“มาตรฐานทางจริยธรรม”…ทางหนึ่งเพื่อยกระดับความเป็นดีศรีสังคม แต่ในทางหนึ่งกลับเป็นเครื่องมืออำมหิตในการสืบทอดอำนาจอีกชิ้นหนึ่งของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ทิ้งไว้เพื่อตรวจสอบควบคุมนักเลือกตั้ง ทำให้มีนักการเมืองหลายรายต้องคำพิพากษา ได้รับบทลงโทษรุนแรง คือถูกตัดสิทธิสมัครรับเลือกตั้งในทุกระดับ และไม่มีสิทธิดำรงตำแหน่งทางการเมืองทุกตำแหน่ง และขณะนี้ มีนักการเมือง 5 ราย ที่โดนร้องเรียนในประเด็นมาตรฐานด้านจริยธรรม
คนแรก”เสี่ยหนู อนุทิน ชาญวีรกุล” โดย วันที่ 21 ส.ค.67 ทนายอั๋น บุรีรัมย์ ร้องเลขาธิการ ป.ป.ช. ตรวจสอบมาตรฐานทางจริยธรรมของ เสี่ยหนู และ นายไชยชนก ชิดชอบ ลูกชายคนโปรดของ ครูใหญ่ เนวิน ชิดชอบ ขาใหญ่อีสานใต้ และผู้มีบารมีสูงสุดในค่ายภูมิใจไทย ว่า มีภูมิลำเนาอยู่ในที่ดินเขากระโดง ซึ่งเป็นที่ดินสาธารณะหรือไม่ และหากพบว่า มีภูมิลำเนาอยู่ในที่ดินเขากระโดงจริง จะผิดต่อมาตรฐานด้านจริยธรรมของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองหรือไม่
คนต่อมาลุงป้อม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ สส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ที่โดนนักร้องขาประจำกลับมาแล้ว อย่างนายศรีสุวรรณ จรรยา ผู้นำองค์กรรักชาติ รักแผ่นดิน ยื่นคำร้องต่อปปช. เพื่อขอให้ไต่สวนกรณี พล.อ.ประวิตร มีพฤติการณ์ และการกระทำ ที่อาจเข้าข่ายการคุกคามสิทธิ และเสรีภาพบุคคลอื่น และก่อให้เกิดความเสื่อมเสียต่อเกียรติศักดิ์ของการดํารงตําแหน่งของตน อันอาจถือได้ว่า เป็นการฝ่าฝืนมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรงหรือไม่
ซ้ำสองด้วย สภาวิชาชีพข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย และสมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย ยื่นตรวจสอบจริยธรรมของลุงป้อม อาจเป็นการฝ่าฝืนมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง ตามข้อบังคับว่าด้วยประมวลจริยธรรม ของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและกรรมาธิการ พ.ศ.2563 อย่างน้อย 2 ข้อ ได้แก่ ข้อ 12 ต้องเคารพสิทธิ เสรีภาพส่วนบุคคลของผู้อื่น ไม่แสดงกิริยาใช้วาจาอันไม่สุภาพ และข้อ 13 ต้องไม่แสดงอาการข่มขู่ อาฆาตมาดร้าย หรือใช้กำลังประทุษร้ายต่อบุคคลอื่น
คนต่อมาเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกรัฐมนตรี หมาด ๆ โดยนักร้องสายแข็งอีกราย นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ร้อง ป.ป.ช. ส่งเรื่องนายเศรษฐาให้ศาลฎีกาวินิจฉัยต่อว่า ฝ่าฝืนจริยธรรมหรือไม่ จากกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญ ได้มีคำวินิจฉัยให้นายเศรษฐา พ้นจากตำแหน่งรัฐมนตรีเป็นการเฉพาะตัว เนื่องจากไม่มีความซื่อสัตย์ สุจริตเป็นที่ประจักษ์ และมีพฤติกรรมอันเป็นการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง
คนต่อมา นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม น้องชายคนโปรดอีกคนของเสี่ยเนวิน โดยวันที่ 19 มกราคม 2567 นายศรีสุวรรณ จรรยา ยื่นคำร้องต่อ ป.ป.ช. กรณี “ศักดิ์สยาม” หลังศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยให้ความเป็นรัฐมนตรีสิ้นสุดลง อันเนื่องมาจาก เป็นเจ้าของที่แท้จริงของห้างหุ้นส่วนจำกัดบุรีเจริญ ตอนสตรัคชั่น นั้นอาจเข้าข่ายการฝ่าฝืนมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรงหรือไม่
คนต่อมา สุดหล่อ พิธาและคณะรวม 44 ราย โดยเมื่อวันที่ 2 ก.พ.2567 นายธีรยุทธ สุวรรณเกษร ทนายความ ยื่นคำร้องต่อป.ป.ช.เพื่อขอให้ไต่สวนและดำเนินคดีกับสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรพรรคก้าวไกลจำนวน 44 คน ฐานฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานจริยธรรมอย่างร้ายแรง กรณีร่วมกันเสนอร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา ซึ่งศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่า เป็นการล้มล้างการปกครองระบบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข
อย่างไรก็ตาม นักการเมืองอีกรายที่ยังต้องลุ้นระทึก นั้นคือนายกอุ๊งอิ๊ง ปมสนามกอล์ฟอัลไพน์ ที่แม้ยังไม่โดนร้อง แต่เชื่ออีกไม่นานนักร้องกระโดดงับแน่ โดยจตุพร พรหมพันธ์ ระบุว่า”อุ๊งอิ๊งต้องไปเช็กดูว่าตัวเองเคยถือหุ้น 30% หรือไม่ เพราะเรื่องนี้ไม่แตกต่างกับกรณี เอ๋-ปารีณา โดนข้อหาจริยธรรมในการได้รับมรดกครอบครองที่ดินไม่ชอบด้วยกฎหมาย จนถูกตัดสิทธิการเมืองตลอดชีวิต เมื่อนำมาเทียบเคียงกับสนามกอล์ฟอัลไพน์แล้ว อุ๊งอิ๊งจะรอดหรือไม่ ต้องจับตาอย่างยิ่ง”
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews
