น่าสนใจ กับ “ภาพตัดแทรก” ที่เกิดขึ้นในงานพระราชทานเพลิงศพ “คุณแม่” ของ “นายกฯเศรษฐา”เมื่อวาน (6ส.ค.) ก่อนถึง “วันดีเดย์” ชี้ชะตากรรม “ยุบพรรคก้าวไกล”
วันนี้ (7ส.ค.)ถูกมองหลายมิติทั้งเชิงสะท้อนสัจธรรม แต่ทางหนึ่ง ถูกมองว่า ส่งผล สั่นกระเพื่อมทางการเมืองโดยเฉพาะในปีก “ฝ่ายอนุรักษนิยม” หรือเหล่าบรรดาผู้คนที่เคยอยู่ร่วมในขบวนการ“ม็อบพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย” (พธม.) หรือ “ม็อบเสื้อเหลือง” และ “ม็อบกปปส.”ของ “ลุงกำนัน” โดยม็อบ พธม.เคยออกมาชุมนุมขับไล่ “รัฐบาลทักษิณ”
เมื่อปี 2548กระทั่งเกิดการรัฐประหาร19ก.ย.2549 โดย “บิ๊กบัง” และมีการตั้งรัฐบาล “ขิงแก่”ที่มี “พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์” เป็นนายกฯ ส่วน “ม็อบลุงกำนัน” เคยออกมาไล่ “รัฐบาลยิ่งลักษณ์” “น้องสาวทักษิณ” กระทั่งถูก พี่น้อง3ป. “ป้อม-ป๊อก-ประยุทธ์” ทำการรัฐประหารยึดอำนาจ 22พ.ค.2557 และต่อมา “ลุงตู่” มาเป็นนายกฯคนที่29 เต็มแม็กใน 2เวอร์ชัน 8-9ปี
จนกระทั่งมีการเลือกตั้งปี2566 แม้ “พรรคเด็กก้าวไกล-พิธา” ชนะเลือกตั้งแต่แพ้เกมการเมืองได้เป็นแค่ “รัฐบาลและนายกทิพย์” ประชาชนได้ “รัฐบาลเพื่อไทย” ที่มี “เศรษฐา” เป็นนายกฯคนที่30ที่สัปดาห์หน้า14ส.ค.ก็มีคิวต่อจากก้าวไกล ในคดี “ถอดถอนนายกเศรษฐา” ”ที่ไปตั้ง “ทนายถุงขนม”เป็น รัฐมนตรี โดยการได้รับโหวตเป็นนายกฯคนที่30จาก
“รัฐสภา” ของ “เศรษฐา” 22ส.ค.66เป็นวันเดียวกันกับการได้กลับมาประเทศไทยเพื่อรับโทษของ “ทักษิณ” โดยถูกควบคุมไว้ที่ “ชั้น14”โรงพยาบาลตำรวจ ท่ามกลางกระแสข่าว “ดีลกลับบ้าน” กระทั่งได้รับการพักโทษกลับไปที่“บ้านจันทร์ส่องหล้า” และเริ่มกลับมามีบทบาททางการเมืองกระทั่งโดน ชนักคดี112 โดย “ทักษิณ” จะรับโทษครบได้ “ใบบริสุทธิ์” ในวันที่ 31ส.ค.67
น่าสนใจว่าภาพที่ปรากฏในงานพระราชทานเพลิงศพ “คุณแม่ชดช้อย” ที่สื่อรายงานเมื่อวานนอกจากจะมีภาพ “ตัวละครสำคัญ” ที่อยู่ในร่องรอยอดีตอยู่ครบแล้ว ยังถือเป็นครั้งแรกในรอบ 18 ปีที่ “ทักษิณ” กับ “ลุงตู่” ได้เจอกันตัวเป็นๆ แบบมีโอกาสได้ทักทายกันในงานรวมถึงมีภาพ “อุ๊งอิ๊งค์” ที่เข้าไปไหว้ทักทาย โดย “ลุงตู่” มาในงานศพของ “คุณแม่”ของ “นายกเศรษฐา” ทั้งวันสวดและวันพระราชทานเพลิงศพ
ที่ภาพทั้งหมดทั้งมวลถูกนำมาต่อเชื่อมกับ “ภาพปัจจุบัน” วันนี้ที่ “พรรคเด็ก-ก้าวไกล”กำลังถูกตัดสินคดี “ยุบพรรค” ที่อย่าลืมว่าเคยมีการวิเคราะห์ “บทบาท” ของ “ทักษิณ” หลังกลับมา เพื่อให้ “ฝ่ายอำนาจอนุรักษ์” ใช้บริการตาม “ดีลกลับบ้าน” ในการต่อสู้จัดการกับ “พรรคเด็ก-ก้าวไกล” แต่ด้วยภาพคลุมเครือในความสัมพันธ์ระหว่างเพื่อไทย-ก้าวไกลที่เคยร่วมกันเป็น
“พรรคฝ่ายประชาธิปไตย” ต่อสู้กับ “พรรคสองลุง” ก็ยังถูกระแวง จนนำมาสู่ปัญหาท่าที ใน “พรรคร่วมรัฐบาล”ของ “นายกฯเศรษฐา” กระทั่งบานปลายมาสู่ “คดีถอดถอนเศรษฐา” จากฝีมือ “40สว.” ชุดเดิมและ คดี112 ของ “ทักษิณ” ไม่นับรวม “ติดปลายนวม” อีกหลายคดีที่ “ฝ่ายอนุรักษ์” กำลังตั้งแท่นเช็กบิลบรรดาข้าราชการที่ช่วย “ทักษิณ”
ขณะเดียวกันในอีกมิติของภาพเมื่อวานก็ถูกวิเคราะห์ทั้ง “สัญญาณ” ความพยายาม “ลบอดีตความขัดแย้ง”และทั้งมิติเกมการเมือง โดยเฉพาะจาก “ฝ่ายต้านทักษิณ” เดิมที่แม้จะเห็นว่าเพราะ “พรรคเด็ก-ก้าวไกล” ทำให้ “คู่ขัดแย้ง” ในอดีตต้องจำใจจับมือกัน แต่บางฝ่ายก็อดระแวงไม่ได้เพราะในอดีตเคยมีคลิปเสียงพูดคุยของ “คนแดนไกล” ว่า “ไว้ใจ” ใครบางคน
ในขณะบางคนก็เป็นห่วงว่าจะไม่มีใครอกมาตรวจสอบ“ระบอบทักษิณ” หลังจากนี้ อย่างที่ “เทพไท” โพสต์FB จั่วหัวว่า “จะเหลือใครอีกกี่คนที่ยังปักหลักสู้กับระบอบทักษิณ” โดยมอง การเมืองจากนี้ หากกลุ่มอนุรักษนิยมไม่แตกคอกับ“ระบอบทักษิณ” มีการประนอมอำนาจ จัดสรรผลประโยชน์กันลงตัว จะทำให้ระบอบทักษิณภายใต้ร่มเงาของกลุ่มอนุรักษนิยม มีความแข็งแกร่ง ยากที่ใครจะล้มล้างได้ ยิ่งเห็นภาพบุคคล
ซึ่งเปรียบเสมือนแกนหลักของกลุ่มอนุรักษนิยม แสดงไมตรีต่อ “นายเศรษฐา”รวมถึงภาพในวันพระราชทานเพลิงศพ ทำให้รู้สึกว่า จะเหลือใครอีกสักกี่คน ที่ยังประกาศตัวเป็นศัตรูถาวรกับระบอบทักษิณอีก ด้วยเหตุนี้จึงเห็นว่า มวลชนผู้รักความเป็นธรรม ที่ปฏิเสธระบอบทักษิณมาโดยตลอดคงจะรู้สึกท้อแท้ อ่อนล้า และหมดกำลังใจ ในการต่อสู้กับระบอบทักษิณที่แข็งแกร่งขึ้นทุกวัน
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews
