ความเคลื่อนไหวของฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป หรือ ยูโร 2024 ใกล้เข้ามามาถึงแล้ว โดยครั้งนี้ เยอรมนี จะเป็นเจ้าภาพ โดยจะเปิดฉากแข่งขันอย่างเป็นทางการ ในระหว่างวันที่ 14 มิถุนายน – 14 กรกฎาคม 2567 นี้ ซึ่งมี 24 ชาติ ร่วมโม่แข้ง โดยแบ่งเป็น 6 กลุ่มๆละ 4 ทีม ซึ่งทีมใดจะไปได้ไกลถึงการคว้าแชมป์ในครั้งนี้ เราลองไปดูกัน
เริ่มจาก กลุ่ม เอ มีเจ้าภาพ เยอรมนี อยู่ร่วมสายกับ สกอตแลนด์, ฮังการี และ สวิตเซอร์แลนด์
ในกลุ่มนี้คาดว่า เยอรมนี มีโอกาสเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้าย ด้วยการเป็นแชมป์กลุ่ม ขณะที่ ฮังการี มีโอกาสจบอันดับ 2 ส่วน สวิตเซอร์แลนด์ และ สกอตแลนด์ เป็น 2 ทีมที่ถูกมองว่า โอกาสจะแย่งจบอันดับ 3 เพื่อลุ้นเป็น 4 ทีมที่ดีที่สุดจาก 6 กลุ่มเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้าย
ขณะที่ กลุ่ม บี มี สเปน, โครเอเชีย,แอลเบเนีย และ แชมป์เก่า อิตาลี
กลุ่มนี้ถูกมองว่าเป็น กรุ๊ปออฟเดท หรือ “กลุ่มแห่งความตาย” เพราะมีแชมป์เก่าอย่าง อิตาลี รวมถึงแชมป์โลกอย่าง สเปน มาอยู่ในสายเดียวกัน ซึ่งถูกคาดว่า สเปน จะจบเป็นแชมป์กลุ่ม หรือแย่สุดก็จบอันดับสองของกลุ่ม ขณะที่ อิตาลี และ โครเอเชีย ถูกมองว่าจะผ่านเข้ารอบน็อกเอาต์ในฐานะหนึ่งในทีมอันดับสามที่ดีที่สุด ส่วน แอลเบเนีย ไม่น่าจะสามารถรับมือกับบรรดาทีมระดับแนวหน้าของยุโรปและถูกมองว่าจะจบเป็นอันดับสุดท้าย
มาต่อกันที่ กลุ่ม ซี ประกอบด้วย สโลวีเนีย, เดนมาร์ก, เซอร์เบีย และ ทีมขวัญแฟนบอลชาวไทยอย่าง ทีมชาติอังกฤษ
กลุ่มนี้ มีโพลหลายสำนัก ยกให้อังกฤษ เป็นเต็ง 1 ในการที่จะคว้าแชมป์ครั้งนี้ ทำให้ ลูกทีมของ แกเร็ธ เซาธ์เกต จะผ่านเข้าสู่รอบ 16 ทีม ด้วยการเป็นแชมป์กลุ่ม และเข้าไปลุ้นแชมป์ยุโรป ที่รอคอยมานานถึง 58 ปี ไม่ยาก ขณะที่ เดนมาร์ก กับ เซอร์เบีย ถูกมองว่าจะแย่งเข้ารอบเป็นอันดับ 2 หรือ 3 ส่วน สโลวีเนีย คาดว่าจะจบอันดับสุดท้ายของกลุ่ม
มาที่ กลุ่ม ดี กันบ้าง ที่มี ทีมชาติ โปแลนด์, เนเธอร์แลนด์, ออสเตรีย และ ฝรั่งเศส ร่วมอยู่ในสาย ซึ่งนับเป็นอีก 1 กลุ่ม ที่มีทีมใหญ่ ทั้ง 4 ทีม มาอยู่กันพร้อมหน้า โดยในกลุ่มนี้ คาดว่า ฝรั่งเศส และ เนเธอร์แลนด์ คาดว่าจะจบ 2 อันดับแรก ส่วน ออสเตรีย จะจบอันดับ 3 พร้อมกับถูกเลือกให้ว่าจะเป็นอันดับ 3 ที่ดีที่สุด 4 ทีมที่ได้เข้ารอบอย่างแน่นอน ส่วนอันดับสุดท้ายของกลุ่มนี้คาดว่าน่าจะเป็น โปแลนด์ ที่ถูกมองว่าจบบ๊วยกลุ่มนี้
ถัดมาที่ กลุ่ม อี ที่ประกอบไปด้วย ทีมชาติ เบลเยียม, สโลวาเกีย, โรมาเนีย และ ยูเครน
กลุ่มนี้ เบลเยียม ถูกยกให้เป็นแชมป์กลุ่ม ขณะที่ ยูเครน ยังเป็นทีมเต็งที่มีโอกาส จบอันดับ 2 เข้ารอบน็อกเอาท์ มากกว่า สโลวาเกีย และ โรมาเนีย โดย สโลวาถูกมองว่าจะไม่ผ่านเข้าสู่รอบ 16 ทีมสุดท้ายเช่นกัน
ปิดท้ายด้วย กลุ่ม เอฟ ที่มีทีมชาติ ตุรกี, จอร์เจีย, เช็ก และ โปรตุเกส
กลุ่มนี้ โปรตุเกส ที่นำมาโดย คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ถูกยกอย่างเป็นเอกฉันท์ให้จบแชมป์กลุ่ม ส่วนตุรกี มีโอกาสที่จะจองตำแหน่งรอบ 16 ทีมโดยเข้ารอบอัตโนมัติ ขณะที่สาธารณรัฐเช็ก จบอันดับ 3 แต่ก็ถูกมองว่าจะไม่ใช่ทีมอันดับ 3 ดีที่สุด 4 ทีมที่จะได้เข้ารอบน็อกเอาท์ ส่วน จอร์เจีย ที่เข้ามาเล่นยูโร รอบสุดท้ายครั้งแรก น่าจะจบอันดับสุดท้ายของกลุ่ม
อย่างไรก็ตาม ล่าสุด ซูเปอร์คอมพิวเตอร์อย่าง “ออปตา” เว็บไซต์รวบรวมสถิติฟุตบอลชื่อดัง ได้มีการทำนายผลการแข่งขันล่วงหน้าล่าสุดเป็นเปอร์เซ็นต์ว่าทีมชาติใดจะมีสิทธิคว้าแชมป์ยูโร 2024 ไปครองมากที่สุด
ผลปรากฏว่า ทีมชาติอังกฤษ มีเปอร์เซ็นต์มากสุดด้วยโอกาส 19.9% ตามมาด้วย ฝรั่งเศส อันดับสอง 19.1% และเยอรมนี อันดับสาม 12.4%
ขณะที่อันดับสี่ถึงอันดับหกได้แก่ สเปน, โปรตุเกส และเนเธอร์แลนด์ ด้วยโอกาส 9.6%, 9.2% และ5.1% ตามลำดับ ด้านอิตาลี แชมป์เก่าอยู่ในอันดับเจ็ดด้วยโอกาส 5%
ซึ่งที่กล่าวมาทั้งหมดเป็นเพียงการคาดเดา ส่วนทีมใดจะก้าวไปคว้าแชมป์ยูโรหนนี้ได้นั้น วันที่ 24 กรกฎาคม ได้รู้กันแน่นอน
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews