หลังเกิดประเด็น “วัน อยู่บำรุง” ไปให้กำลังใจ “บิ๊กแจ๊ส” ในวันพ่ายศึกเลือกตั้งนายกอบจ.ปทุมธานี ถูก “อุ๊งอิ๊ง-แพทองธาร ชินวัตร” ผู้นำเพื่อไทย ตำหนิ และ ตามมาด้วยการลาออกจากตำแหน่งทางการเมือง ลาออกจากพรรคเพื่อไทย ประหนึ่งเป็นการแตกหัก ขั้นสูงสุดระหว่าง เพื่อไทย กับ “อยู่บำรุง” และ “ร.ต.อ.เฉลิม” ก็ท้าทายให้
พรรคขับออก แต่เรื่องก็นิ่งเงียบมาร่วม 1 เดือน แกนนำรุ่นใหญ่น้ำท่วมปาก แต่หลังการเปิดตัวเข้าสังกัดพลังประชารัฐ “พรรคลุงป้อม-พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ” ของ “วัน อยู่บำรุง” ตามที่มีภาพการดีลกันของ ทั้ง “ร.ต.อ.เฉลิม และ พล.อ.ประวิตร” ที่บ้านป่ารอยต่อฯ คุณพ่อเฉลิม ก็เล่นใหญ่แถลงเปิดใจย้อนความหลังประกาศตัดขาด “ทักษิณ ชินวัตร”ท้าทายให้เพื่อไทยขับออกเร็วๆ จน “อุ๊งอิ๊ง” ต้องดีดออกจากลุ่มไลน์ สส.เพื่อไทย ส่วนหลังจากนี้ จะขับออกหรือไม่ ยังต้องรอดูท่าทีและความชัดเจนในการประชุมส.ส.ของ
พรรคอีกครั้งในสัปดาห์หน้า เพราะการขับ ส.ส.ออกจากพรรค มีขั้นตอน ตามข้อบังคับพรรค ต้องใช้มติ 3 ใน 4 ของที่ประชุมสส.และกรรมการบริหารพรรค จึงจะทำได้ และมีผลได้ ผลเสีย ที่แตกต่างกันออกไป แน่นอนว่า ทั้ง “ร.ต.อ.เฉลิม” และเพื่อไทย ล้วนได้รับแต่ผลเสียเท่านั้น แต่หากนายใหญ่ และลูกสาวคนเล็ก ซึ่งเป็นผู้นำพรรคพยักหน้าทุกอย่างก็ง่ายดาย
ในอดีตพรรคเพื่อไทยใช้มติ 3 ใน 4 ของ สส.และกรรมการบริหารพรรค ขับสส.มาแล้ว 2 คน คือ “พรพิมล ธรรมสาร” กับ “ศรัณย์วุฒิ ศรัณย์เกตุ” ซึ่งครั้งนั้น 3
ใน 4 ของ ส.ส. และกรรมการบริหารพรรคคือ 108 เสียง แต่ทั้ง 2 ส.ส.ถูกขับด้วยมติ 134 และ 131 เสียง ตามลำดับ ส่วนครั้งนี้ หากจะขับ “ร.ต.อ.เฉลิม” ซึ่งเป็น สส.บัญชีรายชื่อ ออกจากพรรค มติ 3 ใน 4 จะต้องใช้อย่างน้อย 123 เสียง และเมื่อขับแล้ว สส.ต้องหาพรรคสังกัดใหม่ภายใน 30 วัน นับแต่วันที่พรรคมีมติ มาตรัฐธรรมนูญ มาตรา 101 (10) หากหาพรรคใหม่ไม่ได้ จะสิ้นสุดความเป็น สส. แต่ดูจากท่าทีของ “ร.ต.อ.เฉลิม” และการเปิดตัวของ “วัน อยู่บำรุง” แล้ว คงไม่ใช่เรื่องยากในการหาพรรคใหม่ เพราะพลัง
ประชารัฐพร้อมรับอยู่แล้ว ขึ้นอยู่กับพรรคเพื่อไทยมากกว่า ว่าจะกล้าขับออกหรือไม่ ส่วนใครที่สงสัยว่า สส.บัญชีรายชื่อ เมื่อถูกขับ จะต้องพ้นจากการเป็น ส.ส.ทันทีหรือไม่นั้น ก็เคยมีตัวอย่างของ “ไพบูลย์ นิติตะวัน” ที่ยื่นยุบพรรคตัวเอง และไปสังกัดพลังประชารัฐ เพื่อรักษาสถานะความเป็น สส.มาแล้ว หรือรวมถึง กรณีของพลังประชารัฐ ที่ขับ 19 สส.ของพลุ่ม “ผู้กองธรรมนัส พรหมเผ่า” ซึ่งในจำนวนนั้น ก็มี สส.บัญชีรายชื่อรวมอยู่ด้วย และสามารถสังกัดพรรคใหม่ เพื่อคงความเป็น สส.เอาไว้ได้เหมือนเดิม
ดังนั้นกรณีของ “ร.ต.อ.เฉลิม” หากไม่ลาออกจากพรรคเอง ก็ยังสามารถเป็นส.ส.ต่อได้จนครบเทอมแน่นอน ไม่ว่าจะถูกพรรคเพื่อไทยขับออกหรือไม่ แต่ในทางกลับกันหากเพื่อไทย จะแก้เผ็ดในข้อหาสร้างความแตกแยกในพรรคขังไว้แบบนี้ต่อไปก็ได้เช่นกัน ซึ่งก็จะเป็นผลเสียกับทั้ง 2 ฝ่าย ขึ้นอยู่กับผู้มีอำนาจตัวจริงของพรรค ว่าจะตัดสินใจแบบใด “อุ๊งอิ๊ง” ในฐานะหัวหน้า พรรค จะกล้าขับออกหรือไม่
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews