เม.ย.ไฟในนอกร้อนลาม”ลุง”(click ดูวิดีโอ)
ตามประสาของการเมืองขุนทหารที่มักดูทิศทางลมผ่านฤกษ์ยามเป็นส่วนหนึ่งในการตัดสินใจว่ากันว่าพยากรณ์ นางสงกรานต์กินเลือดเป็นภักษาหาร ในปีนี้ น่าจะส่งผลให้ต้องรัดกุมในการเตรียมการไม่น้อยกับ ”ไทม์มิ่งการเมืองร้อน” ทั้งในและนอกประเทศ ก่อนและหลัง เทศกาลสงกรานต์แรก หลัง โควิด ที่เปิดให้ทำกิจกรรมทำบุญสรงน้ำพระและให้คนหยุดยาวเดินทางเพื่อช่วยกันท่องเที่ยวจับจ่ายกระตุ้นเศรษฐกิจ
ไม่แต่แค่ร่องรอยกรุ่นกลิ่นความขัดแย้งระหว่างเจนเนชั่น”ม็อบเด็กไล่ลุง”ที่ลามทะลุฟ้า ที่ถัดจากการจับกุม 99 ผู้คนใน ม็อบหมู่บ้านทะลุฟ้า หน้าทำเนียบฯก่อนวันชักภาพครม.ใหม่ ประยุทธ์2/4 ที่เมื่อวาน(30มี.ค.) ยังคงมีม็อบมาทวงถามให้ปล่อยเพื่อนโดยเปรียบเทียบการไม่ดำเนินคดีกับ อีเว้นท์ “มาดามเดียร์” ก่อนจะมาถึง ถึงคิว “เอกชัย หงส์กังวาน”จอมประท้วงเดี่ยวมือหนึ่งที่มักมีอีเว้นท์หน้ากองทัพบก และพวก ที่อัยการส่งฟ้องศาลคดีม.110 ขวางขบวนเสด็จ ไม่ให้ประกันนำตัว ตามบรรดาแกนนำแถวหนึ่งของม็อบเด็กเพนหวิน ทนายอานท์ ไผ่ ไมค์ รุ้ง สมยศ เข้าเรือนจำ ที่แม้คดีของ แกนนำแถว2 อย่าง “น้องมายด์” และ ”ครูใหญ่”จะเลื่อนส่งตัวไป 13 พ.ค.แต่การขึ้นเวที “ม็อบ 25 มี.ค.”แบบเนื้อหา “ทะลุเพดาน”ก็ถูก เรคคอร์ด โดยตำรวจเป็นคดีเชื่อมต่อของการทำผิดซ้ำที่มีแนวโน้มปลายทางแบบเดียวกับเพื่อนชุดแรก
กระนั้นตามไทม์ไลน์ ระยะใกล้ที่ถูกจับตา และ”ลุงทำเนียบฯ”ตอบไว้เมื่อวานกรณี”ตู่ จตุพร”อาสาเป็น”เจ้าภาพ”นัดคุยจัดองค์กรกับผู้เห็นต่างในรอบ 15 ปีที่ผ่านมา จัดการไล่ ”ลุง” โดยกดดัน 3 พรรคร่วมรัฐบาล ภูมิใจไทย,ประชาธิปัตย์ และชาติไทยพัฒนา ให้ถอนตัว วันอาทิตย์ที่ 4 เม.ย.ก็น่าสนใจไม่น้อยกับการต่อเชื่อมความเคลื่อนไหวที่แม้จะเป็น คนละสาย แต่ก็มาบรรจบที่การพร้อมสนับสนุนม็อบเด็กแบบที่ “ณัฐวุฒิ ใสเกื้อ” อดีตแกนนำ นปช.ที่เพิ่งถอดกำไลอีเอ็มว่าไว้เมื่อวาน(30มี.ค.) ที่ก็สอดรับกับท่าทีของบรรดา ”ผู้ใหญ่” หลายคน ที่เริ่มกลับมาโฟกัสไปที่ “ลุงทำเนียบ ”และการขยายตัว” อำนาจการเมือง”ของ “ศูนย์อำนาจ 3 ลุง”ผ่านปรากฏการณ์ “การแก้ไขรัฐธรรมนูญ60”และกรณี”พรบ.ประชามติ”ไม่นับรวมการไม่ให้ความสำคัญกระบวนการตรวจสอบของ”ฝ่ายนิติบัญญัติ”ที่มาจาก”ผู้แทนราษฎร”หรือส.ส.ทั้งสภาใหญ่ หรือ กรรมาธิการ ที่ผ่านมา
แม้กระทั่งในกระบวนการฝ่ายบริหาร ที่ยังคงมีภาพไม่ต่างจากการรวมศูนย์อำนาจไว้ที่”ลุงทำเนียบฯ”ดังการอธิบายเหตุผลปรับครม.2/4กรณี ”หลานป๋าเหนาะ”มาเป็นรมว.ศึกษาฯที่ว่ายังไงนายกฯก็ดูรัฐมนตรีต้องปฏิบัติตามแผนยุทธศาสตร์ หรือแม้แต่เคสการวางตัวของไทยในสถานการณ์นองเลือดเมียนมาที่ ”ลุง” ขอรับหน้าเสื่อแทนกระทรวงต่างประเทศ ที่เพิ่งออกมาเทคแอ๊คชั่นท่าที ”กังวลใจ” ครั้งแรกเช่นเดียวกับ “ลุงทำเนียบ” ที่ปฏิเสธข่าวทั้งการผลักดันชาวกระเหรี่ยงผู้อพยพหนีภัยสงครามกลับ การซัพพอร์ตข้าวอาวุธกองทัพเมียนมา โดยยืนยันไม่เห็นด้วยการใช้ความรุนแรงกับคนเมียนมาเมื่อวาน หลังหลายฝ่ายรวมถึงอดีตรมว.ต่างประเทศอย่าง”สุรเกียรติ เสถียรไทย”ช่วยสะกิด ว่าไทยมิอาจเฉยกับเหตุการณ์นองเลือด400ศพในเมียนมา ที่ล่าสุดทั้งผู้นำสหรัฐและหลายประเทศจับตาสถานการณ์นี้และท่าทีของไทย โดย ยูเอ็น จะมีการประชุมหารือเคสนี้ในวันที่ 2 เม.ย. ในขณะที่กลุ่มอาเซียนจะคุยกันในสัปดาห์หน้า
ทั้งหมดทั้งมวลต้องติดตามต่อไปว่าสถานการณ์ร้อนในเดือนเม.ย. ที่กำลังโอบล้อมประเทศไทยทั้งจากโลกและจากในประเทศ จะส่งผลกระทบอย่างไรกับ ศูนย์อำนาจ 3 ลุง ที่มีการบ้านรออยู่ไม่น้อยในการจัดการไม่ให้เกิดผลกระทบบานปลาย เพราะหากผิดพลาดย่อมส่งผลกระทบกับ การไปต่อข้างหน้าทางการเมืองเช่นกัน
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
