ประธานวิปค้าน ยันรับหลักการพรบ.ประชามติทุกร่าง ชี้ของ ครม. เป็นการเอาของเพื่อไทยและก้าวไกลมารวมกัน อัด พรบ.งบฯเจ๊งไม่ว่าเสียหน้าไม่ได้
นายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ้ายค้าน) กล่าวถึงร่างพ.ร.บ. ประชามติของ คณะรัฐมนตรี (ครม.)ว่า เป็นการจับร่างของเพื่อไทยและก้าวไกลมารวมกัน ซึ่งในบางประเด็น เห็นตามร่าง ของพรรคก้าวไกลด้วยซ้ำ แต่คิดว่ามีบางประเด็นที่ยิบย่อย ที่ต่างกันบ้างเล็กน้อย ที่จะสามารถเข้าไปพูดคุยในชั้นกรรมการวิสามัญได้ ซึ่งจะรับหลักการทุกร่าง เพราะทุกร่างค่อนข้างที่จะใกล้เคียงกัน
พร้อมกันนี้ นายปกรณ์วุฒิ ยังกล่าวถึงการอภิปรายร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2568 ที่จะมีขึ้นในวันที่ 19-21 มิถุนายนนี้ว่า วันนี้จะมีการพูดคุยกันในวิปฝ่านค้านอีกครั้ง และน่าจะชัดเจนมากขึ้น ซึ่งทางพรรคไทยสร้างไทย พรรคเป็นธรรมและพรรคเล็กอื่นๆได้ทราบหัวข้อกันไปแล้ว ก็จะมาจัดวางวันอภิปรายให้สอดคล้องกันในพรรคร่วมฝ่ายค้านต่อไป ส่วนของพรรคประชาธิปัตย์ มีผู้อภิปรายหลายคนก็อาจจะใช้เวลาและจะต้องทำความเข้าใจกันอีกครั้งในวันนี้
ส่วนความแตกต่างระหว่างการอภิปรายงบประมาณปี 68 กับปี 67 นั้น นายปกรณ์วุฒิ กล่าวว่า งบประมาณปี 68 มีความแตกต่างจากงบ 67 ที่รัฐบาลใช้ข้ออ้างว่า ไม่ได้มีเวลาปรับเปลี่ยนจากร่างเดิมในสมัยรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา มากนักแต่ครั้งนี้ เป็นร่าง พ.ร.บ.งบประมาณฉบับแรกของรัฐบาลนี้ ที่มีอำนาจในการจัดงบประมาณ ดังนั้นท่าทีในกานวิเคราะห์และอภิปรายความรับผิดชอบเต็ม ก็คือ รัฐบาลชุดนี้อย่างแน่นอน
ขณะที่มีงบประมาณส่วนหนึ่งไปใช้ในโครงการดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาทและ Soft Power นั้น นายปกรณ์วุฒิ กล่าวว่า แน่นอนจุดใหญ่สุด โครงการดิจิทัลวอลเล็ต ที่ครองงบประมาณในสัดส่วนค่อนข้างสูง พรรคก้าวไกลก็ได้มีสโลแกนในการอภิปราย ที่ว่า “ignore Thailand เจ๊งไม่ว่าเสียหน้าไม่ได้” คือ เป็นการทำทุกวิถีทาง เพื่อให้โครงการดิจิทัลวอลเล็ตเกิด ซึ่งเป็นการเบ่งงบให้เต็มที่ จะเห็นว่าวงเงินงบประมาณปีนี้สูงกว่าปกติ เพราะต้องการเบ่งให้ใกล้กับกรอบของการคลังเท่าที่ทำได้ ให้มากที่สุด
เพื่อทำให้โครงการดิจิทัลวอลเล็ตนั้น เกิดให้ได้ ไม่ว่าจะด้วยวิธีใดก็ตาม และเมื่อเบ่งให้ตัวเองโตก็จะไปเบียดงบอื่นๆด้วย งบประมาณที่สำคัญกับการแก้ปัญหาให้กับพี่น้องประชาชนก็โดนเบียดบัง ด้วยงบประมาณของโครงการดิจิทัลวอลเล็ต ทั้งที่ จริงๆแล้วงบประมาณถ้าเอาไปทำบางอย่างจะเป็นประโยชน์กับประชาชนมากกว่า ซึ่งนี่จะเป็นหลักที่พรรคก้าวไกลจากอภิปราย
ทั้งนี้ มีการแบ่งการอภิปรายออกเป็นรายด้าน เช่น ด้านเศรษฐกิจ ด้านคุณภาพชีวิต ด้านการเรียนรู้ตลอดชีวิต ด้านการปฏิรูปรัฐ ด้านประชาธิปไตย เป็นต้น ซึ่งพยายาม วิเคราะห์ให้ครบทุกด้าน แต่อาจจะไม่ครบทุกกระทรวง และคงจะได้เห็นว่าสิ่งที่ถูกเบียดไป มีอะไรบ้างงบประมาณส่วนไหนที่ขาดไป อีกทั้งจะยังคงเห็นการตั้งงบประมาณบางอย่างที่ซ้ำซ้อน ไม่เป็นประโยชน์และอาจสามารถนำไปเป็นประโยชน์ในส่วนอื่นได้
สำหรับแผนรับมือหากมีองครักษ์พิทักษ์ฝั่งรัฐบาล นายปกรณ์วุฒิ กล่าวว่า มีการมอนิเตอร์กันตามปกติ ไม่ได้มีอะไรที่ต้องกลัว ส่วนปัญหาการอภิปรายซ้ำซ้อนกันนั้น พยายามที่จะแยกหมวดหมู่หัวข้อ ซึ่งอาจจะมีบางคนที่มีเนื้อหาที่ไขว้กันบ้าง ซึ่งครั้งที่ผ่านมาแม้จะมีเนื้อหาที่ซ้ำกันบ้างแต่ประเด็นโดยรวมอาจจะแตกต่างกันอยู่
ขณะเดียวกัน นายปกรณ์วุฒิ ยังเปิดเผยถึงการพิจารณาคดีต่างๆ ในวันที่ 18 มิถุนายน นี้ ที่หนึ่งในนั้น คือ คดีที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ยื่นร้องยุบพรรคก้าวไกล ว่า ในส่วนของ สส.พรรคก้าวไกลเอง ก็จะประจำที่สภา ประชุมสภา พิจารณาร่าง พ.ร.บ.ประชามติตามปกติ ส่วนทางพรรคเองก็มีทีมที่มอนิเตอร์อยู่ และรอดูว่าทางศาลรัฐธรรมนูญมีการพิจารณาให้เปิดการไต่สวนหรือไม่
อย่างไรก็ตาม ไม่ต้องเตรียมแผนรองรับอะไรไว้ เพราะในวันพรุ่งนี้ไม่ได้มีคำวินิจฉัยว่ายุบหรือไม่ยุบ อยู่แล้ว แต่อาจจะได้ทราบว่าจะมีการเปิดไต่สวนหรือไม่ และหลังจากทราบแล้วก็คงจะมีการเตรียมการโดยฝ่ายกฎหมายอีกครั้งหนึ่ง
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews