”คมปฏัก” ป้องกันแชมป์ ซูเปอร์เฟเธอร์เวทราชดำเนิน ปะทะ ”ฉลาม”

ค้นหาที่สุดของยอดมวยไทยแห่งรุ่น 130 ปอนด์ คมปฏัก ป้องกันแชมป์ ซูเปอร์เฟเธอร์เวทราชดำเนิน ปะทะ ฉลาม พิสูจน์ ใน RAJADAMNERN STADIUM CHAMPIONSHIP SUPERFIGHT ครั้งที่4

 

อีกหนึ่งคู่มวยในฝันได้กลายเป็นความจริงอีกคู่แล้ว เมื่อล่าสุดได้มีการประกาศยืนยันอย่างเป็นทางการมาแล้วว่า คมปฏัก อ.อัจฉริยะ จะขึ้นชกป้องกันแชมป์รุ่นซูเปอร์ เฟเธอร์เวทเวทีราชดำเนินกับ ฉลาม พรัญชัย ซึ่งคมปฏักและฉลามต่างก็ได้ชื่อว่าเป็นที่สุดของพิกัด 130 ปอนด์ ทำให้สามารถพูดได้เลยว่านี่คือศึกค้นหายอดมวยแห่งพิกัดนี้อย่างแท้จริง โดยทั้งคู่จะได้ฤกษ์ประชันฝีมือกันใน RAJADAMNERN STADIUM CHAMPIONSHIP SUPERFIGHT วันเสาร์ที่ 8 มิ.ย. นี้ ที่เวทีราชดำเนิน

 

หลังจาก RAJADAMNERN STADIUM CHAMPIONSHIP SUPERFIGHT สร้างปรากฎการณ์เป็นคู่มวยสะท้านเมืองมาแล้วถึง 3 ไฟต์ติดต่อกัน อย่างไฟต์ล่าสุดก็สร้างปรากฏการณ์ในวงการมวยไทยไปแล้วจากเหตุการณ์ที่  ขุนศึกเล็ก บูมเด็กเซียน หวดแข้งซ้ายเข้าก้านคอน็อก เพชรสยาม จ.ภัทรียา ในยกที่สาม ป้องกันเข็มขัดแชมป์รุ่นแบนตัมเวต ของเวทีราชดำเนินไปได้ เมื่อ 11 พ.ค. ที่ผ่านมาในไฟต์ที่ได้รับการขนานนามว่าเป็นศึกค้นหายอดมวยไทยแห่งยุค

 

อย่างไรก็ตาม ดูท่าว่า RAJADAMNERN STADIUM CHAMPIONSHIP SUPERFIGHT ในวันเสาร์ที่ 8 มิ.ย. น่าจะเป็นคู่ที่ดุเดือดไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากันเลย เพราะเป็นการพิสูจน์ความเป็นที่สุดของยอดมวยเบอร์หนึ่งในรุ่น 130 ปอนด์อย่างแท้จริง เพราะว่าจะเป็นการเจอกันระหว่างสองนักมวยที่มาจากภาคใต้และได้ชื่อว่าเป็นนักชกฟอร์มแกร่งของพิกัดนี้เหมือนกัน โดย คมปฏัก อ.อัจฉริยะ เจ้าของเข็มขัดแชมป์รุ่นซูเปอร์ เฟเธอร์เวท เวทีราชดำเนินจะป้องกันตำแหน่งกับ ฉลาม พรัญชัย ถือเป็นคู่มวยที่ถูกประกบได้ถูกคู่ถูกเวลาเป็นอย่างมาก

 

คมปฏัก อ.อัจฉริยะ ปัจจุบันอายุ 25 ปี เป็นชาวจังหวัดสงขลา มีสถิติการชกมาแล้วกว่า 100 ครั้ง เป็นมวยสูงยาว เข่าดี มีแข้งขวาที่ดุดัน และคว้าแชมป์รุ่นซูเปอร์ เฟเธอร์เวท เวทีราชดำเนินไปครองเมื่อเอาชนะ สมรักษ์น้อย  มวยเด็ด 789 ในการชิงแชมป์ศึก RWS เมื่อ 13 เม.ย. 2567 และคมปฏักยังเป็นนักมวยที่มีลีลาครบเครื่อง ปราบนักมวยในพิกัด 130 ปอนด์มาแล้วแทบทุกคน ขาดเพียงแค่ ฉลาม พรัญชัย คนเดียวเท่านั้นที่ยังไม่เคยเจอกันเลยแม้แต่หนเดียว

 

ในขณะที่ ฉลาม พรัญชัย อายุ 29 เป็นนักมวยมาจากจังหวัดนครศรีธรรมราช สูง 174 ซ.ม. ใกล้เคียงกับคมปฏัก ผ่านสถิติการชกมากว่า 100 ครั้งเหมือนกัน เป็นมวยเดินหน้าลุย เตะต่อยปล้ำตีได้ดุดัน โดยปกติแล้วนักมวยจากนครศรีธรรมราชผู้นี้ปักหลักชกอยู่ที่เวทีมวยลุมพินีและเวทีมวยช่อง 7 สี แถมเคยได้แชมป์เฟเธอร์เวทของเวทีลุมพินี และแชมป์ซูเปอร์เฟเธอร์เวตของช่อง 7 สีมาก่อน และนับตั้งแต่ปี 2562 ยังไม่เคยแพ้ใคร รวมแล้วถึง 12 ไฟต์ติดต่อกัน ซึ่งจุดประสงค์ที่ฉลามบุกมาที่เวทีมวยไทยแห่งแรกของโลกในไฟต์นี้ก็เพื่อจุดประสงค์ที่ชัดเจนคือการตอกย้ำให้ทุกคนได้เห็นว่าเขาเองก็มีฝีมือที่ฉกาจฉกรรจ์และคู่ควรกับเข็มขัดแชมป์เวทีราชดำเนินเหมือนกัน

 

 

การเจอกันในวันเสาร์ที่ 8 มิ.ย. นี้ เป็นการพิสูจน์ว่าใครคือนักมวยไทยที่เจ๋งที่สุดในพิกัด 130 ปอนด์ และยังต้องมาตามลุ้นว่า ฉลาม พรัญชัย จะได้แชมป์เวทีราชดำเนินหรือว่าจะถูกหยุดสถิติไม่แพ้ใครไว้ที่ 12 ไฟต์

 

ทั้งนี้ RAJADAMNERN STADIUM CHAMPIONSHIP SUPERFIGHT นอกจากจะเป็นการชิงแชมป์รุ่น 130 ปอนด์ของราชดำเนินแล้ว ยังมีโอกาสรับเงินรางวัลตามหลักเกณฑ์ดังนี้

– RAJADAMNERN STADIUM CHAMPIONSHIP SUPERFIGHT  Winner ผู้ชนะจะได้รับเงินรางวัล 500,000  บาททันทีนอกเหนือไปจากค่าตัว

– RAJADAMNERN STADIUM CHAMPIONSHIP SUPERFIGHT Knockout Award หากมีการน็อกเอาท์เกิดขึ้น เงินรางวัลผู้ชนะจะถูกเพิ่มไปเป็น 1,000,000 บาท

– RAJADAMNERN STADIUM CHAMPIONSHIP SUPERFIGHT Honorable Fight Award ถ้านักมวยทั้งคู่ชกกันดุเดือดชนะใจแฟนๆ นักมวยทั้งสองคนก็จะได้รับโบนัสเพิ่มเติมอีกคนละ 250,000 บาท

 

อย่างไรก็ตาม ถ้าหากว่าระหว่างชก ตัวนักมวยมีการเต้นกันเกิดขึ้น ไม่มีการออกอาวุธใดๆเป็นระยะเวลายาวนานจนกรรมการให้ใบแดง นักมวยทั้งสองจะหมดสิทธิรับโบนัสทั้งหมดทันที

การชกระหว่างคมปฏักกับฉลามจะมีขึ้นในวันเสาร์ที่ 8 มิ.ย. นี้ ที่เวทีมวยราชดำเนิน ใน RWS – Rajadamnern World Series จะมีการถ่ายทอดสดผ่านทางทางทีวีเวิร์คพอยท์ช่อง 23 รวมทั้งช่องทางรับชมเพิ่มเติมทาง Youtube : WorkpointOfficial และ Facebook : Workpoint Entertainment นอกจากนั้นแล้วยังมีการถ่ายทอดสดผ่านทาง ดะโซน (DAZN) สตรีมมิงคอนเทนต์กีฬายักษ์ใหญ่ โดยมีการถ่ายทอดสดไปกว่า  200 ประเทศและเขตการปกครองทั่วโลก เริ่มเวลา 21.15 น.

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews