นายกฯ โชว์วิสัยทัศน์ “Ignite Finance” ชี้ อุตสาหกรรมการเงินไทยแข็งแกร่งขึ้น พร้อมตั้งเป้าเป็นศูนย์กลางการลงทุน ดึงองค์ความรู้เข้าประเทศ ยกระดับคุณภาพคนไทย ถือเป็นการเปลี่ยนโครงสร้างทางเศรษฐกิจ โดยไม่ใช้เม็ดเงิน
นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี กล่าวภายหลังรับฟังวิสัยทัศน์ “Ignite Finance” จากนายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ว่า ตามที่ท่านรัฐมนตรีเสนอวิสัยทัศน์ไปเป็นการเปลี่ยนโครงสร้างอุตสาหกรรมของประเทศให้เติบโตจากภาคผลิตไปสู่ภาคบริการที่ มูลค่าเพิ่มสูงมากขึ้น อุตสาหกรรมการเงินของไทยในช่วงที่ผ่านมาถือว่ามีความแข็งแกร่งจากการเจริญเติบโตของเศรษฐกิจ จากภาคการผลิต การท่องเที่ยวภายในประเทศ
แต่ทั้งนี้การพึ่งพาเศรษฐกิจภายในประเทศเพียงอย่างเดียวไม่เพียงพอที่จะยกระดับโครงสร้างอุตสาหกรรมของไทยได้เร็วเพียงพอ การพึ่งพาต่างๆจำเป็นอย่างยิ่งที่จะจะต้องปรับอุตสาหกรรมใหม่ๆ ที่มีมูลค่าสูงขึ้นเข้ามาในประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เศรษฐกิจที่ใช้ความรู้ความสามารถมากยิ่งขึ้น และหนึ่งในอุตสาหกรรมนั้นก็คืออุตสาหกรรมทางการเงิน การลงทุน การธนาคาร
กลยุทธ์หลักที่ท่านรัฐมนตรีได้เสนอไปเมื่อสักครู่เป็นการเปิดรับเงินนอกเข้ามาในประเทศที่ที่ผ่านมาเราเห็นว่าประเทศเพื่อนบ้านของเราปรับแก้กฎหมายเป็นมิตรต่อการทำธุรกิจ ในหลายบริษัทไม่ได้เข้ามาอยู่ในประเทศเพื่อเข้ามาค้าขายแต่เป็นการเข้ามาเพื่ออาศัย ecosystem (สภาพแวดล้อม)ในการทำธุรกิจให้สามารถหาเจรจาพูดคุยทางการค้าการลงทุนได้สะดวกสบายมากยิ่งขึ้น
หลายคนอาจจะสงสัยว่าทำไม เพื่อนบ้านถึงทำได้ ทำไมที่ผ่านมานักลงทุนถึงไม่เลือกประเทศเรา การออกไปพูดคุยกับนักลงทุนในช่วงที่ผ่านมา ทำให้เราเข้าใจดีว่า หัวใจของการสร้างอุตสาหกรรมนี้คือการที่มีกฎหมายที่ชัดเจนสำหรับการดำเนินธุรกิจ การบังคับใช้กฎหมายที่เด็ดขาดเฉียบขาดและเป็นธรรม และมั่นใจการมีสิ่งความสะดวกในเมืองไทยเป็นลำดับเวิลด์คลาสทั้งสิ้น
ทั้ง สนามบินโรงแรม ที่พัก ร้านอาหาร โรงพยาบาลสถานที่พักผ่อนหย่อนใจต่างๆ ความเป็นมิตรของพี่น้องประชาชนคนไทยทุกคน ตัวกฎหมายที่ท่านรัฐมนตรีได้เล่าไปก่อนหน้านี้ ทั้งการตั้ง one stop service การมีสิทธิประโยชน์และความชัดเจนใน บริหารเงินทุนจะเป็นหัวใจสำคัญที่ทำให้ประเทศไทยเติบโตเป็น finance frontiers ของภูมิภาคได้
แต่ขณะเดียวกันการผลักดันอินโนเวชั่นใหม่ใหม่ในระบบการเงินไม่ว่าจะเป็น การค้ำประกันสินเชื่อ นำไปสู่การสร้างการลงทุนการหาเงินเลี้ยงครอบครัวยกระดับชีวิตของประชาชนคนไทยทุกคน หากเรามองทั้งระบบ ไม่ได้มีเพียงแค่ธนาคารและการลงทุน หลักทรัพย์ ยังมีภาคบริการที่เป็น Professional Perfect อีกหลายหลายสาขาที่เติบโตไปด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นที่ปรึกษากลยุทธ์ ที่ปรึกษากฎหมาย ที่ปรึกษาการลงทุน กลยุทธ์ เป็นต้น และเชื่อว่าเราจะสามารถเติบโตไปด้วยกันได้ ไปยังตลาดโลกผ่านองค์ความรู้ความสามารถและเครือข่ายของบริษัทต่างๆด้วย
สุดท้ายนี้การเป็นศูนย์กลางทางด้านการเงินไม่ใช่การสร้างประโยชน์ให้กับธนาคาร หรือสถาบันทางการเงินเป็นอย่างเดียว แต่หมายถึงประเทศไทยจะดึงดูดองค์ความรู้ ดึงคนมรความสามารถเข้ามาในประเทศสร้างประโยชน์ให้กับประเทศ ถือว่านโยบายนี้เป็นนโยบายเป็นโครงสร้างทางเศรษฐกิจ โดยไม่ต้องใช้งบประมาณ การลงทุน และมีผลตอบแทนมหาศาล คุ้มค่าอย่างยิ่งต่อการที่เราจะต้องเดินไปด้วยกัน
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews