อคส.เปิดชี้แจ้งทีโออาร์ประมูลข้าว 10 ปีวันนี้ได้รับความสนใจ เชื่อมั่นคุณภาพข้าวได้ มั่นใจเปิดประมูลขายหมดแน่นอน
นายกฤษณรักษ์ ใจดี รักษาการในตำแหน่งผู้อำนวยการองค์การคลังสินค้า (อคส.) ได้ชี้แจงรายละเอียดทีโออาร์ การเปิดประมูลข้าวหลังจากได้ประกาศหลักเกณฑ์การจำหน่ายข้าวสาร ในสต๊อกของรัฐบาลเป็นการทั่วไป โดยระบายแบบเหมาคลังตามสภาพของข้าวที่เก็บรักษา จากโครงการรับจำนำ 10 ปี ในวันนี้ได้รับความสนใจ จากภาคเอกชนเข้าร่วมรับฟังการชี้แจง หลายราย
ซึ่งทีโออาร์ในครั้งนี้ต่างจากการเปิดประมูลข้าวของรัฐบาลในครั้งที่ผ่านๆมา ในส่วนของ การเก็บตัวอย่างข้าวในคลังที่นำมาเปิดประมูล ระหว่างวันที่ 31 พ.ค.-7 มิ.ย.2567 ที่จะเปิดให้ผู้ที่สนใจเข้าร่วมประมูลเข้าตรวจสอบข้าวในโกดังได้ทางกายภาพ แต่จะไม่อนุญาตให้ผู้ประมูลนำตัวอย่างข้าวออกนอกคลังสินค้า หรือดำเนินการตรวจสอบด้วยวิธีอื่นใดกับข้าวในคลังสินค้า เพราะเห็นว่าที่ผ่านมาได้มีการพิสูจน์คุณภาพไปมากแล้ว และมั่นใจได้ว่าข้าวในโกดังของรัฐบาลมีคุณภาพที่จะสามารถนำมาเปิดประมูลเป็นการทั่วไปได้
ซึ่งผู้ที่สนใจประมูลจะต้องมีการยื่นซองเพื่อขอตรวจสอบคุณสมบัติและหาก ผ่าน จึงจะสามารถ เข้าร่วมยื่นซองประมูลได้ ในวันที่ 17 มิ.ย. ซึ่งในวันเดียวกัน จะทำการเปิดซองประมูล เจรจาต่อรอง และคาดจะประกาศผู้เสนอราคาสูงสุดได้ในวันเดียวกัน
โดยผู้ชนะการประมูลจะต้องมาทำสัญญากับ อคส. ภายใน 15 วันหลังจากที่ได้รับแจ้ง และหากผู้ชนะการประมูลทำผิดสัญญาการประมูลไม่มารับข้าว จะมีการเรียกผู้ชนะการประมูลในลำดับถัดไปมาทำสัญญากับทาง อคส.แทนโดยให้ผู้ที่ทิ้งสัญญาการประมูล ต้องชดเชยส่วนต่างราคาที่ภาครัฐควรจะได้รับ ถือเป็นเงื่อนไขทีโออาร์ที่มีการกำหนดขึ้นใหม่ เพื่อทำให้การประมูลในครั้งนี้มั่นใจว่าจะสามารถประมูลขายข้าวออกไปได้ทั้งหมด
ด้านนายวิชัย ศรีนวกุล นายกสมาคมโรงสีข้าวภาคตะวันออกเฉียงเหนือระบุว่า มาตามคำเชิญจาก อคส. ส่วนจะสนใจเข้าร่วมการประมูลหรือไม่นั้น จะต้องรอไปดูตัวอย่างข้าวจริงในคลังก่อนแต่ในเบื้องต้น มีข่าว ผลตรวจสอบคุณภาพของรัฐ ว่า ข้าวยังสามารถบริโภคได้ ก็เชื่อว่าจะมีผู้สนใจเข้าร่วมประมูล
โดยมองว่า ผู้บริโภคไม่ต้องกังวล เพราะหากข้าวใช้ได้แล้ว ก็จะมีการขายตามสภาพ รวมทั้งก่อนจะจำหน่ายออกสู่ตลาด จะมีการเข้ากระบวนการปรับปรุงคุณภาพ จะทำให้คุณภาพข้าวเข้ามาอยู่ในเกณฑ์มาตรฐานในการซื้อขายอยู่แล้ว และการจะส่งออกต่างประเทศ หรือบริโภคในประเทศ ไม่ควรแบ่งแยกว่า จะทำเพื่อการส่งออกเท่านั้น เพราะหากคุณภาพข้าวระบุว่าสามารถบริโภคได้ก็หมายถึงคนไทยบริโภคได้ และคนต่างประเทศก็บริโภคได้เช่นกัน
นอกจากนี้ ยังอยากให้มีการหยิบยกเรื่องนี้ ขึ้นมาเป็นกรณีศึกษาว่า ข้าวที่เก็บมา 10 ปี ยังรักษาคุณภาพไว้ได้ เพราะอาจจะเป็นการเตรียมความพร้อมล่วงหน้า หากอนาคตเกิดวิกฤติการณ์ต่างๆ โดยเฉพาะทางด้านอาหาร ทำให้มีบทเรียนในการเก็บสต๊อกข้าว
นอกจากนี้ ที่มีผู้สนใจนำไปทำเข้าถุง และอาจจะกำหนดให้มีการระบุว่า เป็นข้าว 10 ปีด้วยนั้น มองว่า ไม่มีความจำเป็น เพราะข้าวถุงจะผ่านกระบวนการคัดแยกที่ละเอียดอยู่แล้ว และอาจจะนำไป ผสมกับข้าวชนิดอื่นก่อนบรรจุถุง ซึ่งทุกวันนี้ อาจมีข้าวหลายปี นำไป บรรจุถุงขายแต่ก็ไม่ได้มีการระบุปี
และมองว่ามาตรฐานข้าวที่จำหน่ายอยู่ทุกวันนี้มีมาตรฐานสูงขึ้นมากเพราะในระบบการปรับปรุงและเครื่องจักรที่มีในประเทศไทยเป็นถือว่าทันสมัยระดับโลกไม่น่าห่วงเรื่องคุณภาพข้าว
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews