Home
|
ไลฟ์สไตล์

ไขข้อสงสัย เครื่องกรองน้ำมีอายุการใช้งานกี่ปี หากไม่เปลี่ยนไส้กรองจะเป็นไรไหม?

Featured Image

ความสำคัญของการดื่มน้ำที่สะอาด ห่างไกลสิ่งปนเปื้อนและสารอันตรายต่างๆ ถือเป็นเรื่องพื้นฐานที่จำเป็นต่อสุขภาพและการใช้ชีวิต หลายบ้านเลยมักพิถีพิถันในการเลือกเครื่องกรองน้ำเป็นอย่างมาก แต่คำถามที่หลายคนสงสัยเมื่อถึงคราวเลือกซื้อก็คือ เครื่องกรองน้ำมีอายุการใช้งานกี่ปี ต้องเปลี่ยนไส้กรองบ่อยแค่ไหน หรือหากเลือกไม่เปลี่ยนไส้กรองเลยจะเป็นอะไรหรือไม่ เตรียมอ่านคำอธิบายให้คลายข้อสงสัยกันในบทความนี้ได้เลย 

เครื่องกรองน้ำมีอายุการใช้งานกี่ปี?

สำหรับคนที่กำลังเลือกซื้อเครื่องกรองน้ำหรือที่บ้านมีเครื่องกรองน้ำเก่า มักมีคำถามขึ้นมาว่า เครื่องกรองน้ำใช้ได้กี่ปี? คำตอบคือโดยทั่วไปแล้วเครื่องกรองน้ำจะถูกออกแบบมาให้ใช้งานได้ยาวนานหลายปี ทั้งนี้อาจขึ้นอยู่สภาพน้ำและการใช้งาน รวมถึงชนิดของ ‘ไส้กรองน้ำ’ ที่เลือกใช้ ซึ่งควรมีการเปลี่ยนอย่างสม่ำเสมอ เพราะไส้กรองน้ำถือเป็นหนึ่งในตัวขับเคลื่อนที่ทำให้เครื่องกรองน้ำทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ เพื่อให้เราได้น้ำดื่มที่สะอาดและไม่มีสิ่งแปลกปลอมเจือปน 

ประเภทของไส้กรองน้ำ และระยะเวลาที่เหมาะสมในการเปลี่ยนไส้กรองน้ำ 

การเลือกเครื่องกรองน้ำที่มีคุณภาพและตอบโจทย์การใช้งานภายในบ้านของเรา นอกจากมาตรฐานของระบบตัวเครื่องแล้ว ไส้กรองน้ำก็เป็นส่วนสำคัญที่ต้องเลือกให้ดี ปัจจุบันมีไส้กรองน้ำหลากหลายแบบและมีคุณสมบัติที่แตกต่างกันไป ดังนี้

  • ไส้กรองน้ำ RO ดักกรองสิ่งสกปรกและสารละลายในน้ำแบบหลายขั้นตอน โดยน้ำที่ผ่านเข้าไส้กรองจะไหลจากด้านที่มีสารปนเปื้อนมากสู่ด้านที่มีสารปนเปื้อนน้อย
  • ไส้กรองน้ำคาร์บอน สามารถกรองกลิ่น สี คลอรีน สารพิษและโลหะหนักในน้ำบางชนิดได้ แต่ยังไม่สามารถกรองเชื้อไวรัสหรือแบคทีเรียได้
  • ไส้กรองน้ำ UV เป็นไส้กรองที่ฆ่าเชื้อโรคด้วยการปล่อยรังสีอัลตร้าไวโอเลตเข้าไปกำจัดปรสิต แบคทีเรีย ไวรัส และเชื้อราต่างๆ ไม่ให้เติบโตและแพร่พันธุ์ มักใช้เป็นส่วนเสริมในระบบกรองน้ำ เนื่องจากยังไม่สามารถดักกรองสิ่งสกปรกอย่างเศษฝุ่นหรือสารแขวนลอยได้
  • ไส้กรองน้ำ 3 ขั้นตอน เป็นไส้กรองน้ำพื้นฐาน  มีการกรองทั้งหมด 3 ขั้นตอน คือ กรองหยาบ กรองคาร์บอน และกรองกลิ่นสี สามารถดักกรองสิ่งสกปรก แบคทีเรีย สิ่งปนเปื้อนต่างๆ รวมถึงปรับกลิ่น สี รสชาติของน้ำให้เหมาะกับการใช้อุปโภคและบริโภค  
  • ไส้กรองน้ำ 5 ขั้นตอน พัฒนามาจากไส้กรอง 3 ขั้นตอนโดยเพิ่มการกรองด้วยรังสีอัลตราไวโอเลตและตัวกรองตะกอนที่ใหญ่ขึ้นสำหรับการกรองน้ำบาดาล 
  • ไส้กรองน้ำ Alkaline เป็นไส้กรองที่ใช้สารอัลคาไลน์ ช่วยปรับค่า pH ในน้ำให้เหมาะสมต่อการอุปโภคบริโภค สามารถดักจับฝุ่นละอองและโลหะหนักบางชนิด อีกทั้งยังช่วยปรับกลิ่นและรสชาติของน้ำได้
  • ไส้กรองน้ำเซรามิก เป็นไส้กรองที่ถอดออกมาทำความสะอาดได้ สามารถกรองเชื้อโรค แบคทีเรีย และสิ่งมีชีวิตขนาดเล็ก น้ำที่ออกมาจึงสะอาดและยังคงแร่ธาตุไว้ได้
  • ไส้กรองน้ำเมมเบรน เป็นไส้กรองที่สามารถดักกรองสิ่งสกปรก สารแขวนลอย แบคทีเรียต่างๆ ซึ่งในปัจจุบันมีการพัฒนาให้สามารถดักกรองไมโครพลาสติกในน้ำได้ ตรวจสอบได้จากเครื่องหมาย NSF 401 จึงเหมาะสำหรับใช้งานในตามบ้านเรือน เพื่ออุปโภค บริโภค รวมถึงในอุตสาหกรรม เพื่อใช้บำบัดน้ำเสียนั่นเอง
  • ไส้กรองน้ำ Carbon + UV เป็นไส้กรองที่ถือว่าสามารถกรองสิ่งสกปรกออกได้มีประสิทธิภาพมากที่สุด โดยสามารถกรองกลิ่น สี คลอรีน สารพิษและโลหะหนักบางชนิด พร้อมฆ่าเชื้อโรคในน้ำด้วยการปล่อยแสงอัลตร้าไวโอเลต ทำให้มั่นใจว่าได้น้ำที่สะอาด หมดกังวลเรื่องสิ่งสกปรกต่างๆ ที่มาปะปนมากับน้ำ

นอกจากเรื่องคุณสมบัติแล้ว อายุการใช้งานเฉลี่ยของไส้กรองน้ำจะอยู่ที่ประมาณ 6-12 เดือน ขึ้นอยู่กับความหนักเบาของการใช้งานแต่ละบ้าน ดังนั้นจึงควรหมั่นเปลี่ยนไส้กรองตามระยะเวลาที่เหมาะสม เพราะไส้กรองน้ำเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ช่วยถนอมให้เครื่องกรองน้ำใช้งานได้นานและมีประสิทธิภาพนั่นเอง

หากไม่เปลี่ยนไส้กรองน้ำเลย จะเป็นไรไหม?

ไส้กรองน้ำทำหน้าที่ในการดักกรองสิ่งสกปรกและสิ่งปนเปื้อนต่างๆ ออกจากน้ำ ไม่ว่าจะเป็นฝุ่นละออง เชื้อโรค แบคทีเรีย ฯลฯ ช่วยลดความกระด้างของน้ำ รวมถึงดูดซับกลิ่นสารเคมีและคลอรีน หากไม่เปลี่ยนไส้กรองตามระยะเวลาที่กำหนด หรือไม่เคยเปลี่ยนเลย นอกจากจะส่งผลต่อคุณภาพของน้ำที่ใช้ดื่มหรือนำไปประกอบอาหารแล้ว ไส้กรองอาจอุดตันและเป็นแหล่งสะสมของเชื้อโรค ส่งผลโดยตรงต่อประสิทธิภาพการกรองที่ลดลง ทำให้น้ำที่กรองออกมามีคุณภาพลดลง มีสิ่งเจือปน รวมถึงกลิ่นและรสชาติอาจเปลี่ยนไปด้วย ยิ่งไปกว่านั้น เครื่องกรองน้ำอาจทำงานหนักและมีอายุการใช้งานสั้นลงได้

ดังนั้น หากต้องการให้เครื่องกรองน้ำมีอายุการใช้งานที่ยาวนานและประสิทธิภาพดีอยู่เสมอ ควรให้ความสำคัญเรื่องไส้กรองน้ำ และการเปลี่ยนไส้กรองตามระยะเวลาที่กำหนดอย่างสม่ำเสมอ

เครื่องกรองน้ำ eSpring™ มาพร้อมชุดไส้กรองคาร์บอน e3 และเทคโนโลยี UV-C LED หมดห่วงเรื่องไมโครพลาสติกและสิ่งปนเปื้อน

อ่านมาถึงตรงนี้คงได้รู้จักและเห็นความสำคัญของไส้กรองน้ำกันแล้ว ว่าไส้กรองน้ำมีบทบาทที่สำคัญต่อเครื่องกรองน้ำมากแค่ไหน หากใครที่อยากมั่นใจว่าจะได้ดื่มน้ำที่สะอาด หมดกังวลเรื่องสิ่งปนเปื้อน และไม่ต้องนับว่าเครื่องกรองน้ำจะใช้งานได้กี่ปี ลองเลือกเครื่องกรองน้ำที่มีคุณภาพอย่างเครื่องกรองน้ำ eSpring™ ซึ่งมาพร้อมชุดไส้กรองคาร์บอน e3 เทคโนโลยีการกรองขั้นสูง 3 ชั้น ที่ได้การรับรองจาก NSF ถึง 4 มาตรฐาน** ให้ประสิทธิภาพในการลดสารปนเปื้อน 170+ ชนิด*,** ดักจับอนุภาคขนาดเล็กถึง 0.2 ไมครอน เช่น ไมโครพลาสติก แร่ใยหิน ซีสต์ และมีนวัตกรรมการฆ่าเชื้อด้วย UV-C LED สามารถฆ่าเชื้อโรค แบคทีเรีย ไวรัสได้ถึง 99.99%*,*** โดยที่ยังคงคุณค่าแร่ธาตุเช่น แคลเซียม แมกนีเซียม และฟลูออไรด์ ที่มีประโยชน์ต่อร่างกายไว้ได้ ที่สำคัญคือไส้กรองมีอายุการใช้งานกว่า 5,000 ลิตร**** หรือ 1 ปี หลอด UV-C LED ใช้งานได้นาน 10 ปีหรือ 500 ชั่วโมง ช่วยประหยัดพลังงานยิ่งขึ้นถึง 25% ลดขยะอิเล็กทรอนิกส์ที่ย่อยสลายยากและก่อให้เกิดไมโครพลาสติกทางอ้อมอีกด้วย  

ด้วยคุณสมบัติของไส้กรองและอายุการใช้งานที่ยาวนาน ซ้ำยังเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ช่วยลดการใช้ขวดพลาสติก ลดขยะอิเล็กทรอนิกส์และไม่ต้องทิ้งหลอด UV ทุกปีอีกต่อไป ยกให้เครื่องกรองน้ำอีสปริง eSpring™ เป็นตัวเลือกที่คุ้มค่าสำหรับเครื่องกรองน้ำคุณภาพ เหมาะที่จะเป็นอุปกรณ์คู่บ้านสำหรับการผลิตน้ำสะอาด ดีต่อสุขภาพในระยะยาวอย่างแน่นอน 

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube