Home
|
ข่าว

“พิชัย” แนะรวม 3 การไฟฟ้า แก้ปัญหาค่าไฟแพง

Featured Image

 

 

“พิชัย” แนะรวม 3 การไฟฟ้า แก้ปัญหาค่าไฟแพง หวัง “มาริษ” เจรจากัมพูชา ฉลุย! ยึดประโยชน์สูงสุดของประเทศไทย

 

 

นายพิชัย นริพทะพันธุ์ ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ด้านเศรษฐกิจ การพาณิชย์ การเงินการคลัง พลังงาน การท่องเที่ยว และเศรษฐกิจดิจิทัล กล่าวว่า พื้นที่ทับซ้อนทางทะเลไทย-กัมพูชา นั้น ขณะนี้ นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรี ว่าการ กระทรวงการ ต่างประเทศ อยู่ระหว่างเจรจากับผู้นำกัมพูชา

 

อย่างไรก็ตาม ส่วนตัวอยากให้มองว่าเป็นสิ่งที่ต้องทำ เพราะหากไม่ทำอีกไม่กี่ปีก็จะถูกกีดกันและไม่ให้มีการใช้ก๊าซอีกต่อไปแล้ว จะเห็นได้ว่ายิ่งอุณหภูมิที่เพิ่มสูงขึ้นในปัจจุบันนี้ ส่งผลให้เกิดโลกเดือน ทุกคนต่างก็โทษเพราะมาจากการใช้ฟอสซิลที่กลายเป็นผู้ร้าย ซึ่งปีค.ศ. 2050 โอกาสที่จะเลิกใช้ก็มีมากขึ้น อีกทั้งยังมีปัญหาภาษีคาร์บอนที่เข้ามาเกี่ยวข้องด้วย

 

“ถ้าไม่ขุดตอนนี้อนาคตก็ไม่ได้ขุด มูลค่า 10-20 ล้านล้านบาท ก็จะไม่ได้ใช้แล้ว และหมดคุณค่าไป ส่วนตัวจึงอยากให้เกิดโดยเร็ว เพราะประเทศไทยมีโรงแยกก๊าซถึง 6 โรง และโรงปิโตรเคมีอยู่อีกมากมาย ช่วยสร้างเม็ดเงินให้กับประเทศตามมาอีกมหาศาล ซึ่งกัมพูชาคงไม่ลงทุนแน่นอนเพราะต้องใช้เม็ดเงินลงทุนเบื้องต้นหลักแสนล้านบาท”

 

ทั้งนี้ จึงอยากให้ยึดประโยชน์สูงสุดของประเทศไทย ตนจะพูดเสมอว่าไม่ต้องพูดถึงอนาเขตเลย เน้นนำก๊าซออกมาให้ได้ดีที่สุด เพราะหากพูดถึงเขตแดนอีก 100 ปีก็ไม่จบ เรื่องเขตแดนทั้งโลกเป็นเหมือนกัน อย่างยุโรปก็มีพื้นที่ทับซ้อนเช่นกัน ถ้าพูดเรื่องนี้ก็ไม่จบ แนวทางแก้ไขคือไม่ต้องพูดถึง คุยแต่เรื่องของการนำก๊าซมาสร้างมูลค่าเพิ่ม 20 เท่า และไม่เชื่อว่ากัมพูชาจะไปสร้างโรงแยกก๊าซหรือโรงปิโตรเคมีใหม่แน่นอน หากแบ่งผลประโยชน์ 50:50 เราก็ใช้ส่วนเรา ถ้าเขาไม่ใช้เราก็ซื้อเพราะราคาถูกกว่านำเข้า LNG มาก

 

อย่างไรก็ตาม เจ้าภาพหลักในเรื่องนี้ คือ กระทรวงการต่างประเทศ และเมื่อเจรจาสำเร็จ ก็จะมาอยู่ที่กระทรวงพลังงาน และหน่วยงานความมั่นคง ก็ควรเข้าไปดูการขุดเจาะก๊าซด้วยเช่นกัน ไม่ต้องไปดูพื้นที่ทับซ้อน และอย่าไปพูดเพื่อไม่ให้เกิดการเจรจาให้สำเร็จอีกเลย

 

สำหรับเวลาในการสำรวจมองว่าจะใช้เวลา 2-7 ปี โดย 2 ปีแรกจะสามารถขุดเจาะหลุมบริเวณอ่าวไทยที่ติดกับแหล่งเอราวัณ และบงกชได้ เชื่อว่าจะมีก๊าซก็จะสามารถติดตั้งได้เลย เพื่อทำให้ค่าไฟฟ้าถูกลงเพราะจะเหลือต้นทุนราว 2 บาทกว่าๆ ดังนั้น ในช่วงเปลี่ยนผ่านพลังงานควรต้องใช้ประโยชน์ก่อน เหมือนนมกล่องจะหมดอายุ ไม่รีบกินรีบใช้ก็ต้องทิ้ง

 

“หวังว่าท่านรมว.ต่างประเทศ จะเจรจาจบ เพราะได้ประโยชน์ทั้ง 2 ประเทศ ความสัมพันธ์ที่ดีจะช่วยให้จบง่ายขึ้น รัฐบาลได้เงิน ได้สัมปาน สมัยก่อนตอนนตเป็นรมว.พลังงานแค่ค่าภาคหลวงก็ปีละกว่า 2 แสนล้านบาท เพราะหากช้าจะเหลือน้อยลง ต่อมาจะโดนเรื่องภาษีอีกการใช้ก็ไม่คุ้ม ยิ่งตอนนี้ การติดตั้งโซลาร์ถูกลงมาก”

 

นอกจากนี้ ปัจจุบันธุรกิจดาต้าเซ็นเตอร์มีความต้องการใช้พลังงานสะอาดทั้งหมด บริษัทเดลล์ มีเทคโนโลยีช่วยลดการใช้พลังงานได้ถึง 50% แต่นักธุรกิจไทยไม่มีเงินทุนจะลำบาก ตนได้หารือกับผู้บริหารระดับสูงถึงแนวคิดการนำไฟฟ้าจากพลังงานน้ำของ สปป.ลาว ซึ่งปัจจุบันราคาระดับ 2 บาทกว่า มาให้บริการ

 

ทั้งนี้ ตนมีแนวคิดรวม 3 การไฟฟ้า ทั้ง การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) การไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) และการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) เพื่อลดต้นทุนในการบวกเพิ่มระบบสายส่ง เพราะเมื่อควบรวมแล้วจะลดค่าใช้จ่ายไม่ต้องจ่ายหลายทอด ต้นทุนก็สูงขึ้น ซึ่งการควบรวมนี้ถือเป็นเรื่องยาก เพราะอยู่คนละกระทรวง ต้องใช้อำนาจสูงสุด

 

“การต่อไฟฟ้าเข้าด้าต้าเซ็นเตอร์บริเวณชายแดนจะคิดค่าไฟได้ถูกลง เพราะปัจจุบันต้นทุนดาต้าเซ็นเตอร์มาจากพลังงาน 70-80% ที่ใช้ไฟฟ้ามาก ซึ่งไฟฟ้าจากสปป.ลาว เหลือเยอะ และเป็นไฟสะอาดจะช่วยได้ จึงมีแนวคิดว่าจะทำได้ขนาดไหน ซึ่งต้องคุยทั้ง 3 การไฟฟ้า เพราะต้องไปติดตั้งระบบแถว สปป.ลาว”

 

อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่า เป็นแนวคิดว่า 3 การไฟฟ้า ทำงานซับซ้อน ทำให้ค่าใช้จ่ายโดยเฉพาะค่าไฟสูงขึ้น ทางแก้ควรตัดตรงนี้ลงเพื่อให้ต้นทุนค่าไฟถูกลง เป็นการนำเสนอมีการหารือกับผู้บริหารระดับสูงบ้างแล้ว ถือเป็นประโยชน์ จะให้มากินซ้ำซ้อนทำไม สายส่งก็คืนทุนมานานแล้ว อีกทั้งก็ไม่ต้องใช้พนักงานจำนวนมาก หากรวมกันจะมีประสิทธิภาพได้ ช่วยลดต้นทุน และช่วยเพิ่มความสามารถทางการแข่งขันได้ด้วย

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube