Home
|
ภูมิภาค

โคราชรักกัญช์ เห็นด้วย สธ. เคาะกัญชากลับเป็นยาเสพติด

Featured Image

 

 

 

เครือข่ายวิสาหกิจชุมชนคนโคราชรักกัญช์ เห็นด้วย สธ. เคาะกัญชากลับเป็นยาเสพติด แต่ควรขยายกรอบค่า THC ให้มากขึ้น และสนับสนุนการส่งออกสารสกัด THC ไปประเทศที่ต้องการนำไปแปรรูปทำยา

 

 

 

นายมนตรี เยี่ยมสูงเนิน ประธานเครือข่ายวิสาหกิจชุมชนคนโคราชรักกัญช์ กล่าวว่า จากกรณีคณะกรรมการควบคุมยาเสพติด ได้มีมติเห็นชอบให้นำกัญชาและกัญชง กลับเข้าสู่บัญชีรายชื่อยาเสพติดประเภทที่ 5 โดย(ร่าง) ประกาศดังกล่าว จะเพิ่มกัญชาและกัญชงในส่วนช่อดอกที่มีสารสกัด THC มากกว่า 0.2% เป็นยาเสพติด ยกเว้น กิ่ง ก้าน ราก ใบ เมล็ด..”

 

ซึ่งการเปลี่ยนสถานะกัญชา กลับมาเป็นยาเสพติดให้โทษนั้น ตนเห็นด้วย เพราะในช่วงที่ทางกระทรวงสาธารณสุข ก็ได้ประกาศปลดล็อกให้ประชาชนสามารถปลูกกัญชาได้อย่างเสรีเมื่อวันที่ 9 มิถุนายน 2565 มีประชาชนที่สนใจจะปลูกลงทะเบียนผ่านแอพลิเคชั่นกัญชา มากกว่า 1,100,000 ราย ในขณะที่กลุ่มวิสาหกิจชุมชนของตนและที่อื่นๆ อีก 3,000-4,00 รายทั่วประเทศ ต้องไปทำ MOU ร่วมกับส่วนราชการเพื่อให้ได้รับใบอนุญาต

 

จึงได้รับผลกระทบอย่างหนัก อีกทั้งในห้วง 2 ปีที่ปลดล็อกกัญชา ทำให้พืชกัญชาและผลิตภัณฑ์กัญชาล้นตลาด มีการนำไปใช้เพื่อการสันทนาการจำนวนมาก ซึ่งผิดวัตถุประสงค์ และที่สำคัญคือไม่สามารถควบคุมดูแลการใช้ได้ ทำให้ประชาชนโดยเฉพาะเด็กและเยาวชนเข้าถึงกัญชาโดยง่าย

 

และยังมีการนำเข้ากัญชาจากต่างประเทศเข้ามาจำนวนมากด้วย จึงส่งผลกระทบทำให้กัญชาล้นตลาด และราคาตกอย่างรวดเร็ว หาที่ขายแทบไม่ได้ วิสาหกิจชุมชนต่างๆ จึงล้มหายไปเป็นจำนวนมาก

 

ขณะที่เครือข่ายวิสาหกิจชุมชนคนโคราชรักกัญช์ ก็พยายามประคับประคองตัวเอง ด้วยการลดพื้นที่ปลูกกัญชาลง 90% ถ้าปลูกเยอะก็หาที่ขายไม่ได้ และพอมีสัญญาณนำกัญชากลับไปเป็นยาเสพติดอีกครั้ง เกษตรกรสมาชิกของกลุ่มฯ จำนวน 435 ราย ต่างมีความหวังมากขึ้น คิดว่าน่าจะดีสำหรับกลุ่มที่ปลูกเพื่อการแพทย์ แต่รายละเอียดที่ระบุใน (ร่าง) ประกาศ สธ.เรื่องระบุชื่อยาเสพติดให้โทษในประเภท 5 พ.ศ. … ที่ว่า จะเพิ่มกัญชา และกัญชง ในส่วนช่อดอกที่มีสารสกัด THC มากกว่า 0.2% เป็นยาเสพติด ยกเว้น กิ่ง ก้าน ราก ใบ เมล็ด

 

ตนเห็นว่า น่าจะปรับเปลี่ยนค่า THC ให้สูงกว่านี้ ไม่ใช่บีบไว้แค่ 0.2 % อยากให้เพิ่มอย่างน้อยสัก 0.5 % เพราะถ้านำไปทำเป็นน้ำมันกัญชาจะได้ไม่ผิดกฎหมาย เป็นการขยายโอกาสให้กับกลุ่มที่ปลูกเพื่อการแพทย์ จะได้มีช่องทางจำหน่ายในเชิงการค้าหรือแปรรูปได้กว้างขึ้น ไม่ใช่จำกัดการทำได้แค่ผลิตภัณฑ์ไม่กี่ตัวแบบเดิม

 

นอกจากนี้ ควรสนับสนุนการส่งออกสารสกัด THC ไปยังประเทศที่มีความต้องการนำสารสกัด THC ไปแปรรูปทำเป็นยาด้วย เพราะกลุ่มวิสาหกิจชุมชนฯ ส่วนใหญ่จะลงทุนซื้อเครื่องสกัดสาร THC มาเตรียมไว้อยู่แล้วราคาหลายล้านบาท แต่กลับไม่ได้ใช้ เพราะสกัดสาร THC ออกมาแล้ว แต่ไม่สามารถขายได้ เงินของสมาชิกที่ร่วมลงทุนต้องมากองอยู่เฉยๆ ไม่สามารถเอาทุนคืนได้สักที ถ้าสนับสนุนในเรื่องนี้ด้วย ก็ช่วยได้อย่างมาก

 

แต่ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มวิสาหกิจชุมชนที่ปลูกถูกต้องตามกฎหมาย หรือผู้ที่ปลูกเพื่อสันทนาการ ก็มีการลงทุนเปิดร้านจำนวนมาก ถ้าประกาศให้กัญชาเป็นยาเสพติด มีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 มกราคม 2568 ย่อมได้รับผลกระทบกันถ้วนหน้า จึงตนอยากให้รัฐเร่งเยียวยาช่วยเหลือก่อน เพราะวิสาหกิจชุมชนทั่วประเทศได้รับความเดือดร้อนอย่างมากจริงๆ

 

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube