ก้าวไกล ไม่หมดหวัง ลุ้นศาล รธน. เรียกไต่สวน บอกวันนี้ยื่นหลักฐาน กกต. ยอมรับข้ามขั้นตอนระเบียบตัวเอง ลั่น ยังมั่นใจลูกพรรคไม่ต้องเช็กชื่อ หลังสะพัดเตรียมไหลออก ชี้ไม่เสียขวัญ ยังมีช่องสู้หลัง”พิธา”แถลง
นายชัยธวัช ตุลาธน สส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าวถึงกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญขอให้ เรียกบัญชีรายชื่อพยานหลักฐานคดียุบพรรคก้าวไกลจากคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) แต่ไม่ได้ขอหลักฐานเพิ่มเติมจากพรรคก้าวไกลว่า ขณะนี้ยังสรุปว่า ยังเรียกเอกสารจากพรรคก้าวไกลไม่ได้ โดยหลังจากที่ยื่นคำชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาไปแล้ว ทางฝ่ายกฎหมายของพรรคได้ยื่นบัญชีพยานเพิ่มเติม และยื่นขอให้ศาลรัฐธรรมนูญไต่สวน ซึ่งศาลยังไม่ได้พิจารณาเรื่องนี้
วันนี้บอกเพียงให้ศาลรัฐธรรมนูญ ไปศึกษาข้อมูลเพิ่มเติม เพื่อมาประกอบใช้ในการพิจารณาคดี จึงยังหวังว่า ศาลจะเปิดให้มีการไต่สวน เพราะก่อนหน้านี้ กกต.ได้ยื่น บัญชีพยานหลักฐาน รวมถึงพยานบุคคล ไปให้ศาลรัฐธรรมนูญหมดแล้ว
จึงไม่แน่ใจว่า ที่จะให้ยื่นพยานหลักฐานเพิ่มเติมจะเกี่ยวข้องกับเรื่องอะไร เป็นพยานบุคคลหรือพยานเอกสาร หากจะให้คาดการณ์น่าจะเกี่ยวข้องกับข้อโต้แย้ง และข้อต่อสู้หนึ่งของพรรคก้าวไกล เกี่ยวข้องกับเรื่องที่พรรคแย้งว่า กกต.ยื่นคำร้องโดยมิชอบด้วยกฎหมาย และในวันนี้ฝ่ายกฎหมายของพรรคก้าวไกลจะไปยื่นบัญชีเอกสารเพิ่มเติม ซึ่งคือคำให้สัมภาษณ์ของประธาน กกต. ที่ยอมรับ ว่าไม่ได้ปฏิบัติ ตามระเบียบที่ กกต.กำหนด ในการยื่นร้องยุบพรรคก้าวไกล ตามมาตรา 92 และมาตรา 93 ประกอบระเบียบ กกต. เพื่อเป็นการประกอบข้อต่อสู้ของพรรค
ส่วนการพิจารณาคดีในเบื้องต้น เป็นไปตามการคาดการณ์หรือไม่นั้น นายชัยธวัช กล่าวว่า ศาลรัฐธรรมนูญ เห็นประเด็นสำคัญในการต่อสู้ของพรรคก้าวไกล จึงได้ให้ กกต.ส่งเอกสารเพิ่มเติม และให้สำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ ไปศึกษาแต่ก็ไม่สามารถบอกได้ว่าสุดท้ายแล้ว ศาลจะเปิดให้มีการไต่สวนหรือไม่ และคาดว่าจะทราบเร็วที่สุดน่าจะเป็นวันอังคารที่ 18 มิถุนายนนี้ และพรรคก้าวไกลก็หวังว่าศาลจะเปิดโอกาส ให้พรรคก้าวไกลต่อสู้คดีอย่างเต็มที่ ที่มีการไปสวนพยาน
พิจารณาข้อเท็จจริงใหม่อย่างเต็มที่ ทั้งนี้เห็นว่าการไต่สวนอย่างเปิดเผย ย่อมเป็นการดีที่สุดสำหรับทุกฝ่าย เพื่อทำให้คำวินิจฉัยที่ออกมา เป็นที่ยอมรับ
ส่วนกรณีที่เกิดขึ้นเริ่มมีการเคลื่อนไหวของลูกพรรคได้มีการเช็คชื่อแล้วหรือไม่ นายชัยธวัช ระบุว่า ไม่มีความจำเป็นต้องเช็คชื่อ แล้วตอนนี้สส.ของพรรคโฟกัสกับการอภิปรายร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2568 เป็นหลัก
โดยอยู่ในช่วงโค้งสุดท้าย การจัดคนและประเด็น และอาจจะมีการปรับอีกเล็กน้อย ในช่วง 1 สัปดาห์ที่เหลือ ส่วนจะได้กี่คนยังไม่ได้กำหนดแต่ที่แน่นอน ไม่น่าจะถึง 40 คน
เมื่อถามย้ำว่าลูกพรรคที่คิดจะย้ายพรรค อาจไม่ได้คิดถึงการเลือกตั้งสมัยหน้า นายชัยธวัชระบุว่า ตนยังเชื่อมั่น ได้สส. ของพรรคก้าวไกล จะไม่ได้คิดเรื่องตัวเองเป็นตัวตั้ง และเชื่อว่าสส.ของพรรคเห็นความสำคัญของการไว้วางใจที่ประชาชนมอบให้ ในการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา และย้ำว่าไม่ได้เสียขวัญ ยิ่งฟังที่นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ อดีตหัวหน้าพรรค แถลงเรื่องข้อต่อสู้ในคดี ก็ยิ่งทำให้สส.ของพรรค รู้สึกว่ามีประเด็นในการต่อสู้ได้อยู่ ขออย่าเพิ่งไปสรุปว่าสุดท้ายแล้วคดีนี้ผลจะออกมาอย่างไรแน่นอน
ส่วนที่ประธาน กกต. ระบุว่า การที่ยื่นเอกสาร ไปยังศาลรัฐธรรมนูญ ไม่ได้ให้พรรคก้าวไกลชี้แจง พร้อมมีเอกสารข้อเท็จจริงคำพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ ในวันที่ 31 มกราคม 2567 มาแล้วจึงไม่จำเป็น ต้องให้พรรคก้าวไกลชี้แจง
นายชัยธวัช ระบุว่า การแยกข้อเท็จจริงพยานหลักฐาน เป็นคนละเรื่องกับการปฏิบัติ ตามกระบวนการตามกฎหมายและระเบียบที่กกตเป็นผู้กำหนด และขอย้ำว่า การยื่นร้องยุบพรรค ตามมาตรา 92 ของ พ.ร.ป. ว่าด้วยพรรคการเมือง แต่การปฏิบัติต้องปฏิบัติประกอบกระบวนการตามมาตรา 93 และระเบียบที่กกต.เป็นผู้กำหนด มารองรับการปฏิบัติ ซึ่งต้องมีขั้นตอนที่ให้มีการตั้งคณะบุคคลขึ้นมา เพื่อสรุปรายงานให้แก่นายทะเบียนพรรคการเมือง และคณะกรรมการการเลือกตั้งพิจารณาก่อนจะยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ
ดังนั้น การบอกว่ามีพยานหลักฐานเพียงพอแล้ว ไม่ได้เป็นเหตุผล ที่จะไม่ทำตามกฎหมาย รวมถึงระเบียบที่ตัวเองเป็นผู้กำหนด แม้จะมีพยานหลักฐานเพียงพอ กระบวนการตามขั้นตอนก็ต้องมีครบและต้องให้พรรคก้าวไกลในฐานะผู้ถูกร้องได้มีโอกาสโต้แย้งก่อน แล้วค่อยมีมติออกมาว่ามีพยานหลักฐานเพียงพอจึงไปยื่นคำร้องยุบพรรค ไม่มีช่องทางใดที่ให้ กกต.ใช้ดุลยพินิจโดยลำพัง
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews