Home
|
อาชญากรรม

เทพไท ถอดกำไลEM หลังรับโทษครบ2ปี

Featured Image
“เทพไท” อดีต ส.ส.ปชป. คืนสู่อิสรภาพ ถอดกำไลEM หลัง ถูกรับโทษครบ 2 ปี ตัดพ้อกระบวนการยุติธรรม ให้อภิสิทธิ์ “ทักษิณ” เหนือบุคคลอื่น

 

 

 

วันนี้ (6 ก.ค 67 ) เวลา 10.00 น. ที่ กรมคุมประพฤติ ศูนย์ราชการฯ ชั้น2 ถนนแจ้งวัฒนะ กรมคุมประพฤติ ได้นัด นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ ถอดกำไลEM หลัง จำคุกมา 2 ปี พักโทษมา 8 เดือน ตามคำพิพากษาศาลฎีกา ในคดีทุจริตเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครศรีธรรมราช เมื่อปี 2557

 

 

นายเทพไท เปิดเผยว่า วันนี้เป็นวันสุดท้ายของการ ที่ตนถูกคุมขัง เป็นเวลา 2 ปี ซึ่งตนได้รับการพักโทษเป็นเวลา 8 เดือน และวันนี้เป็นการครบกำหนดการพักโทษ ซึ่งตนได้มารายงานตัว กับทางเจ้าหน้าที่กรมคุมประพฤติตั้งแต่เมื่อวาน และวันนี้เป็นวันดี ที่ตนได้ถอดกำไร EM ระยะเวลาที่ตนโดนคุมประพฤติ ตนปฏิบัติทุกอย่างตามกฎระเบียบของกรมราชทัณฑ์

 

 

อย่างเคร่งครัดมาตลอด และระหว่างที่ตนโดนคุมขัง ตนอยากขอบคุณ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน อดีต รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ปัจจุบันเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ที่ได้ไปเยี่ยมตนเป็นการส่วนตัวในเรือนจำ และ พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ที่ไปเยี่ยม และประสานงานเรื่องการพักโทษให้ตน และเจ้าหน้าที่ เรือนจำทุกคนที่ปฏิบัติตนเหมือนนักโทษทั่วไป ไม่มีสิทธิพิเศษเหนือใคร

 

 

โดยตนได้เข้าไปอยู่เรือนจำวันที่ 6 กรกฎาคม 2565 จนมาถึง วันที่ 28 กรกฎาคม 2565 ก็มีพระราชกฤษฎีกาอภัยโทษ แต่ตนไม่ได้รับ เพราะมี ค.ร.ม. เงื่อนไขว่า ต้องจำคุกก่อน 1 ใน 3 ตนจึงไม่ได้รับ การอภัยโทษ ตนโดนคุมขังมาได้ 8 เดือน 1ใน 3 ของโทษ ได้รับการพักโทษได้เป็นกรณีพิเศษ ซึ่งได้ปฏิบัติต่อ นักโทษ VIP บางท่าน แต่ตนกับไม่ได้รับ

 

 

ซึ่งวันที่ 22 สิงหาคม 2566 เป็นช่วงที่ นายทักษิณชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้เดินทางมารับโทษที่ประเทศไทย แล้วก็ ขอพระราชทานอภัยโทษ แต่ตนก็ไม่รับสิทธินั้น โดย นายทักษิณ ก็ใช้เหตุผลในการขอพระราชทานอภัยโทษ 4 ข้อ ข้อแรกบอกว่า เป็นนักการเมือง ทำงานให้กับประเทศชาติ ซึ่งตนก็เป็นนักการเมืองที่รับใช้ประเทศชาติมาเหมือนกัน แต่ทำไมถึงไม่รับสิทธิ์นั้นเหมือนนายทักษิณ ชินวัตร และยังอ้างว่าจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ ตนก็จงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์เหมือนกัน

 

 

และไม่มีคดี มาตรา 112 เหมือนนายทักษิณ และยังอ้างบอกว่าเชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรม แต่ตัวเองกลับหนีออกนอกประเทศตั้ง 17 ปี ต่างจากตนที่ ไม่หนีคดีออกนอกประเทศ เข้าสู่กระบวนการยุติธรรมทุกอย่างตามกฎหมาย และบอกว่าอายุมาก และมีโรคประจำตัว ซึ่งตนก็เข้าเกณฑ์เหมือนกัน ซึ่งองค์รวมที่พูดมาทั้งหมด มองเห็นถึงการปฏิบัติที่แตกต่างกัน

 

 

ว่าทางนายทักษิณ ชินวัตร ได้รับอภิสิทธิ์เป็นนักโทษเทวดาเหนือบุคคลอื่น เพราะนี้ความเหลื่อมล้ำของกระบวนการยุติธรรม ตั้งแต่ นายทักษิณ ได้ไปอยู่ บนชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ แต่นักโทษคนอื่นกับอยู่ในคุก แค่อ้างว่าป่วยหนัก

 

 

ส่วน ประเด็นการสัมภาษณ์ ของ พลตำรวจเอก เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส น่าจะเป็น ปากสำคัญ ที่จะเป็นหลักฐานมัดตัว นายทักษิณได้ ที่ พลตำรวจเอก เสรีพิศุทธ์ ได้พูดว่าได้ไปเยี่ยม นายทักษิณ ตามที่นายทักษิณ ขอร้องให้ถอนฟ้อง นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี แสดงว่า ตอนนั้น นายทักษิณ อยู่ชั้น 14 ไม่ได้ป่วยหนักอย่างที่อ้าง มีสติสัมปชัญญะครบ สามารถสั่งการ เคลื่อนไหวได้ ฝากถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง สอบสวนหาความจริง ควรพิจารณาเรื่องนี้อีกรอบ ว่า นายทักษิณ ไม่ได้ป่วยจริง อย่างที่อ้าง และตอนนี้นายทักษิณ กำลัง แทรกซึม เข้าไป วงการการเมือง ไม่ได้กลับมาเลี้ยงหลานอย่างที่บอก

 

 

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

 

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube