วันนี้ที่สํานักงานทนายรัชพล ศิริสาคร หญิงสาวผู้เสียหายเดินทางเข้าร้องทุกข์ขอความช่วยเหลือกรณีถูกตํารวจนํากําลังเจ้าหน้าที่ประมาณ 30-40 นาย บุกจับกลางวงไพ่ ย่านลาดกระบังพร้อมให้โอนเงินจํานวน 800,000 บาท อ้างลูกสาวเจ้าของบ้านแจ้งความว่าแม่ถูกกลุ่มผู้เสียหาย “ฉ้อโกง” กว่า 10 ล้านบาท
โดยผู้เสียหาย เล่าว่า เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 10 มิถุนายนที่ผ่านมา ตนได้เข้าไปเล่นการพนันไพ่ป๊อกเด้งที่บ้านหลังดังกล่าว โดยรู้จักกับเจ้าของบ้านมาสักพักใหญ่ ซึ่งก่อนที่ตํารวจจะบุกเข้ามาจับกุม ตนสังเกตเห็นมีผ้าสีนํ้าเงินยันไว้อยู่ที่ประตูบ้าน
ซึ่งเป็นระบบอัตโนมัติ จากนั้นเห็นเจ้าหน้าที่ตํารวจจึงรีบเดินเข้ามาบอกเพื่อนที่เล่นการพนันอยู่ในบ้าน จากนั้นเมื่อตํารวจเข้ามาได้สั่งให้วางกระเป๋าพร้อมเงินทั้งหมดไว้กองกลางรวมประมาณ 200,000 บาท และนําซองมาใส่โทรศัพท์มือถือ จากนั้นมีการมารื้อตรวจค้นภายในรถบอกว่าหาของผิดกฎหมาย
ซึ่งหลังจากนั้นตํารวจได้นําตนพร้อมกับเพื่อนรวม 7 คน ไปยัง สน.ลาดกระบัง แต่เจ้าของบ้านที่เล่นด้วยไม่ถูกจับ รวมถึงลูกสาวเจ้าของบ้านและลูกเขยก็ไม่ถูกจับ ทั้งที่ 1 ใน 7 คนที่ถูกจับนั้นมีอยู่ 1 คน ไม่ได้เล่นการพนันแต่ก็ถูกตํารวจจับตัวมา
เมื่อมาถึง สน.ลาดกระบัง ตํารวจได้ให้กระดาษเพื่อเซ็นต์ยินยอมให้มีการตรวจค้นโทรศัพท์มือถือ ซึ่งตำรวจได้ให้แต่ละคนโอนเงินให้เจ้าของบ้านตามจํานวนเงินแต่ละคนที่ไม่เท่ากัน ซึ่งตนถูกโอนไปหมดบัญชีจํานวน 800,000 บาท ส่วนที่เหลืออยู่ที่ 17,000 – 500,000 บาท รวมเงินของกลางก่อนหน้านี้อีก 200,00 บาท รวมเป็นเงินกว่า 2,000,000 บาท
โดยตำรวจอ้างว่าเป็นการโอนเงินให้เจ้าของบ้านเนื่องจาก ลูกสาวของเจ้าของบ้านได้มีการมาแจ้งความไว้ล่วงหน้าแล้ว ให้ดำเนินคดีกับตนและเพื่อนรวม 7 คน ในข้อหา “ฉ้อโกง” เพราะลูกสาวของเจ้าของบ้านเชื่อว่าทุกคนรวมหัวกันฉ้อโกงแม่ของตัวเองที่เป็นเจ้าของบ้าน ซึ่งผู้เสียหายทุกคนที่อยู่ในอาการหวาดกลัว และกังวลว่าจะถูกดำเนินคดีเพิ่มเติมเนื่องจากถูกตำรวจข่มขู่ว่าจะแจ้งข้อหาเพิ่มหากไม่โอนเงิน ทําให้ทุกคนตัดสินใจยอมโอนเงินไปให้เจ้าของบ้าน
นอกจากนี้ผู้เสียหายยังบอกอีกว่า มีหลายอย่างที่เคลือบแคลงใจ เพราะตนเคยได้ยินตำรวจใน สน. ลาดกระบัง พูดว่าเจ้าของบ้านเป็นญาติกับสารวัตร รวมถึงวันที่ตํารวจบุกจับกุมนั้นเพื่อนที่ถูกจับบอกว่ามีตํารวจประมาณ 30-40 นาย ส่วนจะจริงหรือไม่อย่างไรไม่ขอยืนยัน
อีกทั้งในบันทึกการจับกุมกลับลงของกลางไว้เพียง ไพ่ 1 สํารับ และ เงินของกลางเพียง 700 บาท แต่อย่างไรก็ตามตนต้องการเงินคืนทั้งหมด หากมีการโอนกลับมาและขอไกล่เกลี่ย ขอให้เป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมาย เพราะเรื่องที่เกิดขึ้นทําให้ตนต้องติดคุก 1 วัน
ด้านทนายรัชพล ระบุว่า หลังจากนี้จะพาผู้เสียหายไปร้องขอความช่วยเหลือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พร้อมทั้งอาจจะประสานไปยัง พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) ให้เข้าตรวจสอบเรื่องนี้ ซึ่งแล้วตนเชื่อว่าข้อมูลที่ผู้เสียหายกล่าวมานั้นเป็นความจริง เพราะมีหลักฐานสลิปการโอนเงินในช่วงเวลาที่ถูกจับกุมจริง
ขณะที่ พล.ต.ต.เกียรติกุล สนธิเณร ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 3 (ผบก.น.3) เปิดเผยผ่านทางโทรศัพท์มือถือว่า ตนยังไม่ได้รับรายงานเรื่องดังกล่าว ซึ่งหลังจากนี้จะไปดําเนินการสืบสวน หากพบว่ามีมูลก็จะตั้งคณะกรรมการสอบสวนและพิจารณาให้ออกจากราชการ โดยยืนยันว่าไม่ให้ความช่วยเหลือกับตำรวจนายใดที่ไปเรียกรับสินบนอย่างแน่นอน
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews
