อั้นไม่อยู่จริงๆ สำหรับราคาน้ำมันดีเซล ที่ล่าสุดปรับขึ้นอีก 50 สต./ลิตร แตะ 31.94 บาท เมื่อช่วงเช้า 05.00 น.ของวันศุกร์ที่ 17 พ.ค.2567 หลังที่ประชุมคณะกรรมการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง หรือ กบน. มีมติลดอัตราเงินชดเชยน้ำมันดีเซลจาก 2.58 บาท/ลิตร เป็น 1.94 บาท/ลิตร เพื่อให้กองทุนน้ำมันฯ มีสภาพคล่อง เพราะปัจจุบันฐานะกองทุนน้ำมันฯ ติดลบ ทะลุ 1.1 แสนล้านบาท แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น แม้ว่ามติ กบน.จะช่วยทำให้กองทุนน้ำมันฯมีสภาพคล่องมากขึ้น แต่ก็ทำให้ประชาชนและผู้ประกอบการขนส่งมีภาระเพิ่มมากขึ้นด้วยเช่นเดียวกัน
โดย “นายอภิชาติ ไพรรุ่งเรือง” นายกสมาคมขนส่งทางบกแห่งประเทศไทย ที่ครั้งหนึ่งนั้น เขาคือผู้นำทัพสิงห์รถบรรทุก รถสิบล้อ รถพ่วง บุกกระทรวงพลังงานเพื่อขับไล่ “นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานในสมัยรัฐบาลนายกฯลุงตู่ หลังแก้ปัญหาน้ำมันแพงไม่ได้ โดย “นายอภิชาติ” กล่าวกับสำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น.ว่า ไม่เห็นด้วยกับการปรับขึ้นราคาน้ำมันดีเซล เพราะก่อนหน้านี้อย่าลืมว่า พรรคเพื่อไทยสัญญาณกับประชาชนไว้ว่า จะทำให้การเข้าถึงพลังงานที่มีราคาถูกลง เพื่อเป็นการลดภาระค่าครองชีพให้กับพี่น้องประชาชน
“ตอนนี้ในภาวะเศรษฐกิจแบบนี้ประชาชนก็ต้องพึ่งพาพลังงานตัวนี้ คุณมาปรับแบบนี้ยังไม่ทำเรื่องการบ้านเลย แล้วคุณก็จะมาแตะตรงนี้ สมัยยิ่งลักษณ์ปี 57 ราคาน้ำมันอยู่ที่ 110-120 เหรียญ แต่ตอนนี้รัฐบาลเศรษฐาอยู่ที่ 80 เหรียญถึง 86 เหรียญ ผมก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมถึงยืนอยู่ที่ 30 บาทไม่ได้ รัฐบาลยิ่งลักษณ์ลงภาษีสรรพสามิตลงมาเหลือ 1 สตางค์ หมายความว่า เค้าเข้าใจนะว่าสภาวะความเดือดร้อนของภาคประชาชนมันเป็นยังไง”
จากข้อมูลของสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) ได้จัดอันดับราคาขายปลีกทั้งในส่วนของน้ำมันเบนซินและดีเซลในอาเซียน พบว่า ราคาขายปลีกน้ำมันเบนซินของไทย ณ วันที่ 29 เมษายน 2567 อยู่ในอันดับ 6 ของกลุ่มอาเซียน แตะที่ระดับ 40.35 บาทต่อลิตร ขณะที่สิงคโปร์ ครองอันดับ 1 ราคาอยู่ที่ 80.82 บาท ส่วนราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลนั้น พบว่า สิงคโปร์ มีระดับราคาสูงสุดในกลุ่มอาเซียน แตะ 73.47 บาทต่อลิตร ขณะที่ไทยอยู่ในอันดับ 7
ทั้งนี้ “นายวีรพัฒน์ เกียรติเฟื่องฟู” ผู้อำนวยการ สนพ. อธิบายในเรื่องนี้ว่า ราคาขายปลีกน้ำมันสำเร็จรูปในแต่ละประเทศจะแตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับโครงสร้าง มาตรการด้านภาษี และนโยบายการชดเชยราคาน้ำมันของประเทศนั้น อย่างไรก็ตาม สนพ. จะติดตามสถานการณ์ดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง เพื่อเตรียมความพร้อมรองรับสถานการณ์ฉุกเฉินด้านพลังงานที่อาจจะเกิดขึ้น เพื่อสามารถดำเนินการบรรเทาผลกระทบด้านราคาพลังงานต่อประชาชนในระยะต่อไป
และสำหรับสถานการณ์ราคาน้ำมันตลาดโลกในเดือนเมษายน 2567 ที่ผ่านมา พบว่า ราคาน้ำมันดิบยังคงมีแนวโน้มปรับตัวเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับเดือนมีนาคม ซึ่งจากนี้ไปยังมีปัจจัยที่อาจส่งผลกระทบต่อราคาน้ำมันที่น่าจับตามองในด้านต่าง ๆ อาทิ สถานการณ์ความขัดแย้งในภูมิภาคยุโรปตะวันออกกลางระหว่างรัสเซียและยูเครนที่มีความตึงเครียดมากขึ้น รวมถึงตัวเลขทางเศรษฐกิจของจีนยังคงมีแนวโน้มฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง ภายหลังสำนักสถิติแห่งชาติของจีน (NBS) รายงานดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคการผลิตในเดือนมีนาคม 2567 อยู่ที่ระดับ 50.8 สูงขึ้นกว่าเดือนก่อนหน้า ที่ระดับ 49.1 โดยตัวเลขที่สูงกว่า 50 บ่งชี้ถึงภาวะการขยายตัวของเศรษฐกิจ โดยตัวเลขดังกล่าวถือเป็นการขยายตัวครั้งแรกในรอบ 6 เดือน
จากนี้ต่อไปจะต้องติดตามราคาน้ำมันดิบในตลาดโลก รวมถึงการดูแลราคาพลังงานของรัฐบาลไทยอย่างใกล้ชิด เพราะทุกเรื่องราวที่เกิดขึ้น ย่อมส่งผลต่อมาตรการพลังงานของรัฐบาล ในการดูแลประชาชน ที่พร้อมจะสะท้อนไปยังคะแนนนิยมของรัฐบาลนั่นเอง
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews