สิ้นข้อสงสัย! โฆษกรัฐบาลเผยผลการตรวจสอบข้าวจากโครงการรับจำนำข้าว 2 โกดัง จาก จ.สุรินทร์ โดยกรมวิทย์ฯ สธ. ยืนยันผ่านมาตรฐานครบถ้วน 3 ด้านหลัก “กายภาพ – ความปลอดภัย – คุณค่าทางโภชนาการ”
นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยจากกรณีข้อวิจารณ์ถึงคุณภาพของข้าวสารจากโครงการรับจำนำข้าว จำนวนกว่า 15,000 พันตัน ใน 2 โกดังข้าว ณ จังหวัดสุรินทร์ ซึ่งล่าสุดทางกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ได้เผยผลการตรวจสอบข้าวแล้ว พบว่า ข้าวทั้ง 2 โกดังจากโครงการรับจำนำข้าว จังหวัดสุรินทร์ ปลอดภัย ไม่พบสารอะฟลาท็อกซิน (Aflatoxin) ตกค้าง และยังมีคุณค่าทางโภชนาการ พร้อมย้ำมีการทำงานทุกขั้นตอนอย่างละเอียดต่อเนื่อง นับตั้งแต่วันที่ 9 พฤษภาคม 2567 เพื่อให้ได้รับผลการตรวจสอบตามมาตรฐานสากล
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ผลการตรวจสอบดังกล่าว กรมวิทย์ฯ ดำเนินการตามระบบคุณภาพตามมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม มอก. ISO/IEC 17025 ในห้องแล็บที่ได้มาตรฐานของโลกและเอเชีย ใช้บุคลากร นักวิทยาศาสตร์กว่า 10 ท่านที่มีประสบการณ์และเชี่ยวชาญสูง โดยได้รับตัวอย่างข้าวทั้ง 2 โกดัง เมื่อวันที่ 9 พฤษภาคม 2567 จากกระทรวงพาณิชย์ ที่ได้ว่าจ้างบริษัทเอกชนเป็นผู้ดำเนินการเก็บตัวอย่าง (Surveyor) คือ บริษัท โคเทคนา อินสเปคชั่น (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทที่ขึ้นทะเบียนกับกรมการค้าต่างประเทศ มีมาตรฐานในการปฏิบัติ เเละมีสำนักงานใหญ่ที่ประเทศสวิตเซอร์แลนด์
โดยแบ่งเป็น การเก็บข้าวตัวอย่างจากการผ่ากรอง 15 ชั้น จำนวน 3 กิโลกรัม และ จำนวน 5 กิโลกรัม รวมทั้งยังได้นำข้าวตัวอย่างที่ซื้อจากท้องตลาดมาเปรียบเทียบกันด้วย ซึ่งผลการตรวจจำแนกเป็น 3 ด้านหลัก โดยสรุป ดังนี้
1.) ด้านกายภาพ และสิ่งแปลกปลอม ตั้งแต่การใช้ตาเปล่า และกล้องจุลทรรศน์ขยาย 30 เท่า พบว่า ทั้งข้าวตัวอย่างที่ 1 และข้าวตัวอย่างที่ 2 พบเมล็ดข้าวทั้งเมล็ดสีเหลือง มีกลิ่นอับ พบมอดมีชีวิต และชิ้นส่วนแมลงปีกด้วงมากกว่าที่จำหน่ายตามท้องตลาด
2.) ด้านความปลอดภัย ใช้การตรวจซ้ำใหม่ (Retest) ถึง 3 ครั้ง และมีการควบคุมคุณภาพภายในห้องปฏิบัติการ (IQC) ผ่านเกณฑ์การยอมรับ พบว่า ไม่พบสารอะฟลาท็อกซิน ในข้าวตัวอย่างที่ 1 และข้าวตัวอย่างที่ 2 เช่นเดียวกับสารรมข้าว และสารเคมีป้องกันกำจัดศัตรูพืช 250 ชนิด ก็ไม่พบมีสารตกค้างด้วยเช่นกัน แต่กลับกันพบสารอะฟลาท็อกซิน ในตัวอย่างที่ซื้อมาเปรียบเทียบ ซึ่งไม่ใช่ข้าว 10 ปีที่นำมาตรวจแต่พบในปริมาณที่น้อยมาก
3.) ด้านคุณค่าทางโภชนาการ ซึ่งกรมวิทย์ฯ ได้นำตัวอย่างข้าวสารในท้องตลาดมาตรวจเปรียบเทียบกับข้าว 2 ตัวอย่างดังกล่าว พบว่า มีคุณค่าทางอาหารไม่แตกต่างกับข้าวตัวอย่างที่ซื้อจากท้องตลาดมาเปรียบเทียบกัน
ทั้งนี้ สืบเนื่องจากผลการตรวจสอบดังกล่าว ทางกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ ระบุเพิ่มเติมว่า ข้าวทั้งหมดมีจำนวน 15,013.24 ตัน คิดเป็น 145,590 กระสอบ จะบูรณาการทำงานร่วมกับองค์การคลังสินค้า (อคส.) เพื่อนำเข้าสู่กระบวนการของคณะกรรมการตรวจสอบและจัดทำ TOR เพื่อประกาศจำหน่ายข้าวทั้งหมด โดยจะประกาศจำหน่ายข้าวในสต๊อกเป็นการทั่วไป ซึ่งคาดการณ์ว่าไม่เกินสิ้นเดือนพฤษภาคม 2567 นี้
“ผลการตรวจสอบครั้งนี้ เป็นเครื่องพิสูจน์ถึงการทำงานอย่างต่อเนื่องของรัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ที่พร้อมดำเนินการทุกขั้นตอนโดยละเอียด เป็นไปตามมาตรฐานสากล ด้วยความโปร่งใส จึงขอให้ประชาชนมั่นใจได้ว่า ข้าวดังกล่าวพร้อมสำหรับการขายให้กับตลาดที่ต้องการ ซึ่งจะมีกระบวนการปรับปรุงคุณภาพข้าวให้สอดคล้องมาตรฐานและความต้องการของผู้ซื้อต่อไป เพื่อนำรายได้กลับคืนสู่คลังประเทศอย่างคุ้มค่าที่สุด”
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews