ยังคงร้อนแรงต่อเนื่องจริง ๆ สำหรับราคาทองไทย ที่ยังคงยืนเหนือ 4 หมื่นบาท ต่อน้ำหนัก 1 บาททองคำ
ล่าสุด ราคาทองเปิดตลาดเช้าวันศุกร์ที่ 12 กรกฏาคม 2567 ราคาปรับขึ้นทันทีบาทละ 250 บาทและอีก 50 บาทในเช้าวันเสาร์ หลังราคาทองโลกปรับตัวขึ้นทะลุ 2,400 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อออนซ์อีกครั้ง โดยได้แรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ หรือ เฟด จะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 2 ครั้งในปีนี้
โดยจะปรับลดในเดือนกันยายน และเดือนธันวาคม หลังสหรัฐฯเปิดเผยตัวเลขเงินเฟ้อที่ต่ำกว่าคาดส่วนกองทุน SPDR ซื้อทองอีก 1.72 ตัน จากปัจจุบันถือครองที่ 835.09 ตัน โดยราคาทองตามประกาศของสมาคมค้าทองคำ ทองแท่งรับซื้อ 41,050 บาท ขายออก 41,150 บาท ทองรูปพรรณรับซื้อ 40,310.44 บาท ขายออก 41,650 บาท
ทั้งนี้ เมื่อดูสถิติภาพรวมราคาทองในห้วง 2 สัปดาห์แรกของเดือนกรกฏาคมราคาปรับขึ้นแล้ว 650 บาทต่อบาททองคำ และจากต้นปี 2567 จนถึงปัจจุบัน ราคาปรับขึ้น 7,500 บาท
ด้าน MTS GOLD วิเคราะห์ทิศทางราคาทองคําทางเทคนิคไว้อย่างสนใจ โดยระบุว่าราคาทองคําเข้าสู่แนวโน้มทิศทางขาขึ้น หลังจากที่ราคาทองคําสามารถยืนอยู่เหนือระดับ 2,365 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อออนซ์ ได้อย่างมั่นคง วิเคราะห์ได้ว่า ราคาทองคําเข้าสู่ขาขึ้นใหม่ในระยะยาวและมองว่ามีโอกาสแตะ 2,600 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อออนซ์ได้ในปีนี้
เช่นเดียวกับ นายกสมาคมค้าทองคำ “นายจิตติ ตั้งสิทธิ์ภักดี” ที่ให้ความเห็นกับสำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น.ว่า แนวโน้มราคาทองยังมีโอกาสปรับขึ้น จากการที่ธนาคารกลางสหรัฐลดดอกเบี้ยส่วนแนวโน้มครึ่งปีหลัง เชื่อว่าราคาทองจะสามารถทำนิวไฮได้อีก แต่อย่างไรก็ตามในภาพรวมราคาทองยังมีความผันผวน ดังนั้นนักลงทุนจะต้องลงทุนด้วยความระมัดระวัง
ขณะที่ ศูนย์วิจัยทองคำ เผย ผลสำรวจกลุ่มตัวอย่างที่เป็นผู้ประกอบกิจการค้าทองคำรายใหญ่ถึงมุมมอง และความคิดเห็น ที่มีต่อทิศทางและกรอบราคาทองคำในตลาดโลกและราคาทองคำแท่งในประเทศ ในเดือน กรกฎาคม 2567 โดยกลุ่มตัวอย่างเชื่อว่าราคาทองคำในตลาดโลก คาดว่าจะเคลื่อนไหวในกรอบ 2,228 – 2,450 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อออนซ์ โดยกรอบราคาต่ำสุดอยู่ระหว่าง 2,228 – 2,315 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อออนซ์ ส่วนกรอบราคาสูงสุดอยู่ระหว่าง 2,370 – 2,450 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อออนซ์
ส่วนราคาทองคำแท่งในประเทศความบริสุทธิ์ 96.5% คาดว่าจะเคลื่อนไหวในกรอบ 38,900 – 42,750 บาทต่อน้ำหนัก 1 บาททองคำ โดยกรอบราคาต่ำสุดกลุ่มตัวอย่างให้น้ำหนักระหว่าง 38,900 – 40,200 บาทขณะที่กรอบราคาสูงสุดอยู่ระหว่าง 41,000 – 42,750 บาท
สำหรับปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับราคาทองคำในเดือน กรกฎาคม มีด้วยกัน 3 ปัจจัย คือ1. นโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ ที่คาดว่า อาจเริ่มปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงในเดือนกันยายน 2. สถานการณ์ในตะวันออกกลาง และ 3. สถานการณ์เศรษฐกิจของจีน
ดังนั้น การลงทุนทองคำในเดือนกรกฎาคม ผู้ค้าทองคำรายใหญ่ให้ความเห็นว่าราคาทองคำยังคงเคลื่อนไหวในลักษณะ Sideway Up โดยแนะนำทยอยสะสมเมื่อราคาทองคำย่อตัวลง และแบ่งขายทำกำไรเมื่อราคาทองดีดตัวสูงขึ้นเพื่อลดความเสี่ยงของพอร์ตการลงทุน เนื่องจากราคาทองคำมีความผันผวนสูงและแกว่งตัวตามกระแสข่าวที่เป็นปัจจัยกระทบต่อราคาทองคำ ทั้งนี้ นักลงทุนจึงต้องระมัดระวังในการลงทุน และติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews