ออกตัวเลยว่าไม่ใช่ เป็น “ทฤษฎีสมรู้ร่วมคิด” ของพรรคร่วมรัฐบาล ในการที่สภาโหวตผ่าน ร่าง พรบ.งบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมปี67 วงเงิน 1.22แสนล้านบาท ที่เสนอจาก ครม. เพื่อใช้ในโครงการเติมเงินหมื่นบาทผ่านดิจิทัลวอเล็ต ด้วยเสียง 297 เสียง ต่อ 164
เมื่อวาน(17ก.ค.) โดย “เสี่ยหนู-อนุทิน” ยังโต้ที่ ฝ่ายค้าน ก้าวไกลตั้งข้อสังเกตการเห็นชอบงบ67 เพิ่มเติม สำหรับโครงการดิจิทัล วอลเล็ต อาจขัดต่อกฎหมาย เพราะนำงบฯ ปี 67 มาใช้ในปี 68 ว่า เท่าที่ได้รับการชี้แจงมาทั้งในคณะกรรมการดิจิทัลฯ ใน ครม.จากทั้งกฤษฎีกา สภาพัฒน์ กระทรวงการคลัง ก็ยืนยันว่านี่เป็นหนทางที่ชอบด้วยกฎหมายไม่ขัดต่อกฎระเบียบใดๆ ส่วนที่ “นายจุรินทร์ ลักษณะวิศิษฎ์”จากประชาธิปัตย์ ตั้งข้อสังเกต “พรรคร่วมรัฐบาล” ยอมให้งบฯ ทุกอย่างไปอยู่ในโครงการดิจิทัล วอลเล็ต นั้น ไม่มีว่ายอมหรือไม่ยอม แต่เป็นการร่วมรัฐบาล นโยบายของพรรคร่วมรัฐบาล ถ้ามันเป็นประโยชน์กับประชาชน มันก็ต้องร่วมกันสนับสนุน ซึ่งก็มีหลักกติกาตรงนี้ ไม่งั้นจะเป็นพรรคร่วมรัฐบาลไม่ได้
ส่วนที่ “ไหม-ศิริกัญญา”ขู่ว่าการดำเนินโครงการนี้เสี่ยงผิดกฎหมายหลายข้อ การที่ไปร่วมโหวตจะเป็นการสมรู้ร่วมคิดทำผิดกฎหมายด้วยหรือไม่ การผ่านสภาถือว่าชอบด้วยกฎหมายทุกคนต้องมีความรับผิดชอบต่อกัน เป็นรัฐบาลผสมก็ต้องสนับสนุนซึ่งกันและกัน ถ้าขัดไปขัดมาก็เป็นรัฐบาลไม่ได้ส่วน ภูมิใจไทย สนับสนุนนโยบายเพื่อไทย เพื่อไทยก็ควรสนับสนุนทุกโครงการของ ภท.หรือไม่ ก็ควรจะเป็นเช่นนั้น
ในหลักการแล้วก็จะไปต่อที่เรื่องกัญชา ซึ่งเป็นเรื่องของกระทรวงสาธารณสุขยังไม่ใช่เรื่องของรัฐบาล เท่าที่ทราบก็มีการชี้แจง และจะได้ชี้แจงกับนายกฯ และ “นายภูมิธรรม ว่าพรรคภูมิใจไทยมีความไม่สบายใจตรงไหน โดยย้ำกับนายกไปว่า หากจะต้องเข้าไปร่วมประชุมในคณะกรรมการ ป.ป.ส. ก็ต้องมีการสงวนท่าทีหากจะเอากลับไปเป็นยาเสพติดด้วยข้อมูลที่มีเท่านี้ ก็จะโหวตไม่เห็นด้วย เพราะเป็นเรื่องที่ตัวเองเคยผลักดันนโยบายมาเรื่องกัญชาจึงไม่ใช่เรื่องของพรรคร่วมรัฐบาล แต่เป็นเรื่องของคนทำงาน
เรียกว่าฉากเมื่อวานในสภาซึ่ง “เสี่ยหนู”บอกว่า พรรคภท.แสดงให้เห็นแล้วจากเสียงที่โหวตผ่าน ร่างพรบ.งบเพิ่มเติมกรณีเงินดิจิทัลวอเล็ต ที่เกิดขึ้นหลังวัน งานเลี้ยงดินเนอร์ พรรคร่วมรัฐบาลที่โรงแรมปาร์คนายเลิศที่“พรรคพลังประชารัฐ”(พปชร.)เป็น “เจ้าภาพ”แม้จะไร้ซึ่ง“ลุงป้อม”กับ “บิ๊กป๊อด”แต่มี “ผู้กองนัส”ดูแล ที่ไม่เพียงช็อตทีเล่นทีจริง ประกาศบนเวทีแบบติดตลกว่า พปชร.เป็นเจ้าภาพขณะนี้เราได้ยึดพรรคเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
จนถูก “เสี่ยหูน” ตะโกนแซว ว่า ”พรรคประชาเพื่อไทย“ อันเป็นการ “แซวกลับ”จากที่ก่อนหน้า “ผู้กองนัส” ปูดกลางงานว่า “ที่เอาป้ายโลโก้ของแต่ละพรรคมาติดในงานทั้ง 11 พรรค แต่ตอนนี้ เรามีพรรคเล็กเข้ามาร่วมรัฐบาลแล้วทั้งที่หัวหน้าพรรคภูมิใจไทยดูแลอยู่ก็มีหลายพรรค แต่ พปชร.ก็ไม่อยากจะน้อยหน้า พรรค ภท.ก็เอามาดูแลหลายพรรคเหมือนกัน ซึ่งก็ 20 กว่าพรรคแล้วที่ร่วมรัฐบาลในตอนนี้”
ที่อย่าลืมว่าปม การนำ“กัญชา”กลับไปเป็นยาเสพติด ถูกมองเป็นความขัดแย้งที่ส่งผลกระทบต่อสเถียรภาพรัฐบาลระหว่าง เพื่อไทย กับ ภูมิใจไทย มาก่อนหน้า โดย ภท.ส่งสัญญาน “คอแข็ง”ชัดเจนตั้งแต่ “เสี่ยหนู”ยัน “รัฐมนตรี”และ “ลูกพรรค”ว่าไม่พอใจและจะยกมือสวน แถมบอกว่าเป็น “นโยบายเรือธง”ของพรรคเหมือนกันจนถูกมองส่งสัญญานถึงการโหวต “นโยบายเรือธง”ของ “เพื่อไทย” ยิ่งระยะหลัง “เสี่ยหนู”ถูกมองว่า “ฉายออร่า” มาตั้งแต่เกิด“ปรากฏการณ์สว.สีน้ำเงิน”หากจะเกิด “อุบัติเหตุการเมือง”กับ “นายกเศรษฐา”ในช่วงเดือนส.ค.ที่ “ศาลรัฐธรรมนูญ”ที่นัด “เศรษฐา”พิจารณาเพื่อกำหนดวันวินิจฉัยคดีถอดถอนนายกฯตั้งทนายถุงขนม วันที่ 24 ก.ค.อันเป็น วันเดียวกับที่“เศรษฐา”นัดแถลงความชัดเจน “ดิจิทัลวอเล็ต” ที่คิวนัดวินิจฉัยอาจต่อจากคดี “ยุบพรรคก้าวไกล”วันที่ 7ส.ค.ราวกลางเดือนส.ค.แม้หลายฝ่ายจะวิเคราะห์แนวโน้มเปอร์เซ็นต์รอดของ “เศรษฐา”จะมีมากกว่า “ก้าวไกล”
อย่างที่ “ตู่-จตุพร”วิเคราะห์ ว่า คดีของนายเศรษฐาที่ถูกศาล รธน.วินิจฉัยอยู่ขณะนี้ส่อรอดคดีมีมากอย่างถึงที่สุด และนำมาสู่การผลักดันอีกหลายโครงการออกมาที่ส่งผลกระทบกับประเทศ โดยมองด้วยว่า ในสถานการณ์ที่ประชาชนอดอยาก หิวโหยจากเศรษฐกิจตกต่ำ ซึ่งเกิดจากรัฐบาลแก้ปัญหาไม่ได้ ซึ่งช่วงเวลานี้ประชาชนย่อมคว้าเอาโอกาสที่จะทำให้หายหิวได้ โดยไม่ใส่ใจกับผลกระทบหนักหน่วงที่จะต้องเป็นหนี้ในอนาคต
ดังนั้น การแจกเงินหมื่นบาทไปซื้อสินค้ามูลค่าประมาณ 2,000-3,500 เพื่อมาประทังปากท้องครอบครัวได้หายอดอยากชั่วครั้งคราวจึงไม่ใส่ใจกับหายนะภัยของดิจิทัลที่จะทำให้ประเทศล่มจมได้
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews