“อนุทิน” ยกย่องกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้ “ปิดทองหลังพระ” เสียสละบำบัดทุกข์ บำรุงสุขใกล้ชิดพี่น้องประชาชน ย้ำมุ่งหวังให้ทุกคนมีสวัสดิการที่ดีขึ้น
น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล เลขานุการ รมว.มหาดไทย และโฆษกกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า วันที่ 10 ส.ค. ของทุกปีเป็นวัน กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และปี 2567 ได้ครบรอบ 132 ปี ของการกำเนิดกำนันผู้ใหญ่บ้านในประเทศไทย โดยนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.มหาดไทย ได้ให้ความสำคัญอย่างมากกับบทบาทของกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ในการเป็นกลไกของงานปกครอง เข้าไปดูแล บำบัดทุกข์ บำรุงสุข ชีวิตพี่น้องประชาชนที่ใกล้ชิดที่สุด
โดยในวันนี้ (10 ส.ค.67) เวลา 9.00 น. นายอนุทิน พร้อมผู้บริหารกระทรวงมหาดไทย เดินทางไปเป็นประธานในงานวันกำนันผู้ใหญ่บ้าน ประจำปี 2567 จังหวัดบุรีรัมย์ ณ ลานด้านหน้าพระบรมราชานุสาวรีย์รัชกาลที่ 5 ศูนย์ราชการจังหวัดบุรีรัมย์ พร้อมกับเป็นประธานในพิธีมอบเหรียญพระราชทาน และมอบรางวัลกำนัน ผู้ใหญ่บ้านยอดเยี่ยม
นายอนุทิน กล่าวว่า กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน เป็นผู้มีบทบาทสำคัญยิ่งต่อผลสำเร็จ ของนโยบายรัฐบาลและกระทรวงมหาดไทย เป็นผู้มีส่วนสำคัญ ในการช่วยเหลือและแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนทำอะไรมากมายที่ไม่มีใครเห็น แต่ได้สร้างประโยชน์โดยตรงต่อพี่น้องประชาชน ตั้งแต่ระดับครัวเรือนไปจนถึงระดับประเทศประเทศชาติ เช่น การป้องปรามยาเสพติด และการจัดระเบียบสังคม
ในการทำงานเมื่อมีปัญหาอาจถูกตำหนิ น้อยคนจะได้รางวัลหรือคำชมเชย แต่ขอให้ทุกคนมีทัศนคติที่ถูกต้อง มีพลังใจที่ได้ทำงาน “ปิดทองหลังพระ” ซึ่งเป็นวิถีทางในองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เมื่อปิดทองหลังพระแล้ว ทอง หรือคุณงามความดี นั้นไม่ได้หายไปไหน ไม่ว่าจะมีใครมองเห็นหรือไม่ แต่มันก็ยังอยู่ตรงนั้นเป็นกำลังใจ เป็นความภาคภูมิใจที่เราเห็นได้เอง
“ผมในนามของกระทรวงมหาดไทย มีความมุ่งหวังให้พี่น้อง กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ได้รับสวัสดิการที่ดี ซึ่งถือเป็นขวัญกำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่อย่างเสียสละ โดยไม่มีวันหยุด เราได้ให้แก้ไขระเบียบกรมการปกครองว่าด้วยการฌาปนกิจสงเคราะห์กำนันผู้ใหญ่บ้าน แพทย์ประจำตำบลสารวัตรกำนัน และผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน(ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2567 เพื่อจัดสวัสดิการให้กับพี่น้องกำนัน ผู้ใหญ่บ้านทุกท่าน” นายอนุทิน กล่าว
น.ส.ไตรศุลี กล่าวเพิ่มเติมว่า ระเบียบกรมการปกครองว่าด้วยการฌาปนกิจสงเคราะห์กำนัน ผู้ใหญ่บ้านฯ (ฉบับที่4) พ.ศ.2567 ที่มีการปรับปรุงแก้ไข ยังคงวัตถุประสงค์ของระเบียบ คือการให้สมาชิกการฌาปนกิจสงเคราะห์กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน แพทย์ประจำตำบล สารวัตรกำนัน และผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน (ฌ.ก.น.) สงเคราะห์ซึ่งกันและกันในการจัดการศพ สงเคราะห์ครอบครัวสมาชิก ซึ่งถึงแก่ความตาย และเมื่อพ้นจากตำแหน่งไปแล้วยังสามารถคงสภาพเป็นสมาชิกอยู่ได้ตลอดไป เพียงต้องส่งเงินสงเคราะห์ต่อเนื่องตามเกณ์
สาระสำคัญการปรับปรุงมีหลายประเด็น อาทิ การเกิดสภาพสมาชิก ฌ.ก.น ซึ่งจะเกิดขึ้นทันที ณ วันที่กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน แพทย์ประจำตำบล สารวัตรกำนัน และผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน และคู่สมรสตามกฎหมายยื่นใบสมัครด้วยตนเอง ณ ที่ว่าการอำเภอและได้ดำเนินตามขั้นตอนการสมัครที่กำหนด พร้อมชำระค่าสมัครเป็นสมาชิก 100 บาท และเงินสงเคราะห์ล่วงหน้ารายละ 400 บาท
เปรียบเทียบกับระเบียบเดิมที่กำหนดว่าสภาพสมาชิก ฌ.ก.น. จะเกิดขึ้นเมื่อ คณะกรรมการ ฌ.ก.น.มีมติให้รับสมัครเข้าเป็นสมาชิก ซึ่งปรับปรุงหลักเกณฑ์ข้อนี้จะทำให้เกำนัน ผู้ใหญ่บ้านฯ ได้รับความคุ้มครอง ได้สิทธิเร็วขึ้นเมื่อเทียบกับอดีต ส่วนการเรียกเก็บเงินสงเคราะห์ของสมาชิก ยังคงเดิมที่ ศพละ 2 บาท
นอกจากนี้ ยังมีการปรับปรุงให้กรอบเวลาในการจ่ายเงินสิทธิประโยชน์แก่ทายาทเมื่อ สมาชิก ฌ.ก.น.ถึงแก่กรรมให้เกิดความชัดเจน โดยระเบียบใหม่กำหนดให้ ฌ.ก.น.จ่ายเงินสิทธิประโยชน์แก่ ทายาทซึ่งได้ระบุไว้ ให้ได้รับเงินภายใน 3 วันนับแต่ได้รับคำร้องขอรับเงินสงเคราะห์ครบถ้วนและได้รับการแจ้งตายจากจังหวัดหรืออำเภอ และให้จ่ายเงินครั้งที่ 2 ภายใน 60 วันนับตั้งแต่จ่ายครั้งแรก
ทั้งนี้ ข้อมูลจากกรมการปกครอง ระบุว่า ณ สิ้นเดือน ก.ค.67 ฌ.ก.น. มีสมาชิกทั่วประเทศ 23,688 คน แยกเป็น กำนัน 1,169 คน ผู้ใหญ่บ้าน 12,533 คน แพทย์ประจำตำบล 738 คน สารวัตรกำนัน 1,165 คน ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน 4,744 คน และคู่สมรส 3,339 คน
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews