Home
|
คลิปข่าวทั่วไป

“บิ๊กต่าย” ไม่กังวล “บิ๊กโจ๊ก” ขู่ฟ้อง ยํ้ายึด กม. ปัดหลอกนายกฯ

วันนี้ที่ตํารวจภูธรภาค 1 พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เดินทางร่วมแถลงข่าวจับกุมยาเสพติดกว่า 5 ล้านเม็ด พร้อมให้สัมภาษณ์ประเด็นร้อน หลังจากที่เมื่อวานนี้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. บุก สํานักงานตํารวจแห่งชาติ ร้อง คณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรม และ คณะ ก.ตร. ถอนคำสั่งให้ออกจากราชการ ระบุไม่ชอบด้วยกฎหมายและเตรียมยื่นฟ้องศาลอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง เร็วๆนี้

 

 

โดย พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ กล่าวว่า วันนี้ต้องยอมรับว่ามีหลายคนคงคิดว่าตนจะไม่มาแถลงข่าวการจับยาเสพติดในวันนี้ และคิดไว้อยู่แล้วว่าสื่อมวลชนคงจะถามประเด็นของ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หากผู้สื่อข่าวถามว่าถ้าอนาคตจะมีการฟ้องร้อง จนนำไปสู่การติดคุกขอเรียนให้ทราบว่า ตนดําเนินการทุกขั้นตอนตามกฎหมาย พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ 2565 และ กฎคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) อย่างเคร่งครัดในการพิจารณาข้อเท็จจริงและความร้ายแรงแห่งคดี และการนํามาตราใดมาใช้เป็นเรื่องที่ฝ่ายอำนวยการ ฝ่ายกฎหมายของสำนักงานตำรวจแห่งชาติต้องผ่านการประมวลเรื่องเพื่อเสนอพิจารณาไปตามบทบัญญัติของกฎหมายทุกอย่าง และเมื่อตนตัดสินใจที่จะดำเนินการตามขั้นตอนต่างๆแล้ว ก็พร้อมยอมรับกับสิ่งที่ตามมา

 

ซึ่งตนมีหน้าที่ที่จะต้องชี้แจงหรือแก้ต่างในกระบวนการยุติธรรม และถือว่าเป็นเรื่องปกติที่ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ จะร้องเรียนกับคณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรมข้าราชการตำรวจ ซึ่งเป็นคณะกรรมการที่เกิดขึ้นใหม่ตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ปี 65 เพราะเป็นสิทธิของท่านและของทุกคนที่จะฟ้องร้องต่อศาลปกครอง

 

โดย พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ ยอมรับว่าไม่หนักใจกับเรื่องที่เกิดขึ้นรวมถึงการฟ้องร้องต่อศาลอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ส่วนการเซ็นต์คําสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อนนั้น ยืนยันว่าไม่มีอะไรเข้ามาแทรกแซง ทําทุกอย่างตามขั้นตอน ซึ่งเหตุผลที่ให้ออกก็เป็นไปตามบัญญัติของกฎหมายทุกขั้นตอนและไม่ใช่ความรู้สึกส่วนตัวแต่อย่างใด ส่วนประเด็นความที่ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวถึงข้อกฎหมาย เรื่อง พ.ร.บ.ตํารวจ ปี 65 และ กฎ ก.ตร. ปี 47 นั้น เป็นสิทธิของท่าน รวมถึงกรณีที่ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ฝากถึงตนเรื่องมีศักดิ์ศรีหรือลาออกนั้น ยืนยันว่าตั้งใจทํางานอย่างเดียวและไม่สนเรื่องติดคุกติดตาราง

 

เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ อ้างว่า มีนายพลตํารวจไปหลอกนากยกให้ลงนามคําสั่งย้ายกลับมาประจำที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติก่อนจะถูกสั่งออกจากราชการไว้ก่อน พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ ระบุว่า ท่านเป็นถึงนายกรัฐมนตรีและเป็นผู้บังคับบัญชาสูงสุดของชาติ ตนเป็นเพียงตำรวจคนหนึ่งจะเอาอะไรไปหลอกลวงระดับผู้บริหารประเทศ ส่วนอนาคตเป็นสิ่งที่ไม่แน่นอน

 

นอกจากนี้ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ ยืนยันด้วยว่า ตนไม่เคยเป็นคู่ขัดแย้งกับใครและยังเกียรติกับทุกคนเหมือนเดิม ส่วนประเด็นการปลดป้ายชื่อ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ นั้น ตนมีอะไรต้องทำมากกว่าไปปลดป้ายชื่อคนอื่น ถ้าจะปลดทำไมไม่ปลดท่าน ผบ.ตร. และพล.ต.อ.รอย ด้วย ส่วนใครจะเป็นคนปลดนั้นเป็นเรื่องที่ต้องพิสูจน์ทราบกันต่อไป ส่วนเรื่องการตรวจสอบขบวนการ 4 ต. ที่ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ระบุนั้น ต้องอยู่กับข้อเท็จจริงว่ามีความเกี่ยวพันหรือยุ่งเหยิงอย่างไรบ้างซึ่งมีขั้นตอนต่างๆกำหนดไว้อยู่แล้ว

 

ขณะที่ นายชาดา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวเพิ่มเติมว่า รักษาราชการแทน ผบ.ตร. ทําตามอํานาจหน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย ซึ่ง พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ มีสิทธิแก้ต่างตามสิทธิของท่าน โดยเรื่องที่เกิดขึ้นส่วนตัวเชื่อว่าจะไม่สงผลกระทบต่อการทํางานขององค์กรตํารวจ เพราะมองเป็นเรื่องของบุคคล ส่วนจะมีการปฏิรูปองค์กรตํารวจหรือไม่ พูดถึงการพัฒนาจะดีกว่า

 

 

 

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube