ฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป หรือ ยูโร 2024 ที่เยอรมนี เป็นเจ้าภาพ ระหว่างวันที่ 14 มิถุนายน – 14 กรกฎาคม เวลานี้จบรอบแรกและได้ 16 ทีมสุดท้ายแล้ว โดย อิตาลี แชมป์เก่า และ อังกฤษ รองแชมป์ครั้งที่แล้ว ยังคงอยู่ในเส้นทางเช่นเดียวกับ ฝรั่งเศส และ สเปน ส่วน จอร์เจีย ที่ได้เล่นรายการนี้เป็นครั้งแรกสามารถทะลุสู่รอบ 16 ทีมได้เช่นกัน ซึ่งมีทีมใดที่มีโอกาสเข้ารอบตัดเชือกจนทะลุไปถึงรอบชิงชนะเลิศได้บ้างเราลองไปวิเคราะห์เจาะลึกกัน
เริ่มจากสายบนฝั่งขวาก่อน ระหว่างทีมชาติโรมาเนีย พบกับ เนเธอร์แลนด์ เรียกได้ว่า โรมาเนีย เข้ารอบมาอย่างเหนือความคาดหมาย หลังจากเข้ารอบมาในฐานะแชมป์กลุ่มE เหนือกว่าเบลเยียมที่เป็นรองแชมป์กลุ่ม และยังมี สโลวาเกีย และยูเครน ต้องบอกว่ากลุ่มนี้ไม่มีใครยอมใครจริงๆเพราะจบรอบแรกทุกทีมมี 4 แต้มเท่ากันหมด แต่โรมาเนีย ก็ผ่านเข้ามาเป็นแชมป์กลุ่ม ส่วนเนเธอร์แลนด์ ผ่านเข้ารอบมาเป็นอันดับ 3 ของกลุ่ม D เพราะนัดสุดท้ายดันไปสะดุดแพ้ออสเตรีย 2-3 ทำให้ออสเตรียทะยายขึ้นไปเป็นแชมป์กลุ่มD เพราะว่าอีกคู่ โปแลนด์ ดันไปยันเสมอ ฝรั่งเศส
ซึ่งคู่นี้ หากพูดถึงชื่อชั้น ขุมกำลัง ต้องยกให้เนเธอร์แลนด์เหนือกว่าและดูดีกว่า แต่การที่โรมาเนีย เข้ารอบมาในฐานะแชมป์กลุ่มก็ถือว่าประมาทไม่ได้ เกมคู่นี้เชื่อว่า ต่างฝ่ายต่างเล่นรัดกุม ตึงกันทั้งสองฝ่าย แต่สุดท้ายแล้วเชื่อว่าเนเธอแลนด์ จะเอาตัวรอดผ่าน โรมาเนีย ไปได้อย่างหวุดหวิด
คู่ถัดมาเป็นการพบกันระหว่าง ออสเตรีย กับ ตุรกี ทีมออสเตรียถือว่าเป็นทีมทีสร้างเซอร์ไพรส์มากๆ เพราะทีมที่ร่วมกลุ่มนั้นมีทั้งฝรั่งเศส เนเธอร์แลนด์ และ โปแลนด์ แต่นัดสุดท้าย สามารถทะยานขึ้นมาเป็นแชมป์กลุ่มได้สำเร็จ ด้วยการชนะ เนเธอร์แลนด์ 3-2 ถือว่าไม่ธรรมดา ทีมของ ราล์ฟ รังนิก ส่วน ตุรกี พวกเค้าผ่านเข้ารอบมาในฐานะรองแชมป์กลุ่มF มี 6 แต้มเท่าโปรตุเกส แต่ประตูได้เสียน้อยกว่า แต่คิดว่าตุรกีคงพอใจเพราะถ้าหากได้แชมป์กลุ่ม พวกเค้าจะต้องไปเจอทีมเขี้ยวๆอย่าง สเปน เยอรมัน การเจอกับ ออสเตรีย น่าจะสู้กันได้สูสี และถ้าผ่านไปเจอเนเธอร์แลนด์ ก็ยังสู้ได้อยู่ เพราะฉะนั้นคู่นี้ คิดว่า ตุรกี ดูดีกว่า แต่ก็อย่าประมาทออสเตรีย เพราะการที่แซงขึ้นมาเป็นแชมป์กลุ่มถือว่าไม่ธรรมดา
ต่อเป็นการพบกันระหว่าง อังกฤษ กับ สโลวาเกีย สำหรับทีมชาติอังกฤษ ทัวร์นาเมนต์นี้ ถูกยกให้เป็นทีมเต็ง 1 ผ่านเข้ารอบมาในฐานะกลุ่มC ผลงาน ชนะ1 เสมอ 2 อย่างไรก็ตามแม้จะเข้ามาในฐานะแชมป์กลุ่ม แต่ก็ถูกวิพากษ์วิจารณ์กระหน่ำถึงฟอร์มการเล่น ที่ไม่สมราคาทีมเต็ง 1 เลย เพราะมีซุปตาร์เต็มทีม ส่วนทีมสโลวาเกีย ผลงานจบที่สามของกลุ่มE คู่นี้ จะให้ใครชนะ แน่นอนแฟนบอลคงอยากเห็นทีมชาติอังกฤษไปได้ไกลถึงแชมป์เช่นกัน แม้ว่าฟอร์มไม่เป็นทรงดูน่าเบื่อ แต่พอถึงรอบนี้พวกเค้าก็คงต้องเค้นฟอร์มเก่งออกมาให้ได้ ถ้าหวังจะเป็นแชมป์
ถัดมาเป็น สวิตเซอร์แลนด์ เจอ แชมป์เก่า อิตาลี คู่นี้บอกได้เลยว่าเป็นอีก 1 คู่ที่น่าดูระดับต้นๆของรอบ 16 ทีมสุดท้าย โดยสวิตเซอร์แลนด์ จบรอบแบ่งหลุ่มด้วยการเป็นรองแชมป์กลุ่มA เป็นรองแค่เยอรมัน มี 5 แต้ม ซึ่งผลงานไม่ธรรมดา นัดแรกชนะฮังการี 1-0 นัดสอง เสมอสก็อตแลนด์ และนัดที่สามยันเสมอเยอรมันได้สำเร็จ ส่วนอิตาลีเป็รองแชมป์กลุ่มB ผลงานรอบแรก ชนะแอลแบเนีย 2-1 แพ้ สเปน 1-0 และเสมอ โครเอเชีย 1-1 ที่เป็นการตีเสมอในนาทีสุดท้าย ใครได้ดูคงจำได้ รอบ 16 ทีมต้องมาพบกับ สวิตเซอร์แลนด์ บอกได้เลยว่างานหยาบใช้ได้เลย คู่นี้ออกได้ทุกหน้าจริงๆแต่ถึงอย่างไร อิตาลี น่าจะอาศัยความเขี้ยวผ่านไปได้
ย้ายมาฝั่งซ้ายกันบ้าง เรียกว่าสายนี้มีทีมตัวเต็งอยู่หลายเลยทีเดียว เริ่มจากสายบน สเปน พบ จอร์เจีย โดยสเปนผ่านเข้ารอบนี้มาด้วยการเป็นแชมป์กลุ่ม B หรือ กรุ๊ปออฟเดต ยืนเหนือทั้ง อิตาลี โครเอเชีย และ แอลแบเนีย และเป็นทีมที่มีคะแนนมากที่สุด ด้วยการชนะทั้ง3 นัด มี 9 แต้ม ส่วนฝั่งของจอร์เจีย เข้ารอบมาในฐานะอันดับ3ของกลุ่มF ผลงานนัดแรกแพ้ ตุรกี 3-1 นัดสองเสมอเช็ก1-1 และนัดสุดท้ายสร้างเซอร์ไพร์ด้วยการเอาชนะโปรตุเกสไปได้ 2-0 ส่วนคู่นี้ก็คิด สเปนไม่น่าจะลำบากมาก คงผ่านได้ไม่ยาก
มาต่อที่คู่ของเยอรมันกับเดนมาร์ก คู่นี้เจ้าภาพเยอรมันผ่านเข้ารอบมาในฐานะแชมป์กลุ่มA และมีประตูได้เสียบวกเยอะสุด มี 7 แต้มรองแค่ทีมชาติสเปนเท่านั้น ซึ่งมาจากการที่เยอรมันไปสะดุดเสมอกับสวิตเซอร์แลนด์นั้นเอง ซึ่งฟอร์มโดยรวมแล้ว ถือ่วายอดเยี่ยมเลย และโคจรมาพบกับ เดนมาร์ก ทีมอันดับ2ของกลุ่มC ผลงานของพวกเค้าคือ เสมอทั้ง 3 นัดเลย ในรอบแบ่งกลุ่ม เสมอ สโลวีเนีย 1-1 เสมอ อังกฤษ 1-1 และเสมอ เซอร์เบีย 0-0 ซึ่งเชื่อว่าคู่นี้เยอรมันคงเอาชนะไปได้ และไปพบกับสเปนในรอบรองชนะเลิศต่อไป
ถัดมาเป็นคู่ของโปรตุเกส กับ สโลวีเนีย โปรตุเกสนั้นเป็นแชมป์กลุ่มF ผลงานนั้น ชนะ 2 แพ้ 1 ซึ่งนัดที่แพ้จอร์เจีย ถือว่า ไม่เอาจริง เพราะเอาตัวสำรองลงเกือบทั้งทีม ส่วนสโลวีเนีย เป็นอันดับ 3 ของกลุ่มC ผลงานนั้นเหมือนเดนมาร์กเลย เสมอทัง 3 นัด แต่โดยรวมถ้าจะเลือทีมที่เข้ารอบ ก็คงไม่พ้นโปรตุเกสที่ขุมกำลังและทีเด้ดทีขาดดีกว่าเยอะ
มาถึงคู่สุดท้าย ฝรั่งเศส เจอ เบลเยีบม ถือได้ว่าเป็นสองทีมใหญ่ที่ ผิดคาดทั้งคู่ ผ่านเข้ามาในฐานะรองแชมป์กลุ่มทั้งคู่เลย ฝรั่งเศสเป็นรองแชมป์กลุ่มD ส่วนเบลเยียมเป็นรองแชมป์กลุ่มE เชื่อว่าเกมนี้มันแน่ๆ เพราะทั้งคู่มีศูนย์หน้าที่พร้อมโป้งปิดบัญชี ทั้ง เอมบัปเป้ และ ลูกากู ฝรั่งเศสทีมฟีฟ่า แร็งกิ้ง อันดับสองของโลก เจอกับ เบลเยียม จากฟีฟ่าแร็งกิ้ง เป็นอันดับ3ของโลก บอกเลยว่าคู้นี้เป็นอะไรที่เดายากมาก แต่ถ้าจะให้เลือกคงหนีไม่พ้นฝรั่งเศส เพราะดูภาพรวมแล้วถือว่าดูดีกว่าเบลเยียม และเข้าไปตัดเชือก กับโปรตุเกส ได้อย่างแน่นอน ส่วนบทสรุปทีมใดจะผ่านเข้ารอบตัดเชือก และ ทะลุไปถึงรอบชิงชนะเลิศ ก็ต้องลุ้นและเชียร์กันต่อไป
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews