3 รัฐมนตรีคลัง ร่วมแถลงโครงการดิจิทัลวอลเลต เปิดลงทะเบียน 1 ส.ค.-15 ก.ย. นี้ ครอบคลุม 50 ล้านคน กำหนดเงื่อนไขอายุ 16 ปีขึ้นไป รายได้ไม่เกิน 840,000 บาท/ปี โดย ยืนยัน เริ่มใช้จ่ายได้ในไตรมาส 4 นี้
นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง พร้อมด้วยนายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ และนายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ร่วมแถลงข่าวโครงการดิจิทัลวอตเลต ครั้งที่ 1
โดยนายพิชัย ได้กล่าวถึงภาพรวมโครงการ ว่า เมื่อ 10 เดือนที่แล้ว เมื่อวันที่ 11 ก.ย.66 รัฐบาลได้แถลงนโยบายต่อรัฐสภา พร้อมให้เหตุผลถึงความจำเป็นว่าทำไมถึงต้องทำโครงการดิจิทัลวอลเล็ตเนื่องด้วยภาวะเศรษฐกิจที่ตกต่ำมายาวนานมากกว่า 15 ปี หนี้ครัวเรือนสูง มีหนี้สาธารณะเกิดขึ้นมากกว่า 90% ของจีดีพี จึงต้องคิดหาวิธีขับเคลื่อนเศรษฐกิจ
โดยการตั้งโจทย์ไม่ใช่การอุดหนุนแต่เป็นโครงการที่จะกระตุ้นเศรษฐกิจในระยะสั้น น่าจะมีผลในการสร้างความเชื่อมั่น ทั้งผู้ผลิตและผู้บริโภค ไม่ใช่การเติมลงไปครั้งเดียว ทำกลุ่มเป้าหมาย 50 ล้านคน 178 อำเภอ ประมาณการผู้ใช้สิทธิ์ 45 ล้าน คนคือ 90% ของโครงการ ซึ่งจะสามารถสร้างพายุหมุนทางเศรษฐกิจได้ถึง 4 ลูก คือ
1. ระหว่างประชาชนกับร้านค้าขนาดเล็ก 2. ระหว่างร้านค้าเล็กกับร้านค้าขนาดใหญ่ 3. ระหว่างร้านค้าขนาดใหญ่กับร้านค้าขนาดใหญ่ 4. เกิดการซื้อขายที่โปร่งใส เกิดการกระตุ้นเศรษฐกิจด้วยประชาชนเองทั่วประเทศ ด้วยระบบฐานข้อมูล blockchain เพื่อติดตาม หลักฐานการทำทุรกรรม ตรวจสอบได้ว่าใครซื้อขายกับใคร
นานพิชัย กล่าวว่า กับคำถามที่ว่าการใช้เงินก้อนใหญ่รัฐบาลไม่กลัวหรือ ยอมรับว่า โครงนี้ จะก่อให้เกิดการก่อหนี้ แต่จะชดใช้ด้วยการเก็บภาษี จะทำให้การเก็บภาษีเพิ่มขึ้น ไม่ใช่การจ่ายเงินธรรมดาแต่เป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจทั้งระบบ
ขณะที่นายจุลพันธ์ กล่าวถึงแหล่งเงินการดำเนินการโครงการณ์จำนวนทั้งหมด 450,000 ล้านบาท ซึ่งมาจากงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมประจำปี 2567 และการบริหารทางการคลัง และการบริหารจัดการงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2567 จำนวน 165,000 ล้านบาท
ส่วนงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมประจำปี 2568 การบริหารการคลังและการบริหารจัดการงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2567 จำนวน 285,000 ล้านบาท
โดยคุณสมบัติของประชาชนที่จะเข้าร่วมโครงการต้องมีชื่อที่อยู่ในทะเบียนบ้าน สัญชาติไทย อายุ 16 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป ณ วันที่ปิดรับลงทะเบียนคือวันที่ 15 ก.ย.67 มีรายได้ไม่เกิน 840,000 บาท/ปี
ส่วนประชาชนที่ไม่มีสมาร์ทโฟน ลงทะเบียนได้ 16 ก.ย.-15 ต.ค.67 ใช้จ่ายได้ผ่านบัตรประชาชน ส่วนร้านค้าลงทะเบียน 1 ต.ค. เป็นต้นไป และจะสามารถใช้จ่ายได้ภายในไตรมาสที่ 4
โดยประชาชนที่จะใช้จ่ายต้องอยู่ในเขตอำเภอเดียวกัน ส่วนร้านค้าสามารถซื้อขายกันได้โดยไม่ได้กำหนดขอบเขต โดยยกเว้น สินค้า Negative list อาทิ สลากกินแบ่งรัฐบาล, เครื่องดื่มแอลกอฮอล์, ผลิตภัณฑ์ยาสูบ กัญชา กระท่อม, บัตรกำนัล, บัตรเงินสด, ทองคำ, เพชร, พลอย, อัญมณี,
น้ำมันเชื้อเพลิงก๊าซธรรมชาติ, เครื่องใช้ไฟฟ้า, อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ และเครื่องมือสื่อสาร ซึ่งกระทรวงพาณิชย์อาจพิจารณาสินค้าใน หมวด Negative list อีกครั้ง ซึ่งในสินค้าเหล่านี้ไม่รวมค่าบริการ
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews