Home
|
ภูมิภาค

แถลงผลจับยาบ้าประชุมรับนโยบายรัฐ

Featured Image

 

 

 

 

นบ.ยส.35 ประชุมหน่วยงานเกี่ยวข้องวางยุทธศาสตร์แก้ปัญหายาเสพติดชายแดน หลังรัฐบาลขยายพื้นที่อีก 7 อภ.รวม 18 อภ.ชายแดนภาคเหนือ

 

 

 

พลเอกนฤทธิ์ ถาวรวงษ์ ผบ.นบ.ยส.35 เป็นประธานในการประชุมร่วมกับหน่วยงานและองค์ที่เกี่ยวข้องในการทำความเข้าใจเชิงนโยบายด้านการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดตามแนวชายแดน หลังรัฐบาลได้ประกาศพื้นที่ที่มีความจำเป็นเร่งด่วน 11 อำเภอ ของจังหวัดเชียงใหม่ และเชียงราย (อำเภอเวียงแหง, เชียงดาว, ฝาง, ไชยปราการ, แม่อาย, แม่จัน, แม่ฟ้าหลวง, แม่สาย, เชียงแสน,เวียงแก่น และ เชียงของ) ตั้งแต่เดือน ธันวาคม 2566

 

จนถึงปัจจุบัน รวมระยะเวลาร่วม 6 เดือน โดยผลการปฏิบัติการสกัดกั้น มีเหตุการณ์สำคัญ 74 เหตุการณ์ โดยมีการปะทะกับกลุ่มขบวนการ 30 ครั้ง ตรวจยึด/จับกุม 40 ครั้ง และขยายผลยึดทรัพย์ 4 ครั้ง ตรวจยึดยาบ้ารวม 129 ล้านเม็ดเศษ, ไอซ์ 1,890 กก., เฮโรอีน 249 กก., ฝิ่นดิบ 188 กก. จับกุมผู้ต้องหา 1,507 ราย กลุ่มขบวนการเสียชีวิต 25 ศพ

 

ในปัจจุบัน รัฐบาลมีนโยบายที่จะเร่งแก้ไขปัญหาการลักลอบนำเข้ายาเสพติดในทุกพื้นที่ชายแดนของประเทศ ให้เห็นผลและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ตามมติเมื่อวันที่ 16 พฤษภาคม 2567 เห็นชอบให้เพิ่มพื้นที่ที่มีความจำเป็นเร่งด่วนในพื้นที่ชายแดนภาคเหนืออีก 7 อำเภอ ได้แก่ อำเภอปายและปางมะผ้า จังหวัดแม่ฮ่องสอน, อำเภอเทิง จังหวัดเชียงราย, อำเภอภูซาง จังหวัดพะเยา, อำเภอเฉลิมพระเกียรติ จังหวัดน่าน และ อำเภอแม่สอด, อำเภอพบพระ จังหวัดตาก รวมทั้งสิ้นเป็น 18 อำเภอ

 

ทั้งนี้พลเอกนฤทธิ์ เผยว่า ในห้วงที่ผ่านมามีการจับกุมยาบ้าได้เป็นจำนวนมากในพื้นที่รับผิดชอบ อีกทั้งยังพบว่า กลุ่มขบวนลักลอบขนยาเสพติด ใช้พื้นที่จังหวัดเชียงใหม่, เชียงราย และพื้นที่ข้างเคียงเป็นทางผ่านเพื่อส่ง ไอซ์และ เฮโรอีน ออกไปต่างประเทศมากขึ้น

 

จึงได้เชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติดในพื้นที่สำคัญเร่งด่วนและพื้นที่อนุมัติเพิ่มเติม ได้แก่ ตำรวจภูธรภาค 5, ตำรวจภูธรภาค 6, ตำรวจปราบปรามยาเสพติด, กองกำลังผาเมือง, กองกำลังนเรศวร, ผู้ว่าราชการจังหวัด เชียงใหม่, เชียงราย, แม่ฮ่องสอน, พะเยา,

 

น่าน และ ตาก ป.ป.ส.ภาค 5 และ ป.ป.ส.ภาค 6 ตลอดจนที่ปรึกษาด้านการต่างประเทศ และ อุตสาหกรรม ร่วมกันพิจารณาหารือ ถึงแนวทางในการขับเคลื่อนงานด้านการสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติด ได้แก่ การเพิ่มกำลังในพื้นที่ หรือการเพิ่มความถี่ในการปฏิบัติการ ซึ่ง นบ.ยส.35 จะต้องจัดส่วนแยกออกไปดำเนินการ ประสานการทำงานเป็นไปในทิศทางเดียวกันทั้ง 6 จังหวัด18 อำเภอ ให้บรรลุตามวัตถุประสงค์ของรัฐบาล

 

นอกจากนี้ นบ.ยส.35 ยังมุ่งเน้นการประสาน และหารือกับประเทศเพื่อนบ้าน ในการส่งหมายจับของผู้ต้องหา เพื่อขอความร่วมมือในการส่งผู้ร้ายข้ามแดนกลับมารับโทษ ซึ่งจะต้องขอความร่วมมือจากสื่อมวลชนให้นำเสนอข่าวผู้ต้องหาหลบหนีข้ามแดน ก็จะเป็นการกดดันหน่วยงานที่รับผิดชอบในประเทศเพื่อนบ้านได้เร่งรัดและให้ความสำคัญจากกระแสสื่อสังคมอีกทางหนึ่ง

 

ซึ่งการประชุมในครั้งนี้จะเกิดประโยชน์ต่อทุกหน่วยงาน โดยเฉพาะในเรื่องของการประสานงานและการบูรณาการ การปฏิบัติในระดับพื้นที่ หน่วยที่มาประชุมได้ ร่วมพิจารณาการนำเสนอข้อมูลของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนปัญหาอุปสรรคไปและข้อเสนอแนะต่างๆ อันนำไปสู่แนวทางในการปรับปรุงพัฒนาการปฏิบัติ เพื่อลดระดับความรุนแรงของปัญหายาเสพติดในพื้นที่ชายแดนภาคเหนือ ให้ได้ผลอย่างเป็นรูปธรรมยิ่งๆ ขึ้นไป

 

โดยมีผู้บริหารหน่วยที่เข้าร่วมประชุมครั้งนี้ทั้ง นางจิตติวรรณ เอมมณีรัตน์ อธิบดีอัยการภาค 5 นายศิรินทร์ยา สิทธิชัย ที่ปรึกษา ป.ป.ส. นายอภิกิต ฉ.โรจน์ประเสริฐ ผอ.ปปส.ภ 5 นายศราวุธ ภักดี ผอ.ปปส.ภ 6 นายประเสริฐ จิตต์พลีชีพ รอง ผวจ.ชร พล.ต.ต.สัมฤทธิ์ เอมกมล ผบก.ภ.จว. ตาก พ.อ.กิดากร จันทรา รอง ผบ.กกล.ผาเมือง พ.อ.ไมตรี ชูปรีชา รอง ผบก.กกล.นเรศวร พร้อมเจ้าหน้าที่ของหน่วยงานต่างๆเข้าร่วมประชุมหารือโดยพร้อมกัน

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube