ห้วงนี้ “นายกฯเศรษฐา” ดูหมองดูคล้ำไม่เปล่งประกายเท่าที่ควร อาจเพราะกังวลคดีความหลายดอก ยิ่งล่าสุด “บิ๊กโจ๊ก” โนสนโนแคร์คำเตือน “เทพวิษณุ” คนบ้านเดียวกัน ออกมาบรรจุกระสุนให้ สำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ปปช.ขึ้นลำ ล๊อกเป้าที่นายกฯ เศรษฐา ถล่มฟ้องในมาตรา 157 ปมเสนอชื่อ “บิ๊กต่อ” เป็นผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติทั้งที่ไม่เข้าเกณฑ์ ซึ่งล่าสุด “บิ๊กต่อ” ดอดเข้าพบ “นายกฯเศรษฐา” คาดถกเข้าปม “บิ๊กโจ๊ก” ฟ้องดะ
เมื่อส่องดูในหน้าประวัติศาสตร์การเมืองไทย มีผู้นำที่มีชื่อเสียง จำนวน 5 ราย ที่เคยโดยฟ้องร้องใน มาตรา 157 ซึ่งมีชื่อเต็มๆว่า “ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 บัญญัติว่า “ผู้ใดเป็นเจ้าพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ต้องระวางโทษจาคุกตั้งแต่1 ปี ถึง 10 ปี หรือปรับตั้งแต่ 2,000 บาทถึง 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และมีอายุความ 15 ปี
เริ่มจากคนแรก คือ นายกฯเศรษฐา นายกรัฐมนตรีคนที่ 30 ที่ถูกฟ้องในมาตรา 157 คนต่อมา “ทักษิณ ชินวัตร ” นายกรัฐมนตรีคนที่ 23 โดนฟ้องมาตรา 157 หลายคดี แต่มาเกมในคดีทุจริตโครงการออกสลากพิเศษแบบเลขท้าย 3 ตัว 2 ตัว หรือ “คดีหวยบนดิน” ของสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล โดยศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองพิพากษา เมื่อวันที่ 6 มิถุนายน 2562 ให้จำคุกทักษิณ 2 ปี ไม่รอลงอาญา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157
ซึ่งคดีนี้ของทักษิณถูกรวมไปในหลายๆคดี เบ็ดเสร็จแล้ว 8 ปี และเมื่อเขากลับมาเมืองไทยและได้ ยื่นทูลเกล้าฯ ถวายฎีกาขอพระราชทานอภัยโทษ และได้พระราชทานพระมหากรุณาอภัยลดโทษให้ เหลือโทษจำคุกต่อไปอีก 1 ปี แต่ทว่าทักษิณไม่เคยเอนกายสัมผัสพื้นปูนในเรือนจำพิเศษกรุงเทพแม้แต่คืนเดียว เพราะเขาถูกส่งไปรักษาตัวยังชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ และได้พักโทษในอีกไม่กี่เดือนต่อมา ขณะนี้ยังคงเป็นผู้ทรงอิทธิพลกำหนดทิศทางทางการเมืองไทย
คนต่อมา “ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร”นายกรัฐมนตรีคนที่ 28 โดยเมื่อวันที่ 27 ก.ย. 2560 ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง อ่านคำพิพากษาลับหลังในคดีปล่อยปละละเลยให้เกิดการทุจริตในโครงการรับจำนำข้าว โดยการกระทำของจำเลยเป็นการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต เป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 เดิม และพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามทุจริต พ.ศ. 2542 มาตรา 123/1 ลงโทษจำคุก 5 ปี ไม่รอลงอาญา ซึ่งทางยิ่งลักษณ์ ได้หลบหนีไปต่างประเทศก่อนนี้แล้ว ซึ่งขณะนี้ข่าวลือว่า ผู้มีอำนาจกำลังปั้นดีล”กลับบ้าน”เฉกเช่นพี่ชายของเธอ
คนต่อมา “บิ๊กตู่-พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา”นายกรัฐมนตรีคนที่ 29 สมัยครองอำนาจในช่วงโควิด -19 ระบาด นายสุทิน คลังแสง ประธานวิปฝ่ายค้านในขณะนั้นยื่นหนังสือต่อ ป.ป.ช.ว่า บิ๊กตู่จงใจปฏิบัติหน้าที่หรือใช้อำนาจขัดต่อรัฐธรรมนูญ และกฎหมายตามประมวลกฎหมาย อาญามาตรา 157 และ 172 ฐานละเว้นปฏิบัติ หรือ ปฏิบัติโดยทุจริต รวมถึงผิดมาตรฐานจริยธรรมร้ายแรง แต่ต่อมาถูกตีตกในชั้นป.ป.ช. นอกจากนี้ยังมีอีกหลายคดีที่บิ๊กตู่ถูกเล่นงานก็ถูกตีตกไปเช่นกัน
คนต่อมา”อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ”นายกรัฐมนตรีคนที่ 29 โดนฟ้องมาตรา 157ในคดี ละเลย เพิกเฉย ปล่อยให้มีทุจริตโครงการประกันราคาข้าว รัฐเสียหาย1แสน3หมื่นล้านบาทแต่ คณะกรรมการ ป.ป.ช.ฝ่ายเสียงข้างมาก จำนวน 6 เสียง เห็นว่า จากการไต่สวนข้อเท็จจริงไม่ปรากฏพยานหลักฐานเพียงพอที่จะสนับสนุนว่า อภิสิทธิ์ ผู้ถูกกล่าวหา ได้กระทำความผิดตามที่กล่าวหา ข้อกล่าวหาไม่มีมูล ให้ข้อกล่าวหาตกไป ต่อมาหลัง อภิสิทธิ์ ออกจากค่ายสีฟ้า ก็ลดบทบาทลงเรื่อยๆ
ทั้งนี้ยังมีคนระดับรัฐมนตรีหลายรายที่โดนคดีมาตรา 157 เช่นนายยงยุทธ วิชัยดิษฐ อดีตรมว.มหาดไทย จำคุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา คดีที่ดินอัลไพน์ รายต่อมา ปลอดประสพ สุรัสวดี อดีตรองนายกฯ โดนคดีโยกย้ายไม่เป็นธรรม ศาลจำคุก 1 ปี 8 เดือน ไม่รอลงอาญา รายต่อมา นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีตรมว.พานิชย์ จำคุก 42 ปี กรณีรู้เห็นทุจริตระบายข้าวแบบจีทูจี ผิดมาตรา 157 และ พ.ร.บ.ฮั้วฯ อย่างไรก็ตาม ต้องลุ้นว่านายกเศรษฐา จะฝ่าด่านมาตรา 157ไปได้หรือไม่?
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews
