“ภูมิธรรม”เดินหน้าประมูลข้าว10ปี รอดูมีคนสนใจแค่ไหน รายเดียวก็ขายได้ มีราคากลางใช้ต่อรอง ขณะที่ราคาผลปาล์มรวมถึงสินค้าเกษตรอื่นๆดีขึ้นแล้ว ตั้ง “ธรรมนัส”ดูแลในพื้นที่
นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยถึงความคืบหน้าการประมูลข้าวในโครงการรับจำนำของรัฐบาลซึ่งวันที่ 10 มิถุนายนนี้ จะมีการเปิดให้ผู้ที่สนใจยื่นซองขอตรวจสอบคุณสมบัติเข้าร่วมการประมูล ว่า คิดว่าข้าวที่นำมาประมูลในครั้งนี้ตั้งแต่มีการตรวจคุณภาพ มีความเข้าใจในเรื่องนี้มีมากขึ้นแล้ว ทุกคนมีความสบายใจที่จะประมูล แต่มีบางคนที่ยังตั้งคำถามมีความสงสัยแบบไม่จบ ทำให้มีความหวั่นไหวไปบ้าง
แต่ตนขอยืนยันไปยังผู้ประกอบการข้าวทุกคนว่า ข้าวที่กระทรวงขายเป็นข้าวที่มีคุณภาพ สามารถรับประทานได้ ทุกประเทศไม่ว่าจะเป็นประเทศเจริญแล้วหรือประเทศกำลังพัฒนา คิดว่าได้มีการพูดคุยถึงสิ่งดังกล่าวไปมากพอสมควรแล้วสำหรับการประมูล หากเชื่อมั่นในสิ่งต่างๆก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร
โดยยอมรับว่ากังวลใจกับการท้วงติงที่พูดแบบไม่ยอมจบดราม่าไปเรื่อยวันนี้จะเป็นปัญหา จะทำให้ไม่มาเข้าร่วมประมูลได้ตามที่คาด ปกติเข้าไทยตอนนี้คุณภาพดีขึ้น ต้องดูว่าผู้ประมูลจะมาเท่าไหร่อย่างไร ซึ่งผู้ประมูลเขาต้องมีตลาดอยู่แล้ว คิดจะเอาไปทำอะไร ไม่ว่าจะเป็นพลังงานหรือไปผลิตอื่นๆ เขาต้องคิดมาแล้ว เชื่อว่าจะมีคนมาประมูล แต่หากไม่มีก็จะต้องขอดูความเป็นจริงอีกครั้ง เป็นไปได้ที่จะ
อาจขยายเวลาออกไปทำความเข้าใจให้มากขึ้น หรือหากมีผู้ประมูลน้อยราย หรือ 1 ราย ก็จะต้องมาดูข้อกฎหมายว่าเราจะทำอะไรได้บ้าง มีหลายวิธีขอดูความเป็นจริงก่อน เพื่อทำให้เกิดการประมูลให้ได้หากมีผู้ประมูลรายเดียวก็จะเปิดซอง เจรจาต่อรองราคา เพราะทางคณะกรรมการที่มีการตั้งไว้ มีราคากลางอยู่ในใจว่าข้าวคุณภาพเท่านี้จะได้ราคาเท่าไหร่ในภาวะที่ข้าวกำลังดี แต่ขอดู สถานการณ์วันที่มีการยื่นประมูลก่อน
หากมีรายเดียวเราก็มีอำนาจในการต่อรองราคาว่าเราจะยอมหรือไม่ยอม ในการขายก็ได้ขึ้นอยู่กับดุลพินิจของคณะกรรมการว่าถ้าราคาข้าวนานขนาดนี้ราคาประมาณนี้ถ้ารับได้ก็อาจตัดสินใจขายเพราะเราทำทุกอย่างอย่างโปร่งใสแล้วมีทุกอย่างตรวจสอบได้
ยืนยันว่าการประมูลข้าวในครั้งนี้ไม่กระทบกับราคาข้าวในตลาด เพราะเป็นข้าวคนละส่วนกัน ราคาข้าวในตลาดขึ้นอยู่กับระบบอุปสงค์และอุปทาน และข้าวไทยเป็นข้าวที่มีคุณภาพตลาดไหนก็มีความต้องการข้าวที่เรานำมาประมูลในครั้งนี้มีเพียง 15,000 ตันและชัดเจนว่าประมูลล็อตนี้ออกไปจะไปอยู่ที่ไหน ปริมาณข้าวในประเทศทั้งหมดเรามีหลายล้านตันไม่คิดว่าจะเป็นประเด็น
สำหรับสถานการณ์ราคาสินค้าเกษตรอื่นเวลานี้ยังอยู่ในเกณฑ์ที่ดี เรื่องปาล์มสืบเนื่องจากการได้รับผลกระทบมาจากสถานการณ์ภัยแล้งทำให้ปริมาณ ผลผลิตน้อยลง แต่เป็นเพียงช่วงสั้นเวลานี้ฝนเริ่มตกแล้ว ทำให้ผลผลิตเริ่มมีมากขึ้นไม่น่าจะมีปัญหาอะไร โดยที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายปาล์มน้ำมันแห่งชาติได้มีการติดตามสถานการณ์ในส่วนของปัญหาภัยแล้งและมีการกำหนดมาตรการรองรับ ก่อนหน้านี้ได้มี
การกำหนดราคารับซื้อเพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ตลาด ไม่ให้มีการกดราคาของเกษตรกร ซึ่งเวลานี้ราคาผลปาล์มมีการปรับราคาเพิ่มขึ้นอยู่ที่เฉลี่ยกิโลกรัมละ 4.70 บาทแล้ว โดยผู้ประกอบการจะต้องมี การส่งรายงานสถานการณ์มายังกระทรวงพาณิชย์เป็นประจำทุกวัน
นอกจากนี้ยังมีการพิจารณามาตรการในระยะยาวดูในเรื่องของการเพิ่มผลผลิตและคุณภาพ ซึ่งกระทรวงอุตสาหกรรมจะเป็นผู้รับผิดชอบในเรื่องของการดูแลพัฒนาคุณภาพการผลิต สอดรับกับในส่วนของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ที่ ต้องดูแลในเรื่องของปริมาณการผลิต โดยที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายปาล์มน้ำมันแห่งชาติได้มี
การแต่งตั้งให้ร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เป็นผู้ดูแลในพื้นที่ประสานงานกับทุกกระทรวงที่เกี่ยวข้องไม่ว่าจะเป็นกระทรวงอุตสาหกรรมกระทรวงพาณิชย์ เชื่อว่า สถานการณ์จะคลี่คลายไปได้ แต่หากประชาชน ได้รับผลกระทบจากการรับซื้อที่ไม่เป็นธรรมสามารถ ร้องเรียนมายังกระทรวงพาณิชย์เพื่อให้เข้าตรวจสอบได้
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews