นายกฯ บอกไม่รู้ใครนั่งประธานบอร์ดธปท. คนใหม่ โยนถาม รมว.คลัง ย้ำ กิตติรัตน์ เป็นไม่ได้เหตุเป็นที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี พร้อมย้ำ แม้บอลไทยไม่ผ่านรอบฟุตบอลโลก เชื่อคนไทยภูมิใจนักเตะไทย ชี้ เตรียมความพร้อมก่อนถกงบ 68 เป็นเรื่องดี ให้เกียรติสภาฯ
นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เดินเข้าปฏิบัติงานที่ทำเนียบรัฐบาลตามปกติ โดยมีการให้สัมภาษณ์กรณีประธานคณะกรรมการธนาคารแห่งประเทศไทย หรือธปท.คนปัจจุบันจะหมดวาระลงเดือนก.ย.นี้ รัฐบาลเตรียมคนมานั่งแทนหรือยัง ว่า ไม่ทราบต้องถามนายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ยังไม่ได้มีการคุยเรื่องนี้ เรื่องนี้ก็เป็นไปตามกลไกของการแต่งตั้ง
ส่วนนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรีนั้นเป็นไม่ได้อยู่แล้วเพราะนายกิตติรัตน์ ดำรงตำแหน่งเป็นประธานที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี ซึ่งตามความเข้าใจของตนเองถ้าจะมาเป็นตำแหน่งนี้ก็ต้องออกจากทุกตำแหน่งมาระยะเวลา 1 ปี
ส่วนตอนนี้เรื่องเศรษฐกิจคณะทำงานต่างๆถือว่าเป็นหนึ่งเดียวกัน จิตวิญญาณของรัฐบาลนี้เราเป็นหนึ่งเดียวมาโดยตลอดของทุกๆภาคส่วน ไม่ว่าจะเป็นหอการค้าไทย สภาอุตสาหกรรม และสภาพัฒนาเศรษฐกิจ และสังคมแห่งชาติ จะเห็นได้ว่าเราคุยกันมาโดยตลอด และภาษาที่คุยกันในวงสนทนาตนเชื่อว่าก็เป็นภาษาที่ผู้ใหญ่คุยกัน
นอกจากนี้นายกรัฐมนตรีกล่าวถึงการเลือกสมาชิกวุฒิสภา หรือ สว.ที่ยังมีความสับสนจนมีหลายฝ่ายออกมาวิพากษ์วิจารณ์ ว่า ไม่ได้ติดตามตรงนี้ขอให้เป็นขั้นตอนของฝ่ายนิติบัญญัติไป
ขณะที่การเตรียมการอภิปรายร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปี งบประมาณ2568 ล่าสุดกระทรวงกลาโหม ได้ส่งเจ้าหน้าที่ไปซักซ้อมทำความเข้าใจตอบคำถามกับสส. พรรคเพื่อไทยนั้น นายกรัฐมนตรี ระบุว่า การเตรียมความพร้อมถือเป็นเรื่องที่ดีและให้เกียรติซึ่งกันและกัน
อย่างไรก็ตามนายกรัฐมนตรีกล่าวถึงผลการแข่งขันฟุตบอลโลก 2026 รอบคัดเลือกโซนเอเชีย รอบสอง กลุ่มซีระหว่างทีมชาติไทยกับทีมชาติสิงคโปร์ที่สนามราชมังคลากีฬาสถาน เมื่อวานนี้(11 มิ.ย.) ทีมชาติไทยสามารถเอาชนะทีมชาติสิงคโปร์ทีมได้ 3-1 แต่ไม่สามารถผ่านเข้ารอบฟุตบอลโลกได้ ว่า
ขอพูดในฐานะคนไทยขอชื่นชมสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย ภายใต้การนำของมาดามแป้ง นางนวลพรรณ ล่ำซำ ได้ยกระดับวงการฟุตบอลไทยขึ้นมาอีกระดับหนึ่งเราอย่าไปดูแค่ผลแพ้ชนะ เพราะเชื่อว่าทุกคนพอใจถึงแม้ว่าเราจะไม่ได้เข้ารอบต่อไป
อย่างไรด็ตามการที่เราเอาชนะได้ อยากให้ดูลึกลงไปว่าการที่เรายกระดับขึ้นมา ไม่ว่าจะเป็นชีวิตความเป็นอยู่ของนักเตะ รอยยิ้มและความสบายใจ รวมทั้งอุปกรณ์เสริมทั้งหลาย ทางนายกสมาคมฟุตบอลได้ทำอย่างเต็มที่แล้ว ส่วนตัวคิดว่าเรามีเวลาอีกสี่ปี
ซึ่งแน่นอนว่าจุดมุ่งหมายไปสู่ฟุตบอลโลกเป็นเรื่องใหญ่ เชื่อว่าเป็นช่วงเวลาที่เราต้องกลับมารีเซ็ทใหม่ แม้นายกสมาคมฟุตบอลจะป้ายแดงแต่ท่านก็ ทำมาดีแล้วทุกอย่าง เพียงแต่ถึงเวลาเราต้องกลับมานั่งดูว่ามีอะไรที่แก้ไขได้
หลังจากนี้ก็เชื่อว่าทุกท่านที่เกี่ยวข้องจะกลับไปพิจารณาดูในฐานะคนไทยผมมีความภาคภูมิใจ เพราะประเทศเราไม่มีนักเตะที่โอนสัญชาติมาเลย ในขณะที่จีนเองก็มี ถึงแม้จะถูกต้องตามกฎทุกอย่าง แต่เราไม่มีเราพึ่งคนไทยล้วนๆ ถือเป็นความภาคภูมิใจของคนทั้งชาติ
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews