อสม.ขอนแก่น เดือดรัฐบาลเสนอร่างพรบ.อสม.เกษียณอายุ70 มั่นใจ อสม.ทั่วไทยไม่เห็นด้วย เพราะทุกคนทำด้วยใจ จะขอทำหน้าที่ไปจนตาย
ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่สำรวจความคิดเห็นภายหลังจากที่รัฐบาลเสนอร่าง พรบ.อสม.อายุ 70 ปีต้องพ้นสภาพจากตำแหน่ง ท่ามกลางเสียงวิพากษ์วิจารณ์ของ อสม.ทั่วทั้งประเทศอย่างมากในขณะนี้ซึ่งส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วยกับขอเสนอดังกล่าวที่รัฐบาลกำลังดำเนินการ
น.ส.เกศริน แสงสวัสดิ์ อสม.เทศบาลนครขอนแก่น กล่าวว่า หากร่าง พรบ.ดังกล่าวผ่าน และผลบังคับใช้ ยืนยันว่ามีผลกระทบแน่นอนเพราะก่อนหน้านี้ อสม.ทำงานไม่มีค่าตอบแทน ทุกคนทำด้วยใจ แต่พอมีค่าตอบแทนมีเงินเดือน จะมาทำแบบนี้ไม่ได้ อสม.ทุกคนและทุกพื้นที่ทำงานเกินเงินเดือนลงพื้นที่ตลอดเวลา แม้หลายคนจะมีอายุเยอะ ก็จะมี อสม.รุ่นน้องคอยดูแลและทำงานร่วมกันเป็นทีม เพราะ อสม. ทำงานที่ตนเองรัก ทำงานแบบจิตอาสา และจะทำงานนี้ไปจนวันตาย
“หาก อสม. ใหม่ที่จะเข้ามาทำหน้าให้อายุไม่เกิน 70 ปี ประเด็นนี้นั้นยอมรับได้ แต่คนเก่าแก่ที่เคยทำกันมาก็ไม่ต้องไปปลด ให้ทุกท่านได้ทำหน้าที่ไปจนกว่าจะตายหรือทำงานไม่ไหวก็จะลาออกเอง ซึ่งรัฐบาลกลัวว่า อสม. อายุเยอะจะมีปัญหาเรื่องสุขภาพ กระทบต่อการทำงาน โดยส่วนตัวขอบอกเลยว่าไม่มีทางเพราะเราทุกคนอบรมและดูแลเรื่องสุขภาพตลอด ถ้ามองกลับกัน รัฐบาลมาออกแบบ ที่จะปลดแบบนี้ยิ่งจะทำให้ อสม. อายุเยอะตายไวขึ้นเพราะไม่มีอะไรทำ ดังนั้นรัฐบาลต้องมองดูคนเก่าด้วยอย่าให้ความสำคัญกับคนใหม่เยอะเพราะคนที่เข้ามาใหม่อาจจะเห็นว่ามีรายได้จึงได้สมัครเข้ามา”
น.ส.เกศริน กล่าวต่ออีกว่า หากยืนยันว่าจะปลดจริงๆ อสม. เทศบาลนครขอนแก่นจะไม่ยอมเพราะถ้าทำแบบนี้จะทำให้ อสม. ที่ร่วมสร้างกันมาตั้งแต่ยังไม่มีค่าตอบแทนจะสู้และไม่ยอมเด็ดขาด หลังจากที่มีค่าตอบแทนเดือนละ 2,000 บาทต่อเดือนมี อสม. ใหม่สนใจเข้ามาเยอะขึ้นเพราะมีค่าฌาปนกิจเพิ่มขึ้นด้วยจาก 150,000 บาท เพิ่มเป็น 540,000 บาท ดังนั้นการตอบแบบสอบถาม ที่ออกมาในช่วงนี้บอกได้เลยว่าทุกคนไม่พอใจและไม่มีใครยอมแน่นอน
“สมชาย” จี้ คุณสมบัติวุฒิการศึกษา”พญ.เกศกมล” ตรงกับกลุ่มที่ไปลงสมัครหรือไม่ อาจเข้าข่ายผิด ม.74 โทษจำคุก 1-10 ปี นายสมชาย แสวงการ สมาชิกวุฒิสภา ให้สัมภาษณ์ถึงคุณสมบัติวุฒิการศึกษาของ พญ.เกศกมล เปลี่ยนสมัย ว่าที่ สว. ว่า อย่าลืมว่าเจตนารมย์ของรัฐธรรมนูญ ต้องการกลุ่มคนที่มีประสบการณ์ในแต่ละอาชีพ ไม่จำเป็นต้องมีวุฒิการศึกษาก็ได้ แต่ถามว่าตรงกับกลุ่มที่ไปลงสมัครหรือไม่ เป็นอีกเรื่องหนี่ง
ส่วนเรื่องวุฒิการศึกษาที่ให้เขียน 5 บรรทัด ถ้าบอกว่าเลี้ยงไก่ เรามีความรู้ด้านศิลปวัฒนธรรม ได้มาเป็น สว. ก็ต้องอธิบายว่าเข้ามาได้อย่างไร กกต. ไม่ได้ตรวจระดับพื้นที่หรือ แต่ในกรณีนี้ ที่มีข้อสงสัยเรื่องวุฒิการศึกษาการสมัครก็ไม่ได้มีข้อกำหนดว่าต้องจบวุฒิไหน ไม่ว่าจะจบปริญญาตรี โท เอก แต่ถ้าใช้ไปในทิศทางหลอกลวง ก็จะเป็นอีกกฎหมายหนึ่ง โดยก็จะมีความผิดตั้งแต่มาตรา 74 ที่รู้อยู่แล้วว่าไม่มีคุณสมบัติ แล้วใช้วุฒิการศึกษาไปจ้างวานหลอกลวงให้คนอื่นเลือก ก็มีโทษจำคุก 1-10 ปี ปรับ 20,000-200,000 บาท แต่ก็ไม่มีใครกลัวสักคน เห็นมาสมัครกัน 40,000 กว่าคน ผ่านกันมาเยอะมาก แต่กรรมาธิการได้ข้อมูลว่าผิดตั้งแต่ต้น
สำหรับกรณีหมอเกศกมล หากพิสูจน์ได้ว่าใช้วุฒิการศึกษาปลอม อาจเข้าข่ายหรือไม่ ตนไม่รู้ว่าจบปริญญาเอกจริงหรือไม่ อาจจะจบจริงก็ได้ แต่เรื่องศาสตราจารย์ เป็นเรื่องของการโปรดเกล้าฯ วิธีการตรวจคือมหาวิทยาลัย รับรองหรือไม่ และได้รับการรับรองจากกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) หรือไม่ คำว่ากิตติมศักดิ์ บุคคลทั่วไปก็ใช้ไม่ได้
ซึ่งเอกสารในการสมัคร หากผิดพลาด ก็ต้องผิดพลาดตั้งแต่ต้น คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ก็ต้องรับผิด กกต. ปล่อยปะละเลยหรือไม่ ถ้ามั่นใจว่าตรวจแล้ว ก็ต้องดูว่าถูกตัดสิทธิ์ไปตั้งแต่ระดับอำเภอหรือไม่ หรือเข้าไปมีส่วนร่วมในกระบวนการโหวตตั้งแต่ต้น ทำให้กระบวนการเสียตามทฤษฎีต้นไม้พิษหรือไม่ แต่วันนี้สังคมอยากให้กระบวนการเดินต่อ ไม่อยากให้เป็นโมฆะ สว. ไม่ได้อยากอยู่ต่อ แต่เป็นหน้าที่ของ กกต. ที่ต้องไม่ปล่อยปะละเลย ยืนยันว่าพร้อมส่งมอบงาน ถ้าท่านรับด้วยเกียรติ เราก็ส่งให้ด้วยเกียรติ
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews