติดตามสถานการณ์ และรับฟังปัญหาจากพื้นที่ และยังมีกำหนดการเดินทางไปหน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง ทั้งกระทรวงการต่างประเทศ สมช.
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews