ฝ่ายค้านอภิปรายงบ 68 วันที่ 3 “ชัยชนะ” ชี้ จัดงบแบบขาดดุลต่อเนื่อง หวั่นมีปัญหาวินัยการคลังระยะยาว ขณะ “เลาฟั้ง” ก้าวไกล อัดจัดงบกระทรวงทรัพยากรฯ ไม่แก้ปัญหาที่ดิน แนะ 2ยุทธศาสตร์ ตัดสอดไส้
การประชุมสภาผู้แทนราษฎร (สมัยวิสามัญ( เพื่อ วาระพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายงบประมาณประจำปี 2568 วงเงิน 3.7 ล้านล้านบาท วาระแรก โดยนายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาฯคนที่หนึ่งทำหน้าที่ประธานในที่ประชุม ได้พิจารณาต่อเนื่องเป็นวันที่สาม ซึ่งวันนี้ส่วนใหญ่จะพุ่งเป้าอภิปรายไปที่งบประมาณของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ งบกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม รวมไปถึงงบท้องถิ่น
โดยนายชัยชนะ เดชเดโช สส. นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ อภิปรายย้ำว่า รัฐบาลจัดงบประมาณปี 2568 เหมือนเป็นนักวิ่งราวทรัพย์ เพราะกู้เงินวงเงินสูงเพื่อมาแจกประชาชน และบอกว่าเป็นผลงานของตัวเอง
ทั้งนี้กู้แล้วแตกให้ประชาชนถือว่ามีจิตสำนึก หากกู้แล้วเก็บไว้เอง เท่ากับปล้นทรัพย์ อย่างไรก็ดีกรณีที่รัฐบาลตั้งงบประมาณขาดดุล โดยเฉพาะ ปี68 ตั้งงบขาดดุลสูงสุดรอบ 36 ปี นอกจากนั้นพบว่ามีการตั้งบเพื่อชดเชยสูงถึง 4.5%ของจีดีพี จากเกณฑ์ที่ไม่เกิน 3% ของจีดีพี ขณะที่ปีที่แล้วพบยอดตั้งงบชดเชยอยู่ที่ 4.3% เมื่อรวม 2 ปีรวมกัน ตนมองว่าจะผลกระทบต่อวินัยการคลังระยะยาว
การตั้งงบที่ขาดดุล และกู้ชดเชยต้องพิจารณาไม่สูงเกิน 3% ของจีดีพี และงบตั้งงบหนี้ภาครัฐ 4 แสนล้านบาท เงินต้น 1.5 แสนล้านบาท ดอกเบี้ย 2.5แสนล้านบาท ดอกเบี้ยหนี้สาธารณะอยู่ระดับ 9% ทั้งนี้มีข้อกำหนดไม่เกิน 10% ทั้งนี้หนี้สาธารณะสูงสุดในรอบ 9 ปี 67.9% สูงกว่าค่ากลาง 7.9% ดังนั้น สัดส่วนดอกเบี้ยต่อรายได้สูงขึ้นทุกปี เงินที่ได้มีภาระจ่ายดอกเบี้ย เครดิตความเชื่อถือของประเทศลดลง ทั้งนี้นายกฯ เป็นนักบริหารบริษัท แต่มาบริหารประเทศเกือบ 1 ปี ทำประเทศเข้าสู่วิกฤตและเกือบเจ๊ง ดังนั้นรัฐบาลต้องทบทวนและตั้งการ์ดให้ดี เชื่อว่า ครม. มีคนเข้าใจเรื่องเศรษฐกิจ มีคณะทำงาน ดังนั้นควรเลือกใช้คนที่เหมาะกับงาน” นายชัยชนะ อภิปราย
ส่วนการจัดงบประมาณให้กับท้องถิ่น ให้จำนวน 8.39 แสนล้านบาท ในรายละเอียด พบว่า ส่วนของ อบจ. 76 แห่ง มีประชากร 60 ล้านคน ได้รับงบ 2.9หมื่นล้านบาท ขณะที่ กทม.ได้รับจัดสรร 2.8 หมื่นล้านบาท มีคน 5 ล้านคน ทั้งที่งบท้องถิ่นคาดหวังว่าจะได้รับจัดสรรเต็ม 35% แต่ได้เพียง 29% ดังนั้น ขอให้นายกฯ คนที่ไหว้สวยที่สุดในประเทศ นำงบกลาง 1.7แสนล้านบาท จัดสรรให้กับท้องถิ่นเพิ่มได้หรือไม่ หากให้ได้ท้องถิ้นมีงบ 35% เพื่อพัฒนาท้องถิ่น ดูแลราษฎรในพื้นที่ดีกว่านี้
ทั้งนี้ สิ่งที่น่าช้ำใจกับคนท้องถิ่น และ อบจ. คือ งบปี 2567 ได้รับถ่ายโอน รพ.สต. 4276 แห่ง 62 อบจ.รับแล้ว ทั้งนี้มีสัดส่วนเงินอุดหนุน เพียง ขนาดเล็ก 4แสน ขนาดกลาง 6 แสนบาท ขนาดใหญ่ 1 ล้านบาท จากเดิมที่ระบุว่า จะให้งบประมาณมากกว่าจำนวนดังกล่าว โดยการบริหารราชการแผ่นดินของนายกฯ ขอให้นำสูตรการจัดสรรงบประมาณ ส่วนท้องถิ่นของตน ไปใช้จากเดิมที่แบ่งส่วนให้ท้องถิ่น 29.1% ส่วนกลาง 70.9% ขอให้เปลี่ยนแปลงสูตร ให้ท้องถิ่น 40%% ส่วนกลาง 60% เพื่อให้คนท้องถิ่นรักนายกฯ
ด้านนายเลาฟั้ง บัณฑิตเทอดสกุล สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล อภิปรายในส่วนของงบประมาณกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมว่า โดยเฉพาะงบแก้ไขปัญหาที่ดินและส่วนใหญ่ไม่ได้ใช้เพื่อแก้ปัญหา หากพิจารณาการจัดงบประมาณตามภารกิจของกรมป่าไม้ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช และกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งจะเห็นว่าการแก้ไขปัญหาที่ดิน ได้งบประมาณ 725 ล้านบาท แบ่งเป็นงบโครงการแก้ไขปัญหาที่ดิน ของกรมอุทยานฯ 390 ล้านบาท ซึ่งเป็นงบที่เกี่ยวข้องจริงเพียง 116.3 ล้านบาทและงบโครงการแก้ไขปัญหาที่ดิน ของกรมป่าไม้ 334 ล้านบาท เป็นงบที่เกี่ยวข้องจริงเพียง 198 ล้านบาท จึงเชื่อว่าจะไม่สามารถแก้ปัญหาที่ดินได้
หากรัฐบาลต้องการแก้ปัญหาดังกล่าวให้สำเร็จได้จริง ต้องจัดลำดับความสำคัญของภารกิจในองค์กร ต้องมีการกระจายอำนาจให้หน่วยงานอื่นๆ โดยเฉพาะกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นเอาประชาชนเป็นหุ้นในส่วนในภารกิจ และต้องออกแบบงบประมาณใหม่แบบที่พรรคก้าวไกลเสนอ โดยแยกเป็น 2 ยุทธศาสตร์ คือ 1.ยุทธศาสตร์แก้ไขปัญหาที่ดิน 2,600 ล้านบาท และ 2.ยกระดับเศรษฐกิจชุมชน 2,000 ล้านบาท เชื่อว่าจะแก้ปัญหาที่ดิน และเพิ่มพื้นที่สีเขียวได้จริง หากตัดงบสอดไส้ทั้งหมดจะทำให้มีงบเพิ่มขึ้นอีก 400 ล้านบาท เมื่องบเพียงพองานย่อมมีความคืบหน้า
ที่สำคัญรัฐบาลต้องเลิกระแวงประชาชนพร้อมกับสร้างความมั่นใจให้ชาวบ้าน และต้องแก้ไขกฎหมายเพื่อพัฒนาและยกระดับสิทธิให้มีความสอดคล้องกับความเป็นจริง เพราะการจัดงบประมาณตามนโยบายที่รัฐบาลทำแบบเดิมๆ เท่ากับรัฐบาลวางตัวเมินเฉย ต่อความทุกข์ร้อนของประชาชนที่ถูกตีตราว่าทำลายป่า นอกจากแก้ปัญหาที่ดินไม่ได้แล้วยังเป็นช่องโหว่ให้เกิดการทุจริตด้วย
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews
