ในที่สุดวันนี้(23พ.ค.) “ศาลรัฐธรรมนูญ” ก็มีมติรับคำร้อง 40สว. ยื่นถอดถอน “นายกเศรษฐา” ปมตั้ง “พิชิต ชื่นบาน” เป็นรัฐมนตรี แม้มีติ่งตงิด กับ “สัญญาน”มติ 5 ต่อ 4 ที่ศาลไม่สั่งให้ “นายกเศรษฐา” หยุดปฏิบัติหน้าที่ เหมือนตอน “ลุงตู่”
ส่วน “พิชิต” รอด ศาลไม่รับคำร้องลอยตัวจบเรื่องไป เพราะชิง “ลาออก” ไปเมื่อวานที่ดูจะชื่นบานสบายตัวกว่า “นายกฯนิด” แม้จะได้ขึ้นชื่อว่าเป็น “อดีตรัฐมนตรี” เพียง 19 วัน โดย “ศาลรธน.” ให้ “เศรษฐา” ต้องยื่นคำชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาต่อศาลรัฐธรรมนูญภายในสิบห้าวัน
แน่นอนกรณีดังกล่าวนอกจากใน “มิติกฎหมาย” ที่ “นายกฯเศรษฐา” จะต้องชี้แจงต่อศาลรัฐธรรมนูญใน 15 วัน โดยมีกระบวนการพิจารณา ใน 1 เดือนหลังจากนี้
ที่หากผลออกมา หากเข้าข่ายว่ามีความผิด ไม่ว่าผิดน้อยผิดมากอย่างไรก็ตามแล้วศาลสั่งถอดถอน “รัฐบาลเพื่อไทย” ก็ต้องเตรียมหา “นายกสำรอง” ไว้
เพื่อมาเป็นนายกฯแทน “เศรษฐา” ซึ่งใน “พรรคเพื่อไทย” ก็มี “ชัยเกษม” และ “อุ๊งอิ๊งค์” บุตรสาว “นายทักษิณ” ที่เป็นแคนดิเดตนายกฯ ส่วนพรรคร่วมรัฐบาล
ก็มี “พีรพันธ์” รวมไทยสร้างชาติ(รทสช.) “ลุงป้อม” พลังประชารัฐ “เสี่ยหนู-อนุทิน” ภูมิใจไทย และ “ท็อป-วราวุธ” ชาติไทยพัฒนา ในขณะที่หาก “เศรษฐา” รอด ก็ต้องมีการปรับครม. “เศรษฐา1/3” ที่มีที่นั่งว่างหลายที่
ในขณะที่ “มิติการเมือง “มีการวิเคราะห์ปรากฎการณ์ “40สว.” ที่อยู่ระหว่าง “รักษาการ” ไปเดินเกมเร็ว ยื่นถอดถอนนายกฯและพิชิตในหลายมิติ ทั้งการมองที่มาและที่ไปของ “จุดตาย” ที่ปรากฏขึ้นว่า “เศรษฐา” จะ”ถูกวางยา”
โดยใครหรือไม่ อย่างที่ “รังสิมันต์ โรม” จากก้าวไกลตั้งข้อสงสัย ว่า กรณีตั้ง ‘พิชิต’ เป็นรัฐมนตรี มีปัญหาด้านจริยธรรมแน่นอน แต่ทำไมมีการตั้ง แถมการถามกฤษฎีกา ก็ถามไม่ครบถ้วนเอง พร้อมตั้งคำถามเป็นการ “วางยา” กันเองหรือไม่ ซึ่งสะท้อนว่า รัฐบาลไม่มีเสถียรภาพ
ในขณะอีกด้านมีเชื่อมโยงผ่านกรณี “หนังสือ” จาก “กฤษฎีกา” ที่ “ตอบกลับ” เฉพาะใน “ประเด็นเท่าจากสำนักงานเลขาธิการ ครม.กับประเด็นจำเพาะที่มีการถามไป” ในม.160(6)และ(7) ที่มีการวิจารณ์ว่า “พิชิต” อาจช่วย “ตั้งคำถาม” ถามไปที่กฤษฎีกา จนกลายเป็น “เข้าร่องแข้ง” ให้ “40สว.” ไปยื่นต่อประธานวุฒิ ในม.160(4)และ (5) ที่ว่าด้วยความสื่อสัตย์ และความผิดจริยธรรมร้ายแรง ส่งต่อศาลรัฐธรรมนูญ มาถึงวันนี้(23พ.ค.)
ระหว่างทางก่อนไปถึงวันที่ 29พ.ค.ที่จะมีการเคาะคดี “ม.112” ิของ “นายทักษิณ” ที่ก็ยัง “ไม่แผ่ว” กับการเคลื่อนไหวการเมือง กับภาพล่าสุดไปพบ “8บ้านใหญ่ปทุมธานี” โดยปมเล่นงาน “พิชิต” ที่บานมาสู่ “เศรษฐา” และรัฐบาลโดย” 40สว.”ที่มองว่ามี “ใบสั่ง” ถูกวิเคราะห์จะเป็น “นิติสงคราม” เพื่อ “สั่งสอน” นายทักษิณ หรือไม่ ในขณะอีกด้าน ก็มีการมองถึง “จังหวะ” การเปลี่ยนตัวนายกฯแทน “เศรษฐา” ของ “ผู้มีบารมีนอกรัฐบาล” หรือไม่เช่นกัน
กระนั้น ในมิติเชื่อมโยงเชิงระบบ และกฎหมาย ก็น่าสนใจ “บางสัญญาน” จาก “สุพจน์ ไข่มุกด์” อดีตตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ที่บอกเมื่อวาน(22พ.ค.)ทำนอง คดีนี้มีความซับซ้อน อาจจะต้องมีการไต่สวน ว่าทำไมก็รู้ทั้งรู้ว่า มีเรื่องของจริยธรรม การประพฤติผิดจริยธรรมอย่างร้ายแรง แล้วทำไมยังฝืนตั้งอีก แล้วยังมีประเด็นอื่นๆ อีก
หากไต่สวนแล้วได้ความว่า ตอนที่มีการส่งหนังสือไปถามความเห็นกับทางคณะกรรมการกฤษฎีกา แต่ปรากฏว่าประเด็นที่ถามกฤษฎีกา กลับมีการเว้นไม่ถามกฤษฎีกา ก็แสดงว่าเขารู้ว่า ถ้าถามไปกรรมการกฤษฎีกาจะตอบอย่างไร จึงไม่ถามกฤษฎีกาแล้วมาบอกว่า ถามกฤษฎีกาไปแล้ว กฤษฎีกาบอกว่าไม่มีปัญหาอะไรมันเป็นปมที่ต้องสืบพยานให้ชัดเจน ว่าผู้ถูกร้องมีเจตนาอย่างไร”
ที่ก็สอดรับจาก “นายดิเรกฤทธิ์ เจนครองธรรม” หนึ่งใน 40 สว.ที่เห็นว่า การแต่งตั้ง “พิชิต” ต้องพิสูจน์ด้วยว่า นายกเศรษฐา ไม่ได้ให้คนอื่นใช้ตำแหน่งของท่านเพื่อหาประโยชน์ไม่มีใครมาแทรกแซงหรือมาสั่งให้ทำ ซึ่งโดยรวมแล้ว ศาลก็จะต้องพิจารณาเรื่องนี้ต่างหากแม้ว่านายพิชิต จะลาออกแล้วก็ตาม.
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews