“พิชัย”เตรียมยื่น ครม. 28 พค. ขอ งบกลางปี 67 เติมโครงการดิจิทัลวอลเล็ต ย้ำ ยังจำเป็นต้องกระตุ้นเศรษฐกิจระยะสั้น
จากการที่สำนักงบประมาณ ได้เสนอร่าง พ.ร.บ. งบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมปี 67 วงเงิน 1.22 แสนล้านบาท เพื่อใช้เดินหน้าโครงดิจิทัลวอลเล็ตนั้น นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ในวันนี้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีได้มีการรพิจารณาตามที่สำนักงบประมาณเสนอแล้ว โดยในหลักคือการใช้งบประมาณกลางหรือจะเปลี่ยนงบแต่หากจะเปลี่ยนอาจมีปัญหาทางเทคนิค เรื่องต่างๆอาจต้องสะดุด และล่าช้าออกไป ซึ่งไม่ใช่ทางเลือกที่ดี และเมื่อมีการอนุมัติงบประมาณปี 67 แล้ว เราสามารถเร่งการใช้งบประมาณ ไปสู่การกระตุ้นเศรษฐกิจได้รวดเร็วให้เป็นไปตามเป้า
ดังนั้นจึงตัดสินใจว่า เพื่อให้โครงการนี้เดินหน้าและได้รับผลที่ดีที่สุด คือการของบประมาณเพิ่มเติม ของปี67 แต่ทั้งหมดจะต้องมีการเช็คในข้อกฎหมาย ก่อน ทั้งพ.ร.บ.งบประมาณ ต้องอยู่ในหลักเกณฑ์ และต้องอยู่ในหลักเกณฑ์ของพ.ร.บ.วินัยการเงินการคลังและที่สำคัญต้องอยู่ในกรอบที่ได้ระบุไว้ใน พ.ร.บ.หนี้สาธารณะ ต้องไม่เกินกรอบ 70% ของ GDP
โดยรายละเอียดทั้งหมดจะต้องมีการนำเสนอ คณะกรรมการนโยบายการเงินการคลังของรัฐ ที่มีนายกรัฐมนตรีเป็นประธานพิจารณาในรายละเอียด เพื่อนำไปพิจารณาในละเอียดว่าเป็นอย่างไร ก่อนที่จะดำเนินการต่อไป
โดยโครงการนี้ยังถึงว่าสำคัญหลังจาก ที่ประชุมได้รับฟังการแถลงตัวเลข GDP ในช่วงไตรมาสแรกปี67 ซึ่งมีอัตราการเติบโตของอยู่ที่ 1.7% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมาที่เติบโต 2% แต่เมื่อพิจารณาแล้วก็ถือว่าดีขึ้นเพราะในช่วงไตรมาสแรกไม่ได้ติดลบเหมือนในช่วงไตรมาสที่4ผ่านมา ทำให้เศรษฐกิจไทยยังไม่ถือว่าไม่เข้าสู่ภาวะเศรษฐกิจถดถอย โดยยังสามารถเติบโตได้ แต่ต่ำกว่าที่ได้ประมาณการไว้ ซึ่งโดยศักยภาพของประเทศประเทศไทยน่าจะสามารถเติบโตได้ดีกว่าที่มีการประเมินไว้เมื่อเทียบกับประเทศเพื่อนบ้าน เป็นสิ่งหนึ่งที่ชี้ให้เห็นว่า รัฐบาลอยากเห็นการเติบโตอย่างต่อเนื่อง มีความจำเป็นที่จะต้องหามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยล่าสุดมีการกระตุ้นเศรษฐกิจในระยะสั้น ซึ่งการกระตุ้นเศรษฐกิจ ไม่ได้หมายความว่า ประเทศไทยไม่ได้มีปัญหาเชิงโครงสร้าง จึงต้องใช้เวลาในภาคการผลิต จำเป็นต้องดึงภาคเอกชนเข้ามาเพื่อเปลี่ยนโครงสร้างของประเทศ ซึ่งต้องใช้เวลา แต่บางอย่างสามารถทำได้
โดยภาวะการเงินที่เห็นได้ง่ายที่สุดคือการเพิ่มสภาพคล่องให้กับประชาชน และ SME เราจึงคิดว่า ความจำเป็นของการกระตุ้นเศรษฐกิจ ต้องไปดูในรายละเอียดต่อไปซึ่งจะต้องรับข้อเสนอของหน่วยงานต่างๆไปพิจารณาด้วย เบื้องต้นมีเวลาไม่นานและจะมีการเสนอเข้าคณะรัฐมนตรีอีกครั้งก่อนเข้าสภาฯ
ส่วนงบประมาณจะใช้เท่าเดิมจะแต่จะต้องดูตามข้อเท็จจริงว่าจะต้องใช้เท่าไหร่ โดยในงบประมาณปี 68 ได้มีการกำหนดงบประมาณไว้แล้ว โดยยืนยันว่าทุกอย่างยังต้องอยู่ในกรอบของ พ.ร.บ. งบประมาณไม่ผิดหลักเกณฑ์และต้องไม่ผิดวินัยการเงินการคลังไม่ขัดหลักเกณฑ์ของพรบหนี้สาธารณะด้วย หลายอย่างมาประกอบกัน หากพอก็สามารถเดินหน้าได้ทันทีแต่หากไม่พอจะต้องหาวิธีอื่นต่อไป
และงบประมาณจะใช่ 1.22 แสนล้านบาทหรือไม่ เป็นการคำนวณตามการใช้สูงสุด แต่ทั้งนี้ต้องดูในรายละเอียด โดยการพิจารณาทั้งหมดจะต้องนำเข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรีอีกครั้งในวันที่ 28 พฤษภาคมนี้ ส่วนเรื่อง platform ของโครงการดิจิทัล wallet ถือว่า ยังอยู่ในระหว่างการพูดคุยกัน
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews