จังหวะวันนี้(3พ.ค.) “ครม.เศรษฐา 1/2” เข้าถวายสัตย์และจะเข้าทำงานวันประชุมครม.อังคารหน้า(7พ.ค.) น่าสนใจถอดรหัส “สัญญาน” ที่ฉายภาพทั้งอดีตปัจจุบันอนาคตของพรรคเพื่อไทย และ “รัฐบาลเศรษฐา”
ภายใต้เงา “ผู้นำจิตวิญญาณ” อย่าง “ทักษิณ” ผ่านการส่งสารของ “อุ๊งอิ๊งค์” หัวหน้าเพื่อไทย “บุตรสาว” ในอีเวนต์ใหญ่ ภายใต้ชื่อ “10 เดือนไม่รอ ทำต่อให้เต็ม10 ” ที่ระดมทั้งรัฐมนตรีเพื่อไทยตั้งแต่นายกฯลงมา รวมถึงรัฐมนตรีใหม่ป้ายแดง ในครม.เศรษฐา 1/2 ที่มี “คนรุ่นใหม่” หลายคน รวมถึงมีการเปิดทีมคนรุ่นใหม่ทำงานการเมืองของเพื่อไทย ที่นำโดย “อุ๊งอิ๊งค์” และมีการเปิดตัวผู้สมัครนายกอบจ.หลายจังหวัด วันนี้(3พ.ค.67)
โดยช็อตหนึ่ง “อุ๊งอิ๊งค์” สปีคกิ้งทำนองย้ำอีกครั้งว่า 10 เดือนที่แล้ว พรรคเพื่อไทยตัดสินใจถูกที่มาตั้ง “รัฐบาลผสม” ร่วมกับบรรดาอดีตพรรคร่วมรัฐบาลเดิมที่หมายรวมถึง “พรรค 2 ลุง” รวมไทยสร้างชาติ(รทสช.) และ “พลังประชารัฐ”(พปชร.) ของ “ลุงตู่” และ “ลุงป้อม”
โดย “อุ๊งอิ๊งค์” ขยายเป็น “เหตุผลความจำเป็น” ในการพลิกขั้วมาตั้งรัฐบาลผสม ว่าปัญหาปัจจุบันที่หมักหมมไว้ จาก “การปฏิวัติรัฐประหาร” ทั้งระบบราชการที่โตเกินไปความอืดอาดในการทำงานด้วยโครงสร้างที่ไม่ทันต่อเหตุการณ์ที่เปลี่ยนไปเทคโนโลยี เศรษฐกิจ และภัยคุกคามทางความมั่นคงที่พัฒนาไปเร็วมาก
รวมถึงภัยต่อเยาวชนชาติจากยาเสพติด ทำให้ประชาชนของชาติอ่อนแอประชาชนขาดโอกาสในการทำมาหากิน เศรษฐกิจใต้ดินสูงเป็นประวัติการณ์เพื่อไทยเป็นพรรคที่มีประสบการณ์บริหารประเทศมากที่สุด หากไม่เป็นแกนนำรัฐบาลผสมคงยากที่ปัญหาหมักหมมจะแก้ไขได้ โดยเฉียดไปที่ “แบงค์ชาติ” ว่า กฎหมายพยายามจะให้ “แบงค์ชาติ” เป็นอิสระจากรัฐบาล ทำให้เป็นปัญหาและอุปสรรคในการแก้ปัญหาเศรษฐกิจ
ถ้านโยบายการเงินที่บริหารโดย “แบงค์ชาติ” ไม่ยอมเข้าใจและร่วมมือประเทศจะไม่มีทางลดเพดานนี้ได้ 10 เดือนที่ผ่านมาเราใช้ความพยายามในการวิเคราะห์ เข้าใจ เพื่อแก้ปัญหาที่ยากและซับซ้อน และก้าวเดินต่อในทุกมิติเพราะเราเสียเวลาและโอกาสไปถึงเกือบ 2 ทศวรรษจาก “การรัฐประหาร” เรามั่นใจว่าเราทำได้ และจะทำให้ได้คะแนนเต็ม 10 ก่อนการเลือกตั้งครั้งหน้า
ไม่แต่เท่านั้น “อุ๊งอิ๊งค์” ยังระบุว่า การบริหารราชการแผ่นดิน จะเปลี่ยนจาก “รัฐบาลอุ้ยอ้าย” อืดอาด ไม่โปร่งใส เป็นรัฐบาลดิจิทัล บริหารด้วยความรวดเร็ว โปร่งใส ตรวจสอบการทำธุรกรรมต่าง ๆ ได้ และมี super app ในการบริการทุกมิติของภาครัฐ จะปรับโครงสร้างกระทรวง ทบวง กรมใหม่อีกครั้งหนึ่งเร็ว ๆ นี้ พร้อมจะแก้กฎหมายทางเศรษฐกิจอีกหลายฉบับ ทั้งการยกเลิกกฎหมายล้าสมัย เขียนกฎหมายใหม่ให้ไทยกลับมาเป็น Hub ทั้งการบินและการเงินของอาเซียนให้ได้
เรียกว่าจาก “สัญญาน” ที่มาจาก “อุ๊งอิ๊งค์” และพรรคเพื่อไทยวันนี้ ถูกมองว่ามาทั้งมิติการบ้านและการเมืองในการเดินหน้าไปต่อให้เต็ม10 แบบไม่รอใคร โดยเฉพาะนัยยะ 10 เดือนถูกมองถึงการครบวาระของสว 250 ที่เป็น “มรดกคสช.” ที่จะ “หมดอายุ” 11พ.ค. ในขณะเดียวกันก็เหมือนมีการเปิดหน้า “คนรุ่นใหม่เพื่อไทย” ไปในทีทั้งในครม.และในพรรค อย่างที่ “ทักษิณ” เคยบอกว่าคนรุ่นเก่าต้องถอยให้คนรุ่นใหม่เข้ามา เพื่อสามารถสู้กับก้าวไกลได้ ในขณะที่
ดูทรง “อุ๊งอิ๊งค์” ที่จะมานำ แม้จะบอกว่าตัดสินใจถูกที่ตั้งรัฐบาลผสมกับ “ขั้วอำนาจเดิม” ในรัฐบาล 2 ลุง ที่มาจากการ “รัฐประหาร” แต่ย้ำถึงปัญหาประเทศที่หยุดชะงัก เพราะมาจากการรัฐประหาร และ ระบบราชการที่อืออาด แต่ด้วยเพราะจำเป็น เพราะต้องแก้ปัญหา เพื่อไทยจึงต้องตั้ง “รัฐบาลผสม” แม้จะยอมรับว่าการขับเคลื่อนที่ผ่านมาจะถูกด้อยค่าบ้าง แต่ยังมั่นใจว่าจะทำได้ โดยแพลมว่าจะมีปรับโครงสร้างกระทรวงทบวงกรมใหม่ และแก้กฎหมายหลายฉบับเร็ว ๆ นี้
ที่ทั้งหมดก็ดูสอดรับกับที่ “นายกเศรษฐา” เคยประกาศเป็นธีมในการเป็นนายกฯว่าจะบริหารแบบถ้าติดปัญหากฎหมายก็แก้กฎหมาย ติดคนก็แก้ที่คน ที่ก็ดูคล้ายกับสมัย “รัฐบาลไทยรักไทย”ที่ “นายทักษิณ” เป็นนายกฯสมัยนั้นก็มาทรงนี้ จนเกิดปัญหากับระบบราชการ แม้กระทั่งมีปัญหาขัดแย้งกับ “ผู้ว่าแบงค์ชาติ” สมัยนั้น
รวมถึงมีการไปปรับโครงสร้าง และโยกย้ายข้าราชการข้ามกระทรวง กระทั่งถูก “ม็อบกลุ่มพันธมิตร” ลงถนนไล่ และถูก “บิ๊กบัง ” คมช.ทำรัฐประหาร ที่แม้ต่อมาสมัย “รัฐบาลน้อง” “ยิ่งลักษณ์” ก็เจอปัญหากับ “ระบบราชการ” กระทั้งถูก “ม็อบ กปปส.” ของ “ลุงกำนัน” ออกมาไล่ และโดน “ลุงตู่” คสช.ทำการ “รัฐประหาร” เช่นกันนั้นเอง
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews