“ลูกหมี – ลิลลี่ – อ้อม” พร้อมทนายเปิดหลักฐานฟาดกลับ “ปู มัณฑนา” ลั่นออกมาพูดความจริง
เป็นมหากาพย์เจ้าหนี้ ลูกหนี้ ที่ยืดเยื้อ ต่างฝ่ายต่างออกมาชี้แจงในมุมของตัวเอง แบบชนิดที่เรียกว่าหนังคนละม้วน ล่าสุดทางฝั่งเจ้าหนี้ นำโดย “ลูกหมี รัศมี – ลิลลี่ เหงียน – อ้อม” พร้อมทนายกุ้ง แถลงข่าวเปิดใจหลังจบรายการคนดังนั่วเคลียร์ พร้อมหอบหลักฐานโต้กลับฝั่ง “ปู มัณฑนา” ลั่นเลิกโกหก ออกมาพูดความจริง และหากยังพาดพิงโดยไม่มีหลักฐาน จะเปิดแชทเด็ดที่อีกฝ่ายแอบอ้างบุคคลมีชื่อเสียงระดับประเทศ เชื่อสามีไม่รู้พฤติกรรมภรรยา อึ้ง! เจ้าหนี้โผล่อีกราย ทั้งยืม ทั้งชวนลงทุน
“ก่อนที่ออกมาแต่ละครั้งจะถูกพาดพิง วันนี้จะออกมาชี้แจงที่เขาบอกว่าตนปล่อยเงินกู้ ซึ่งไม่เป็นความจริงเลย ซึ่งในแชทได้บอกเขาว่าไม่ได้มีอาชีพปล่อยเงินกู้ เขาเข้ามามาหาอ้อมครั้งแรกเพื่อที่จะยืมเงิน และตนก็ให้ยืมเพราะเป็นเพื่อนฝูงกัน รู้จักกันเพราะเขามีความจำเป็นที่ต้องใช้เงินเราก็ช่วยเหลือไป และต่อมาเขาก็พยายามที่จะยืมเงินอีก บอกขัดสนอีก มีความจำเป็นต้องใช้เงิน เราก็ได้บอกไปว่าเราไม่ได้มีอาชีพปล่อยเงินกู้ เพราะที่ให้ไปในรอบแรกเพราะอยากช่วย และต่อมาเขาก็พยายามที่อยากจะยืมเงินเรื่อยๆ โดยอีกฝ่ายพูดถึงเรื่องการลงทุนทำธุรกิจกับเพื่อนและได้กำไรดีได้ปันผลดี ไม่กี่วันต่อมาก็ชักชวนร่วมลงทุนทำธุรกิจคอลลาเจนซึ่งอ้างว่ามีลูกค้าสั่งของเยอะขึ้น ทุกครั้งที่คุยกันจะเป็นในเรื่องของธุรกิจ ไม่ได้มีการปล่อยเงินกู้หรือปล่อยดอกตามที่อีกฝ่ายพูด จะเป็นการชวนลงทุนทำธุรกิจมากกว่า“
”แบ่งเป็นสองเคสคือในตอนแรกยืม อันที่สองเป็นการชวนลงทุนและครั้งแรกเขา เสนอให้เองเป็นดอกเบี้ย 3% แต่ต่อมามันไม่จบ เขาพยายามที่จะยืมเรื่อยๆ เขาเลยเริ่มเอาเรื่องธุรกิจมาคุย และสุดท้ายเราก็ได้ร่วมลงทุนกับเขาไป ยืนยันว่าไม่ใช่เรื่องดอกเบี้ยแต่เป็นการลงทุนทำคอลลาเจน มันคือปันผลตอบแทนที่เขาต้องให้ ซึ่งในแชทมีในรายละเอียดหมด ว่าถ้าลงทุนเท่านี้จะได้ปันผลเท่าไหร่ ตนมีหลักฐานทุกอย่าง“
”เขาไม่ใช่เด็กอายุสามขวบที่ใครจะบอกให้เซ็นอะไรก็เซ็นเขียนอะไรก็เขียน มันฟังไม่ขึ้น เขามีพฤติกรรมแบบนี้อยากให้คนที่กำลังติดตามข่าวเรื่องนี้รู้ถึงพฤติกรรมของเขา เขาจะชอบกล่าวอ้างบุคตลคนที่สอง ที่สาม พูดจาหวานล้อมเพื่อให้ได้เงินมา เขาอ้างถึงพี่สะใภ้เป็น CEO หลายบริษัท เดือดร้อนมีปัญหาเรื่องการเงิน แต่ก่อนที่จะชวนร่วมลงทุนเขาได้เคลียร์ในส่วนของการยืมไปหมดแล้ว“
”ที่ผ่านมามีการแอบอ้างชื่อบุคคลอื่นตลอด มั่นใจว่าพี่สะใภ้เขาคงไม่รู้เรื่องเพราะเขาบอกว่าเป็น CEO หลายบริษัท เชื่อว่าคงไม่ไม่ได้เดือดร้อนเรื่องการเงิน ในตอนแรกไม่เชื่อแต่ต้องยอมรับว่าเขาเป็นคนที่พูดจาน่าเชื่อถือ ยืนยันว่าคนที่พูดความจริง เขาจะเอาหลักฐานออกมาโชว์แต่เขาเคยเอาหลักฐานออกมาโชว์ไหม มีแต่น้ำตาที่ออกมา น้ำตาช่วยไม่ได้นะคะ มีแต่หลักฐานที่ออกมา เพราะฉะนั้นถ้าจะพูดพาดพิงต้องเอาหลักฐานออกมาโชว์ ตนได้แจ้งในข้อหาฉ้อโกงวันที่ 20 มิถุนายน เพราะธุรกิจธุรกิจที่อ้างมาตรวจสอบแล้วไม่มีอยู่จริง”
นอกจากนี้ทาง อ้อม ยังเผยว่า ถ้าหากอีกฝ่ายยังไม่ออกมาพูดความจริง หรือยังพูดพาดพิงในสิ่งที่ไม่จริง ตนจะนำแชทที่แอบอ้างบุคคลอื่น ที่เป็นผู้ใหญ่ระดับประเทศออกมาเปิดเผย เพราะฉะนั้นอยากให้ออกมาพูดความจริง ขอโทษ และใช้หนี้คืน เชื่อว่าสังคมจะให้อภัยหากสำนึกผิด พร้อมฝากถึงทนายคู่กรณี อย่าออกตัวเกินไป เพราะขนาดสามี ยังไม่ได้รู้ทุกการกระทำของภรรยา”
ขณะที่ “ลูกหมี รัศมี” ยืนยัน “ปู มัณฑนา” ยืมเงิน ไม่ได้ปล่อยเงินกู้ แต่อีกฝ่ายเสนอให้ผลตอบแทนเอง ยินดีออกรายการขอโทษหากจ่ายหนี้ให้ ถ้ารายการเชิญไปออก ยันคำเดิม จำนวนเงิน 2 ล้านที่อีกฝ่ายยืมไป ไม่ใช่ 1.4 ล้าน หากขอโทษต่อหน้าสื่อไม่พอ ตนก็ไม่รู้ว่าต้องทำยังไง จะต้องรำถวาย หรือเดินแบบไปขอโทษ โดยในวันที่ 16 กรกฏาคม จะเป็นการไกล่เกลี่ยรอบ 2 หากยังไม่ลงตัว ก็พร้อมเดินหน้าตามขั้นตอนต่อไป
ฟากของ “ลิลลี่ เหงียน” ยันเห็นกับตา เงินในบัญชี “ปู มัณฑนา” เหลือ 14 บาทจริง แต่ก็ยอมรับว่าอีกวันทาง ปู มัณฑนา ได้มีการโอนเงินมาคืนในส่วนของค่าอินเตอร์เน็ตลูก และค่าอาหาร และที่ผ่านมาอีกฝ่ายเคยเลี้ยงอาหาจริงตามที่กล่าวอ้าง แต่ก็เป็นการผลัดกัน และแชร์กัน ซึ่งหากอีกฝ่ายบอกว่าไม่ได้ถังแตก แต่เงินแค่ 70,000 บาทซึ่งถือว่าน้อยมากในส่วนนี้ ทำไมถึงไม่ยอมคืน พร้อมขอโทษหากพูดจารุนแรง เพราะตนไม่รู้เรื่องกฏหมาย แต่ก็พร้อมจะปรับปรุงตัวเอง
ส่วนกรณีที่ “เอิร์ก เลเดอร์เรอร์” ออกมาฟาดบอกว่าไม่ได้โกง และถามว่าเธอจะเอาเงินมาจากไหนหนักหนา ทาง “ลิลลี่ เหงียน” เผยว่า ตอนนี้เธอได้แจ้งความ และทางเจ้าหน้าที่มีหมายจับ หากอีกฝ่ายกลับไทยก็โดนรวบได้ทันที ส่วนที่บอกว่าตนมีเงินที่ไหน ก็ขอตอบชัดๆว่า สามีรวย และทาง เอิร์ก เลเดอร์เรอร์ ก็เคยคุยด้วย เพราะฉะนั้นถ้าแน่จริง ก็กลับมาไทย ยินดีต้อนรับ