ในวันนี้ ที่ทำเนียบรัฐบาล นายกฯ ได้แถลงข่าวจัดงานเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เพื่อแสดงถึงความจงรักภักดี พร้อมให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าการลาออกของนายกฤษฎา รมช.คลัง
โดยนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะอำนวยการจัดงานเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 ที่ตึกภักดีบดินทร์ ทำเนียบรัฐบาล
จากนั้น นายกรัฐมนตรี ได้แถลงข่าวถึงการจัดงานเฉลิมพระเกียรติฯ ว่า ปีนี้นับเป็นมหามงคลสมัยพิเศษ รัฐบาลจึงเห็นสมควรดำเนินการจัดงานเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย และสมพระเกียรติทุกประการ
โดยจะจัดงานพระราชพิธี งานพิธีการ โครงการและกิจกรรม เพื่อน้อมนำแนวพระราชดำริ พระราชปณิธาน และพระบรมราโชบายเกี่ยวกับการพัฒนาสิ่งแวดล้อม พัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชน ให้อยู่ดีมีสุข มุ่งเน้นให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมให้ได้มากที่สุด
โดยรัฐบาลเสนอจัดโครงการเฉลิมพระเกียรติในนามรัฐบาล จำนวน 10 โครงการ โครงการสวนสาธารณะบึงหนองบอน โครงการ 72 ล้านต้น พลิกฟื้นผืนป่า เพื่อฟื้นฟูและรักษาสภาพป่าต้นน้ำ โครงการแหล่งน้ำบาดาลขนาดใหญ่แก้ปัญหาภัยแล้ง อันเนื่องมาจากพระราชดำริ 72 แห่ง โครงการ “10 คลองสวย น้ำใส คนไทยมีสุข” เพื่อเป็นการสืบสาน และขยายผลต่อยอดพระบรมราโชบายในการพัฒนาแม่น้ำ ลำคลอง และแหล่งน้ำต่าง ๆ ที่เสื่อมโทรมไปตามกาลเวลา เพื่อเป็นการพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชน
ทั้งนี้ ในเดือนกรกฎาคม จะมีการลงพื้นที่ติดตาม การดำเนินโครงการในนามรัฐบาลทั้ง 10 โครงการด้วย และจะได้ร่วมทำกิจกรรมกับพี่น้องประชาชนให้มากที่สุด พร้อมเชิญชวนประชาชน องค์กร มูลนิธิ และภาคเอกชนต่าง ๆ ได้ร่วมกันแสดงถึงพลังแห่งความจงรักภักดีและความสามัคคีของปวงชนชาวไทยเนื่องในโอกาสอันเป็นมหามงคลนี้ ถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
และในวันนี้นายฯ ยังได้กล่าวถึงความคืบหน้า หลังให้โอกาสนายกฤษฎา จีนะวิจารณะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง กลับไปทบทวนการลาออกจากตำแหน่งอีกครั้งว่า ตอนนี้ยังไม่ทราบต้องไปดูที่สำนักงานเลขาธิการคณะรัฐมนตรีก่อน หากใบลาออกมาถึงแล้วก็ถือว่ามีผลทันที เมื่อถามว่าหากการลาออกมีผลจะกระทบต่อการทำงานของกระทรวงการคลังหรือไม่ นายกรัฐมนตรี ย้ำว่าไม่มีปัญหา
ส่วนที่เป็นห่วงว่าเหตุการณ์ในลักษณะนี้จะเกิดขึ้นอีกในกระทรวงอื่นๆ และจะต้องมีการพูดคุย สอบถามอย่างชัดเจนหรือไม่ นายกฯ บอกว่า เป็นห่วงทุกเรื่อง ในความไม่สบายใจของทุกคนจะพยายามทำทุกอย่างเต็มที่ เพื่อให้ทุกคนมีความสบายใจ แต่ก็จะต้องยึดโยงผลประโยชน์ของประเทศชาติเป็นหลัก ซึ่งตอนนี้ยังไม่ได้มีการพูดคุยกับพรรครวมไทยสร้างชาติ และขออย่าพูดถึงวิธีการ อะไรที่ยังไม่เกิดขึ้น เพราะทุกคนทราบดีว่าเป็นโควตาของพรรครวมไทยสร้างชาติ และส่วนตัวให้เกียรติพรรคร่วมรัฐบาลเสมอ
เมื่อถามว่าจะสามารถเปลี่ยนโควตากระทรวงได้หรือไม่ นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ส่วนตัวก็ไม่ทราบ เพราะยังไม่มีการพูดคุยกัน จึงต้องพูดคุยกับนายพีระพันธ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ในฐานะหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ แต่เชื่อว่าวันที่มีการประชุมคณะรัฐมนตรี ก็น่าจะมีการพูดคุยกัน
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews
