ห้วงนี้แม้หมุดหมายความสนใจจะโฟกัสไปยัง 18 มิถุนายน 2567 ในความเคลื่อนไหวหลายคดีการเมือง แต่ทว่า บรรดาคนมีสี ทั้งกองทัพและตำรวจ ยังคงต้องเผชิญกับปมดราม่าร้อน พิสูจน์วิฤกตศรัทธากันไม่หยุดหย่อน เริ่มจากขุนทหาร ที่ เพิ่งซาเรื่องพลโทกร่างกับแม่ค้าสาวไปได้ไม่ทันข้ามสัปดาห์ ก็ปรากฏมือมืดจงใจปล่อยเอกสารหลุดหลายประเด็น หวังโจมตี กองทัพ ในยุคที่มี บิ๊กทิน สุทิน คลังแสง พลเรือนจากมหาสารคามเป็นนายใหญ่ของท๊อปบู้ท
เริ่มจาก ปมมีการหักค่าดูดส้วมทหารใหม่ ทางด้านกองทัพบก แจงทันควัน ว่าได้ตรวจสอบแล้วพบว่าเอกสารดังกล่าวเป็นของหน่วยฝึกทหารใหม่ หน่วยหนึ่ง โดยยังไม่ได้มีการอนุมัติหรือดำเนินการหักเงินของทหารใหม่ตามรายการในเอกสารดังกล่าวแต่อย่างใด ขณะบิ๊กทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ย้ำนโยบาย ห้ามหักค่าใช้จ่ายทหารเกณฑ์ ในรายการที่ไม่อนุมัติ ฝ่าฝืนต้องลงโทษ มีมาตรการไม่ให้เกิดขึ้นอีก
หรือจะเป็นประเด็นรายรับของทหารใหม่ ถูกหักค่าใช้จ่ายต่างๆ โดยทหารบางรายมีรายได้ 7,120 บาท แต่โดนหักค่าต่างๆ แล้วเหลือ 5,318 บาท งานนี้ “จิรายุ ห่วงทรัพย์” โฆษกกระทรวงกลาโหมแจงยิบว่า เอกสารชุดดังกล่าวมีเจตนาพิเศษในเชิงลบต่อกองทัพ เพราะเป็นเอกสารเก่าหลายปีมาแล้ว ซึ่งดูได้จากระเบียบเก่า ในอดีตมีการหักเงินฝากตามตารางที่ปรากฏ แต่ปัจจุบันไม่มีแล้ว ส่วนการเรียกเก็บค่า Wi-Fi ต่อเดือนนั้นไม่เคยมีปรากฏในระเบียบของกองทัพใดๆ
ด้านฝ่ายค้านไม่พลาดจะขย้ำซ้ำ โดย “วิโรจน์ ลักขณาอดิศร” สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ การทหาร สภาผู้แทนราษฎร ระบุในเรื่องการหักเงินทหารว่า”ทางที่ดีที่สุดคือทำระเบียบในการหักค่าใช้จ่ายให้ชัดเจน โปร่งใสและเปิดเผย เงินจะต้องเหลือเท่ากันทั้งประเทศไม่ว่าจะอยู่ค่ายใดก็ตาม ทั้งนี้ ตนเคยเสนอเรื่องการแก้ปัญหาเงินเดือนและสวัสดิการของทหารไปแล้ว
โดยการส่งเบาะแสให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ส่วนในประเด็นร้อนระดับบิ๊กเบิ้มอีกครั้งของวงการสีกากี นั้นคือเรือบรรทุกน้ำมัน 3 ลำ บรรจุน้ำมันเถื่อน 330,000 ลิตร ของกลางในคดีจอดอยู่ที่ท่าเทียบเรือตำรวจน้ำสัตหีบ จ.ชลบุรี คดีอยู่ในความดูแลของตำรวจน้ำ แต่ได้สูญหาย ขณะนี้ยังจับตัวผู้บงการอยู่เบื้องหลังไม่ได้ โดยตำรวจเชื่อว่า งานนี้เป็นฝีมือของ”โจ้ ปัตตานี’ พ่อค้าน้ำมันเถื่อนชื่อดังภาคใต้ ที่เป็นเจ้าของเรือ บรรทุกน้ำมัน 3 ลำที่สูญหายไป ขณนี้เขาหลบหนีการจับกุมของเจ้าหน้าที่คาดซุกประเทศเพื่อนบ้าน
ผลพวงจากคดีนี้ บิ๊กก้องพล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เซ็นคำสั่งเด้ง “5 ตำรวจน้ำ” เซ่นปมเรือน้ำมันเถื่อนของกลาง 3 ลำ หาย พร้อมกับส่ง”บิ๊กเต่า” พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง มือปราบคนดังคู่ปรับบิ๊กโจ๊ก ลงพื้นที่ไปสางคดีนี้ด้วยตนเอง โดย”บิ๊กเต่า” ลั่น “จะดำเนินคดีตามกฎหมายกับผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกราย ไม่ว่าจะเป็นผู้ก่อเหตุ หรือเจ้าหน้าที่รัฐ และเตรียมออกหมายจับผู้อยู่ในเรือทั้งหมด”
และในวันที่ 15 มิ.ย.67 ที่ผ่านมา มีรายงานจาก สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ว่าตำรวจชุดคลี่คลายคดีนี้ ได้เบาะแสของเรือบรรทุกน้ำมันเถื่อนทั้ง 3 ลำแล้ว อยู่ระหว่างกดดันให้ผู้ต้องหาทั้งหมด รีบเข้ามอบตัวภายใน 24 ชั่วโมง ซึ่งต้องตามว่าเจ้าหน้าที่จะสามารถคลี่คลายคดีนี้ และสาวไปถึงตัวบงการที่ชักใยเบื้องหลังได้หรือไม่ เพราะระดับทำให้ เรือขนน้ำมันที่เป็นของกลางในคดีหายไปได้นี้ย่อมไม่ธรรมดาอย่างยิ่ง น่าจะรู้ช่องทางเคลื่อนย้ายเรือหลบหนีได้เป็นอย่างดี
อย่างไรก็ตาม เคยมีเรื่องพูดแซวกันว่า “ทหาร ตำรวจ พระ ทำไมเวลาเกิดเรื่องอะไร ต้องเป็นพวกเธอ 3 คนทุกที” โดบ “ใบตองแห้ง” คอลัมนิตย์ชื่อดัง เคยเขียนบทความ ว่า “ทหาร ตำรวจ พระ เป็นสัญลักษณ์ของอำนาจ ที่อ้างเสียสละกล้าหาญแล้วเบ่งกล้ามได้ ที่กำลังเสื่อมทั้งกระบวนการ”
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews