การเมืองในหน้าปัด กำลังสนใจ “2ปรากฎการณ์” อันสัมพันธ์ฉากการเมืองว่า ด้วยบทบาทน้ำหนักและพาวเวอร์ของ ผู้มีบารมีนอกรัฐบาลเพื่อไทย อย่าง“นายทักษิณ” ที่กำลังเป็นโจทย์ใหญ่อันก้ำกึ่ง พุ่งเป้าไปที่กระบวนการจัดการ “การเลือก” และ “การเลือกตั้ง” ของ คณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.)
อย่าง 1.ปมการเลือกสว.200 ที่ได้ “สว.สีน้ำเงิน”มาเกินครึ่ง และ 2.การเลือกตั้ง “นายกอบจ.ปทุมธานี”ที่แม้ เพื่อไทย จะชนะ “บิ๊กแจ๊ส-คำรณวิทย์”ได้ “ลุงชาญ”มาแต่ก็ถูกมองเป็นชัยชนะในความพ่ายแพ้ ทั้งคะแนนที่ชนะมาเพียงพันกว่าคะแนนและ ตำหนิของ “ลุงชาญ”ที่ยังเป็นปัญหาการตีความจาก “กฤษฎีกา”ว่าจะ “ส่งผลโดยอัตโนมัติ” ในการที่ “ลุงชาญ”ต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ทันทีเมื่อ กกต.รับรองผล หรือไม่
ที่ถูกมองว่า ส่งผลกับบารมี“ทักษิณ”และ ทิศทาง“พรรคเพื่อไทย”ที่มาในธีม “บ้านใหญ่”ตามคำสั่ง “นายใหญ่”กับการลุยศึกเลือกตั้งท้องถิ่นและระดับชาติในสนามถัดไป อย่างที่ “บิ๊กแจ๊ส”น้องรัก “พี่ษิณ” ที่เคยบอก “มีวันนี้เพราะพี่ให้”ยอมที่จะแพ้เลือกตั้งให้พี่ ไม่ใช่แพ้ “ลุงชาญ”เพราะงวดนี้ “พี่ษิณ”ทุ่มสุดตัวแบบแพ้ไม่ได้ ทักดังเห็นใจพี่ระวังถูก“บ้านใหญ่”หลอก โดยปรากฎการณ์ที่จ.ปทุม ยังถูกเทียบว่าคล้ายจะเป็น“อิหรอบเดียวกัน”กับอาการทางการเมืองของ “ทักษิณ”
หลังการเลือก“สว.200”ที่ กกต.จัดให้จนได้ “สว.สีนำเงิน”เกินครึ่ง ที่ปลายทาง กำลังถูกร้องเรียน กับ “ความผิดปกติ”ในกระบวนการเลือกแบบ “ฮั้ว”และ “มีโพย”นับสิบเคส ไม่นับรวมความ“ไม่ตรงปก”และความกังวลของผู้คนในสังคมว่า “สว.สีน้ำเงิน”จะไหวมั้ยกับภารกิจเลือกกรรมการในองค์กรอิสระสำคัญหลายองค์กร ที่ทยอยหมดวาระหลายท่าน
ที่ทั้ง2 กรณีวันนี้ยังถูก กกต. “ดึงเช็ง”ดูทิศทางลม ในการรับรองผลการเลือก สว.200 และการเลือกตั้ง “นายกอบจ.”ที่ยังเป็นปัญหา โดยทั้ง2 ปรากฎการณ์ ถูกวิจารณ์ไปถึงใครต่อใคร ที่เกี่ยวข้องว่า เละ เลอะ ทั้งนี้ ยังไม่นับรวมผลโพลความนิยมพรรคก้าวไกล และ “พิธา” ที่ทิ้งเพื่อไทย อุ๊งอิ๊ง เศรษฐา แบบไม่เห็นฝุ่น จนทำให้“ทักษิณ”เริ่มถูก วิจารณ์ กำลัง “สิ้นมนตร์ขลังทางการเมือง”ต่างไปจากสมัยเป็น “นายกฯ”ในยุค “พรรคไทยรักไทย”แถมเริ่มมีผู้คนในแวดวง “กุนซือการเมือง” วิเคราะห์ไปสู่แนวโน้ม “ผู้มีอำนาจในดีล”จะพลิกเกมเปลี่ยนไปใช้บริการ “เสี่ยหนู”โดย “สมานฉันท์”กับ “พรรคเด็ก-ก้าวไกล”แทน “ทักษิณ”
โดยท่วงทำนองการวิเคราะห์เหล่านี้ เกิดขึ้นในจังหวะเดียวกันกับกระแสโซเชียลในห้วง2-3วัน เริ่มมีการกลับมา “บิ๊วกระแส” ติด #คิดถึงลุงตู่ กลับมากระหึ่มอีกครั้ง หลังจากเคยมีกระแสมาช่วงหลายเดือนก่อน ในขณะก็น่าสนใจกับ การเคลื่อนไหวของ “สว.250” ที่หมดวาระไปแล้วในปีก “อดีตสว.”ที่เคยตรวจสอบ “รัฐบาลเศรษฐา” กับการเกาะติดจับผิดปัญหาการเลือก “สว.200”
โดยพุ่งเป้าไปที่ กกต.อย่างที่ล่าสุดมีการออกมาของ “สว.สมชาย”ที่ออกมาถล่ม กกต.กำลังทำพิธีกรรม ชะลอประกาศรับรองผลเลือก สว. แต่ขณะเดียวกันกลับมีการประสานให้วันที่ 7 ก.ค. เลขาวุฒิสภาเตรียมการ รับรายงานตัว เตรียมห้องทำงาน เหมือนกำลังมา “ไล่ที่” “สว.ชุดเก่า” พร้อมเรียกร้องให้ กกต.สอบ 4 เรื่อง ทุจริตเลือก สว.ชี้ ยังมีเวลาตรวจสอบ ไม่ใช่อ้างว่าไม่เห็น
ในขณะเดียวกันก็น่าสนใจการออกมาของ “ผู้นำจิตวิญญาณพรรคเด็ก”อย่าง “อ.ปิยะบุตร”ที่จู่ๆวันนี้ ก็เหมือนออกมาดักทางใคร สนับสนุนให้ กกต. ประกาศรับรองว่าที่ สว. 200 คน ก่อนแล้วค่อยไล่สอยรายตัวมอง กรณีการร้อง หวังจะให้การเลือกสว.เป็นโมฆะ เป็นการฝันเกินไปของบางกลุ่มที่หวังจะให้วุฒิสภา 250 คน รักษาการยาวต่อไป
แม้จะยอมรับว่า กระบวนการได้มาซึ่ง สว. หนนี้แปลกประหลาด ไม่เคยมีประเทศไหนในโลกใช้มาก่อนและผลลัพธ์ไม่ได้ตรงไปตามเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญปี 2560 ที่หวังให้ สว.ได้มาจากหลากหลายอาชีพ แต่จะเป็นข้อสังเกตที่ควรบอกว่า ในอนาคตจะมีการเปลี่ยนระบบการได้มาซึ่ง สว. หรือไม่ หรือจะเปลี่ยนให้เป็นสภาเดี่ยวมีแต่สภาผู้แทนราษฎร ซึ่งการกระทำแบบนั้นได้ก็ต้องมีการแก้ไขรัฐธรรมนูญและเป็นเรื่องยุ่งยากพอสมควร จะต้องใช้เสียง สว. ถึง 1 ใน 3 ตอนนี้ก็คงทำได้เพียงกระบวนการรณรงค์ทางความคิดไปก่อน
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews
