เพียงได้มองท้องฟ้าในยามพระอาทิตย์ตกดิน เหมือนเป็นการเยียวยาจิตใจให้ลืมความเศร้าได้ชั่วขณะหนึ่ง เพราะแสงสีส้มที่สะท้อนลงมาผสมกับสีฟ้าบนท้องฟ้าในยามหกนาฬิกา เสมือนเป็นที่พักผ่อนให้จิตใจและให้ความสบายตา หากวันนั้นมันหนักหน่วงเกินไป พระอาทิตย์ตกดินนี้สามารถช่วยเยียวยาหัวใจของหลายๆคนได้จริงๆ
แสงยามเย็นกับหลักวิทยาศาสตร์แห่งการเยียวยา
หลายคนอาจจะสงสัยว่าการมองพระอาทิตย์ตกดินช่วยเยียวยาจิตใจได้จริงๆหรอ จากบทความของพิพิธภัณฑ์วิทยาศาลตร์ที่อ้างอิงจากบทความวิจัยว่า แสงแดดอ่อนช่วยทำให้ความเครียดลดลง อีกทั้งยังช่วยกระตุ้นการหลั่งฮอร์โมนเซโรโทนิน (Serotonin) ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่ลดอาการซึมเศร้าได้ด้วย
การชมพระอาทิตย์ตกสามารถเป็นประโยชน์ต่อสุขภาพและจิตใจ วิจัยชี้ให้เห็นว่าการสัมผัสกับธรรมชาติ โดยเฉพาะแสงธรรมชาติจะลดความเครียด ความวิตกกังวล แถมยังปรับคุณภาพการนอนหลับดีขึ้น
ความรู้สึกเกิดขึ้นหลังจากได้มอง
คงไม่แปลกหากเราจะรู้สึกหลากหลายอารมณ์เมื่อได้มองเห็นพระอาทิตย์ตกดิน ที่ช่วยเติมเต็มพลังในการใช้ชีวิตต่อไปเหมือนเป็นอีกทางเลือกหนึ่งในการเยียวยาจิตใจ ทุกคนต่างมีความรู้สึกหลากหลายผ่านประสบการณ์มากมาย และแน่นอนมุมมองในการมองพระอาทิตย์ตกดินก็จะแตกต่างกันเช่นกัน
- รู้สึกฮีลใจ
- รู้สึกดี
- รู้สึกเหงา
- รู้สึกเหนื่อย
- รู้สึกผ่อนคลาย
- รู้สึกคิดถึงใครสักคน
- รู้สึกเศร้า
แม้การมองพระอาทิตย์ตกดินของบางคนในบางครั้งให้เรารู้สึกหลากหลายอารมณ์ สิ่งหนึ่งทำให้เรารู้ว่า วันที่รู้สึกว่าบางอย่างไม่ได้เป็นดั่งใจปราถนา พระอาทิตย์ก็ยังคอยอยู่เคียงข้างและบรรเทาความรู้สึกเหล่านั้น ถึงแม้ว่าบางวันพระอาทิตย์ตกดินอาจจะไม่ได้มีสีสันสวยงาม อาจมีวันฟ้าหม่นมืดครึม บางวันสีส้มสดใส หรือบางวันเป็นสีวนิลาสกาย ก็คงเหมือนดั่งชีวิตแม้ไม่ได้เรียบง่ายไปซะทุกวัน แต่นำมาซึ่งความรู้สึกที่ดีในใจ
เหตุผลที่ Sunset เยียวยาหัวใจมนุษย์ได้
1.สีบนท้องฟ้า : สีดวงอาทิตย์ที่ลับขอบฟ้า อย่างไกลๆ ไล่เฉดกับสีท้องฟ้าเข้มที่กำลังจะมืด ก็มักจะสามารถบอกอะไรเราได้ เพราะในทุกๆวันแสงท้องฟ้าก็จะไม่เหมือนกัน แต่บอกความรู้แสดงสีตามหลักจิตวิทยาออกมาได้อย่างดี
สีส้ม – สีส้มจะช่วยเพิ่มพลังและความมั่นใจจากภายใน ความสดใสมีชีวิตชีวา
สีเหลือง – เพิ่มความรู้สึกสดใส กระตุ้นการทำงานของสมองได้
สีน้ำเงินหรือสีฟ้า – ช่วยให้เกิดความผ่อนคลาย สงบ ลดความวิตกกังวลได้
สีม่วง หากสีม่วงอ่อนให้ความรู้สึกผ่อนคลาย ขณะที่ม่วงเข้มอาจให้ความรู้สึกหม่นหมองและเศร้าได้
2. แสงแดดอ่อนๆจากพระอาทิตย์ตกดิน เป็นแสงสีทองส้มอ่อนๆแสงสีส้มทองอ่อนๆ ของพระอาทิตย์ตก คุณสามารถเห็นความงามได้ด้วยตาเปล่า รู้สึกสบายตา และรู้สึกอบอุ่นอย่างอ่อนโยนเมื่อสัมผัสผิว ในช่วงชั่วโมงสุดท้ายก่อนพระอาทิตย์ตกชั่วโมงแรกหลังจากพระอาทิตย์ขึ้นจะเป็นเวลาท้องฟ้าแสงสวยที่สุด เรียกว่า Golden Hour นั้นเอง
3.สร้างความสงบและพลังใจในเวลาเดียวกัน
นอกจากสีและแสงแล้ว ความสงบของบรรยากาศรอบๆ หรือแม้กระทั่งบนท้องฟ้า ค่อนข้างจะนิ่ง เงียบสงบ เหมือนการได้ชาร์จพลังในแต่ละวัน ได้ใช้เวลามองความสวยงาม ได้พักสายตาจากสภาพแวดล้อมที่เจอมาทั้งวัน พระอาทิตย์ตกดินนี่หล่ะ…เป็นอีกสิ่งที่เต็มพลังในการใช้ชีวิตจะก่อเกิดความหวังในการใช้ชีวิตได้อย่างดีจริงๆ
อย่างที่กล่าวไปว่าการชมพระอาทิตย์ตกสามารถช่วยคลายเครียดได้มาก การได้เห็นพระอาทิตย์ตกดินนั้นทำให้ความรู้สึกเหมือนกับวันนั้นจะหมด เพราะแสงของพระอาทิตย์กำลังจะดับ ท้องฟ้าเริ่มจะมืดลงเพื่อเป็นอีกวัน มันเป็นอีกสิ่งที่บอกเราว่า ชีวิตก็เป็นแค่วันๆหนึ่งและมันจะผ่านไปเพื่อพร้อมรับวันใหม่ในวันต่อไป ซึ่งการแค่ได้มองพระอาทิตย์ตกดินในช่วงเวลาสั้นๆ ถือว่าต่อเติมพลังในการใช้ชีวิตและหัวใจได้ดีมากๆแล้ว
อ้างอิงข้อมูลจาก
https://www.nsm.or.th/nsm/th/node/4314
https://bangpleestationery.com/art-of-color/
https://mhesi.go.th/index.php/all-media/infographic/7043-650309general.html
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews