“กัณวีร์” ฝากนายกฯอีกรอบ กต.สำคัญหน้าตาของประเทศ ชี้ต้องมีความรอบรู้มีความสามารถ สนใจความเปลี่ยนแปลงผันผวนอย่างรวดเร็วในเวทีระหว่างประเทศ
นายกัณวีร์ สืบแสง สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเป็นธรรม กล่าวถึงการแต่งตั้งคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ หลังฝากการบ้านไปถึงนายกรัฐมนตรี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร แล้ว นายกัณวีร์ เห็นว่าตำแหน่งสำคัญที่ต้องจับตา คือ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ
นายกัณวีร์ กล่าวว่า การปรับ ครม.ครั้งนี้คงถูกจับตามองกันอย่างมากระหว่างช่วงฝุ่นตลบ แบ่งขั้วในพรรค ไปครึ่งพรรค ไปค่อนพรรค ไปทั้งพรรค หรือไปแบบไม่สนใจพรรค
“ตำแหน่งหนึ่งที่เป็นตำแหน่งสำคัญมาก “แต่งบน้อย” เหมือนไม่มีคนสนใจ แต่เป็นหน้าเป็นตาของประเทศในเวทีโลก คือ รมว.การต่างประเทศ งานเยอะนะครับและงานสำคัญต้องเข้าใจบริบทการต่างประเทศอย่างครอบคลุมและต้องปรับตัวให้ทันต่อโลกปัจจุบันในศตวรรษที่ 21 และต้องสร้างและรู้ทั้งจุดยืนไทยในอนุภูมิภาค ภูมิภาค และเวทีระหว่างประเทศและยอมรับความคาดหวังของเวทีโลกว่าต้องการอะไรจากไทย”
นายกัณวีร์ กล่าวว่า การทูตไผ่ลู่ลม การยึดหลักไม่แทรกแทรง การเป็นเสือในอนุภูมิภาค อะไรต่างๆ ที่เคยมั่นใจว่าเป็นจุดยืนทางการทูตของไทย และยังคงยึดมั่นเป็นธรรมเนียมปฏิบัติมาอย่างยาวนานแบบไม่ยี่หระในเรื่องความเป็นจริงในเวทีโลก ต้องเปลี่ยนแปลงอย่างเร็ว ชาญฉลาด อย่างมีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์และมีประสิทธิภาพ
“ดังนั้นเจ้ากระทรวงการต่างประเทศต้องมีความรอบรู้มีความสามารถ และรวมถึงความสนใจความเปลี่ยนแปลงผันผวนอย่างรวดเร็วในเวทีระหว่างประเทศที่ไทยเราต้องมีทั้งจุดยืน หลักการและความอ่อนตัวที่ต้องไม่เสียจุดยืนทางการทูตของไทย”
นายกัณวีร์ กล่าวถึงโผครม.ใหม่ มีใครบ้างที่น่าจับตามอง และใครจะเข้าวิน สิ่งแรกที่ตนเองมองว่าพรรคเพื่อไทยคงต้องคุมกระทรวงการต่างประเทศไว้เอง เพราะเป็นหน้าเป็นตาของประเทศและจะเป็นช่องทางการสื่อสารทั้งการค้าการลงทุนที่พรรคเพื่อไทยเน้นย้ำด้านการต่างประเทศ และที่สำคัญเป็นกลไกในการสร้างการติดต่อสื่อสารกับเวทีโลก ที่ต้องเสนอและขยายนโยบายการต่างประเทศออกไป ก็ต้องรอดูต่อไปว่าพรรคเพื่อไทยจะมีจุดยืนทางการทูตที่เปลี่ยนแปลงไปหรือไม่ และอย่างไร เมื่อนายกรัฐมนตรีมาแถลงนโยบายต่อสภาในอีกไม่กี่วันข้างหน้า
“คงมีแคนดิเดตสองคนจากพรรคเพื่อไทยในตอนนี้ครับ คนแรกคงเป็น รมว.ที่มาจากรัฐบาลคุณเศรษฐาฯ คือคุณมาริษฯ เพราะยังยืนยันการร่วมเป็นหนึ่งใน ครม.ชุดใหม่ แถมเป็นอดีตทูตในหลายประเทศแต่ก็มีข้อกังขาถึงงานที่ไม่เดินหน้าช่วงมารับตำแหน่งใน ครม.ชุดที่แล้ว พูดจริงๆ ยังไม่เข้าตาและไม่ตอบโจทย์ทางการทูตในสังคมระหว่างประเทศเลย ส่วนคนที่สองคือคุณนพดล ปัทมะ อดีต รมว.การต่างประเทศในสมัยนายกฯ สมัคร สุนทรเวช ผู้คร่ำหวอดทางการทูตและผู้ที่ได้แสดงสปิริตลาออกจากตำแหน่ง เพื่อแสดงความรับผิดชอบทางการเมืองจากคำตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญในสมัยนั้น และสมัย สส.ชุดปัจจุบันได้แสดงวิสัยทัศน์ที่ดีด้านการต่างประเทศในช่วง 1 ปีที่ผ่านมา”
นายกัณวีร์ กล่าวย้ำว่า รัฐบาลใหม่ตัดสินใจให้ดี ไม่มีเวลาลองงานแล้วครับ เรื่องการตั้งคณะรัฐมนตรี เป็นเรื่องของประชาชนคนไทยทุกคนที่สามารถวิเคราะห์และวิพากษ์กันได้อย่างสร้างสรรค์ เพราะเราคนไทยคือผู้มีส่วนได้เสียทุกคนในเรื่องการเมืองไทย
“หากอยากย่ำอยู่กับที่และไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงแถมอาจมีการทูตแบบถดถอย และไม่น่าจะได้รับการยอมรับจากเวทีโลก ก็อาจเป็นคุณมาริษฯ แต่หากอยากพิจารณาขยับงานการทูตให้มีความกระเตื้องทางงานการต่างประเทศอาจต้องพิจารณาเลือกคุณนพดลฯ มือเก๋าที่ยังมีความอ่อนตัวและสร้างจุดยืนให้มั่นคงตามความเปลี่ยนแปลงในเวทีโลกได้ตามทัศนะของผมนะครับ”
นายกัณวีร์ กล่าวย้ำว่า อย่ามองว่าการทูตเป็นของกลุ่มคนเพียงกลุ่มน้อย หรือ“ชนชั้นอีลีท” แต่ต้องใช้การทูตสาธารณะ (Public Diplomacy) ซึ่งทุกคนคือนักการทูตที่สง่าได้ และจะเห็นว่าประเทศไทยต้องการอะไร และในขณะเดียวกัน จะต้องเปิดหูเปิดตารับฟังความต้องการของเวทีโลกว่าเค้ามีความคาดหวังอะไรและอย่างไรจากประเทศไทยในฐานะสมาชิกของโลกนี้
“รอหน้าตา ครม.ชุดใหม่ครับ เราในฐานะประชาชนชาวไทยมีสิทธิวิพากษ์วิจารณ์อย่างตรงไปตรงมา และรัฐบาลที่เป็นตัวแทนของประชาชนก็ต้องเปิดใจรับฟังอย่างไม่มีอคติครับผม”นายกัณวีร์ กล่าวย้ำ
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews