โดยนายอนุทิน กล่าวว่า การจับกุมในครั้งนี้เป็นการบูรณาการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้ง สํานักงานตํารวจแห่งชาติ สํานักงาน ป.ป.ส. ฝ่ายปกครอง กระทรวงมหาดไทย และเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติ
ซึ่งมีการติดตามตลอดจนเข้าตรวจค้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดย กองบังคับการสืบสวนตำรวจภูธรภาค 1 ได้ทําการสืบสวนขยายผลจนทราบว่า ในห้วงวันที่ 6-7 มิถุนายนที่ผ่านมา จะมีการลำเลียงยาเสพติดจากพื้นที่ภาคเหนือมาส่งมอบให้กับกลุ่มผู้ค้ายาเสพติดในพื้นที่ชั้นโดยใช้รถบรรทุกอีซูซึ สีน้ำเงิน ตู้ทึบสีขาว ทะเบียน 86-1698 กรุงเทพฯ จึงนํากําลังเฝ้าติดตามความเคลื่อนไหว จนกระทั่งสามารถจับกุมได้เมื่อช่วงสายของวันที่ 7 มิถุนายนที่ผ่านมาบริเวณลานจอดรถริมถนนสายคลองหลวง ใกล้กับถนนวงแหวนเชียงรากใหญ่ ม.5 ต.เชียงรากใหญ่ อ.สามโคก จ.ปทุมธานี
จากการตรวจค้นสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ 1 ราย คือ นายครรชิต อายุ 30 ปี พร้อมของกลาง ยาบ้า 4,800,000 เม็ด และรถบรรทุก 1 คัน ซึ่งขขวนการเหล่านี้จะใช้การวิธีลักลอบแบบส่งต่อกันเป็นทอดๆ และจะปรับเปลี่ยนวิธีรวมถึงการซุกซ่อนอยู่ตลอดหวังตบตาเจ้าหน้าที่ รวมถึงปัจจุบันพบว่ามีการเปลี่ยนเส้นทางลําเลียงออกไปทางภาคตะวันตกอีกด้วย
แต่อย่างไรก็ตามไม่สามารถหนีพ้นการตรวจตราอย่างเข้มงวดเจ้าหน้าที่ไปได้ ซึ่งของกลางยาเสพติดที่จับกุมได้ทั้งหมดจะถูกนําไปเก็บเพื่อเตรียมเข้าสู่กระบวนการเผาทําลาย จึงขอยืนยันให้ประชาชนสบายใจได้ว่าจะไม่มียาเสพติดหมุนเวียนอย่างแน่นอนและฝากเตือนไปถึงผู้ที่คิดจะเข้ามารับงานในลักษณะนี้ด้วยว่าอย่าทําเพราะได้ไม่คุ้มเสีย
ด้าน พล.ต.ท.นิรันดร เหลื่อมศรี ผู้ช่วยผู้บัญชาการตํารวจแห่งชาติ ระบุว่า เบื้องต้นจากการสืบสวนทราบว่านายครรชิต เป็นผู้รับช่วงต่อในการจนยาเสพติดทอดที่ 3 ซึ่งขบวนการดังกล่าวมีความเกี่ยวข้องกับเครือข่ายของ “อาร์ท ตํ่าเอี่ยว” พ่อค้ายาเสพติดรายใหญ่ จ.ปทุมธานี ขณะนี้อยู่ระหว่างการขยายผลซึ่งหากประชาชนพบเห็นเบาะแสสามารถแจ้งเจ้าหน้าที่ได้ โดยข้อมูลจะถูกปิดเป็นความลับ ซึ่งตํารวจจะให้ความคุ้มครองแก่ท่าน
ขณะที่ พล.ต.ท.จิรสันต์ แก้วแสงเอก ผู้บัญชาการตํารวจภูธรภาค 1 กล่าวว่าเพิ่มเติมว่า ขบวนการดังกล่าวมีผู้สั่งการอยู่ที่ต่างประเทศ จากข้อมูลการสืบสวนพบว่ามีแหล่งพักยาเสพติดในพื้นที่ปริมณฑล เพื่อเตรียมกระจายต่อไปยังกรุงเทพมหานครและส่งต่อไปยังภาคใต้ของประเทศ ทั้งนี้เจ้าหน้าที่จะทําการขยายผลเพิ่ม เพื่อจับกลุ่มลูกค้า
ผู้สั่งการ และบุคคลในเครือข่ายทั้งหมด รวมถึงจะดําเนินการยึดอายัดทรัพย์สินที่เกี่ยวเนื่องกับการกระทำความผิด โดยจะนำมาตรการสมคบสนับสนุนช่วยเหลือ ฟอกเงิน และยึดทรัพย์สิน มาใช้ดำเนินการกับบุคคลในเครือข่ายยาเสพติดต่อไป
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews