Home
|
ข่าว

สว.พันธุ์ใหม่ฉะงบดิจิทัลเป็นพายุหมุนศก.ล่ม

Featured Image

 

 

 

ส.ว. พันธุ์ใหม่ ฉะงบดิจิทัล วอลเล็ต เป็นพายุหมุนเศรษฐกิจล่ม หวั่นร้านของเจ้าสัว กินรวบ “เทวฤทธิ์” แซะรัฐบาลพรรคเพื่อไทย น่านับถือเร่งดันแต่นโยบายเรือธง ถามพรรคร่วมยอมแบกรับหนี้ ไม่สนใจสวัสดิประชาชน ตามที่หาเสียง

 

 

 

 

การประชุมวุฒิสภาวาระการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2567 เพิ่มเติม กรอบวงเงิน 122,000 ล้านบาท ที่มี นายมงคล สุระสัจจะ ประธานวุฒิสภาเป็นประธานในที่ประชุม

 

โดยนายนรเศรษฐ์ ปรัชญากร สมาชิกวุฒิสภา กทม. กลุ่มผู้ประกอบการกลางและรายย่อย อภิปราย ว่า นโยบายดิจิตอลวอลเล็ต ของรัฐบาล ที่ตั้งใจจะทำให้เกิดพายุหมุนทางเศรษฐกิจ และทำให้จีดีพี โตขึ้น 1.8% แต่ตนขอตั้งข้อสังเกต ว่า เงื่อนไขบางอย่าง เป้าหมายของรัฐบาล อาจจะไม่เกิดขึ้นจริง เรื่องแรก การที่รัฐบาลพยายามอัดเม็ดเงิน 5 แสนล้านบาท

 

เพื่อให้เกิดพายุหมุน 4 ลูกตามที่ตั้งใจ จะเกิดเกิดขึ้นจริงได้หรือไม่ เพราะจากขั้นตอน ของการใช้เงินพบว่า อายุขัยของเงินดิจิทัล ใช้ได้แค่ 2 รอบ เมื่อไหร่ที่ร้านค้าสามารถถอนเงินจากดิจิทัล ลอลเล็ตได้ วงจรก็จะจบทันที จึงไม่ได้เป็นภาระหมุน 4-5 รอบอย่างที่รัฐบาลพูด

 

และเงื่อนไขการเข้าร่วมโครงการของร้านค้ารายย่อย เป็นไปได้หรือไม่ ที่ส่งเสริมให้อนุโลมยื่นภาษีภายหลัง ถ้าใช้คำจำกัดความว่า ร้านค้าขนาดเล็ก อาจจะเปิด โอกาส ร้านทุนใหญ่ ของเจ้าสัวเข้ามาดูดเงินออกจากระบบได้ตั้งแต่รอบแรก

 

ส่วนอีกประเด็นที่นำให้ไม่สามารถไปสู่เป้าหมายได้ เพราะการไม่สามารถถอนเงินในรอบแรกได้ ทำให้ร้านทั่วไป และร้านรายย่อยไม่เข้าร่วมโครงการตั้งแต่แรก ถือเป็นการกีดกันร้านค้ารายย่อยทั้งหมดออกจากนโยบาย ซึ่งจะเหลือร้านเป็นทางเลือกให้กับผู้ใช้สิทธิ์ แค่ ร้านที่เป็นของเจ้าสัวหรือนายทุนใหญ่เท่านั้น ตนจึงขอเสนอแนะให้ อะลุ่มอล่วยภาษีกับร้านค้ารายย่อยให้สามารถจัดเก็บภาษีย้อนหลังได้

 

รวมถึง ทำให้ร้านค้ารายย่อยสามารถถอนเงินออกได้ตั้งแต่รอบแรก และ ควรตั้งคุณสมบัติร้านสะดวกซื้อขนาดเล็กที่เข้าร่วมโครงการ เพื่อไม่ให้เงินของคนตัวเล็กตัวน้อยเข้าไปอยู่ในกระเป๋าเจ้าสัว

 

ด้านนายเทวฤทธิ์ มณีฉาย สว. กลุ่มสื่อสารมวลชน จ.สมุทรสงคราม อภิปรายร่าง พ.ร.บ.งบประมาณ 67 เพิ่มเติม เพื่อนำมาใช้ในโครงการดิจิทัลวอลเล็ต โดยบอกว่าไม่สามารถที่จะรองบประมาณปี 68 ได้ จึงมีคำถามว่า รอไม่ได้จริงหรือเปล่า หรือไม่ยอมบรรจุไว้ในงบประมาณปี 67 พร้อมยังมีการตั้งคำถาม ถึงความจำเป็นเร่งด่วนเนื่องจากได้มีการสร้างนโยบายนี้มาช่วงปลายปี 65

 

ซึ่งโจทย์ทางเศรษฐกิจเป็นโจทย์เดียวกันกับตอนนี้หรือไม่ รวมไปถึงการแถลงนโยบายของรัฐบาล และการหาเสียงสัญญาประชาคม และยังมีหลักฐานจากพรรคเพื่อไทยที่มีการยื่นต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ที่มีการเขียนอย่างชัดเจนว่าเงินกู้เพื่อชดเชยการขาดดุลงบประมาณ 1.12 แสนล้านบาท

 

จึงมีความสงสัยว่านโยบายนี้เป็นสัญญาประชาคมสามารถที่จะผิดพลาด สามารถที่จะไม่ทำได้จริงหรือไม่ หรือเป็นคนละฉบับ ซึ่งตนเองนับถือความมุ่งมั่นในการส่งมอบนโยบายของพรรคเพื่อไทยซึ่งถือเป็นข้อดี ของพรรคเพื่อไทย พรรคไทยรักไทยและพรรคพลังประชาชน

 

นายเทวฤทธิ์ กล่าวอีกว่า ด้วยความมุ่งมั่นในการผลักดันนโยบายนี้ เป็นเรื่องที่น่านับถือแต่ว่าการพยายามทุ่มเทสรรพกำลัง รวมถึงการดึงทรัพยากรทั้งเงินในอนาคตและเงินในปัจจุบัน ซึ่งมันมีต้นทุน ค่าเสียโอกาสที่แปลว่าเราอาจจะไม่ได้ทำอีกสิ่งหนึ่ง เนื่องจากทรัพยากรไม่เพียงพอ อีกทั้งเรายังมีงบประมาณและเพดานกู้หนี้ที่จำกัด

 

”อย่างเรื่องสวัสดิการผู้สูงอายุช่วง 1 ปีที่แล้ว หรือรัฐบาลที่แล้วกระทรวงมหาดไทย ปรับลดเบี้ยผู้สูงอายุ ยังเห็นพรรคการเมืองทุกพรรคออกมากระหน่ำวิพากษ์วิจารณ์ แต่ในช่วงการหาเสียง ที่จะเรียกว่า เป็นสัญญาประชาคมก็ได้แตกต่างกันเพียงแค่บางพรรคให้มาก 3,000 บาทบางพรรคน้อยหน่อย 1,000 บาท อย่างเช่น พรรคภูมิใจไทย มีนโยบายจัดตั้งกองทุนประกันชีวิตสำหรับผู้ที่มีอายุ 60ปีขึ้นไป

 

ซึ่งนโยบายนี้เรียกว่าสัญญาประชาคมไม่ได้มาลอยๆ แต่เป็นนโยบายที่มีการเรียกร้องและเคลื่อนไหวกันมาอย่างยาวนาน มีภาคประชาชนยื่นแล้ว ยื่นต่อ ยื่นอีก โดยเรียกร้องให้รัฐบาลผลักดันบำนาญแห่งชาติ แต่รัฐบาลที่แล้วก็มีการปัดตกไปเนื่องจาก ถูกตีความว่าเป็นกฎหมายที่เกี่ยวกับการเงินต้องรออำนาจนายกรัฐมนตรีในการเซ็นและรัฐบาลชุดนี้ก็เช่นกัน“

 

นายเทวฤทธิ์ ระบุอีกว่า หากตนเป็นพรรคร่วมรัฐบาลแล้วรู้สึกว่าเราทุ่มเราแบกภาระเหมือนกันในการผลักดันนโยบายดิจิทัล Wallet แต่ในนโยบายอื่นๆที่เป็นฉันทามติ พรรคพลังประชารัฐพรรคเพื่อไทย พรรคภูมิใจไทย พรรครวมไทยสร้างชาติ และพรรคประชาชาติ ที่เป็นพรรคร่วมรัฐบาล แต่ไม่ผลักดันนโยบายนี้ไปด้วยกัน ถ้าต้องแบกรับการกู้ ด้วยกันยอมให้นโยบายเรือธงของพรรคเพื่อไทย

 

จึงถามว่าทำไมพรรคร่วมรัฐบาลปล่อยและแบกรับ นโยบายของพรรคเดียว ทั้งที่พรรครวมก็มีนโยบายเหมือนกัน โดยมีภาคประชาชนขับเคลื่อนมาเหมือนกัน ทำไมถึงไม่ทำตามสัญญาประชาคมเพื่อผู้สูงอายุใช้ชีวิตอย่างมีสวัสดิภาพ

 

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube