ราชทัณฑ์ ย้ายตัว “เพนกวิน” กลับเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ หลังครบกำหนดกักขัง เผย อาการยังอ่อนเพลียแต่ไม่น่าห่วง ด้าน “รุ้ง” ยังอดอาหารต่อเนื่อง
นายธวัชชัย ชัยวัฒน์ รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ ในฐานะโฆษกกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยว่า ความคืบหน้าอาการของนายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือ เพนกวิน วันนี้ (6 เม.ย. 64) เวลา 07.00 น. ผู้อำนวยการสถานกักขังกลางจังหวัดปทุมธานี พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่พยาบาลได้เข้าตรวจเยี่ยมติดตามอาการของนายพริษฐ์ฯ ก่อนส่งตัวไปฝากขังที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานครตามหมายศาล
พบว่าผู้ป่วยรู้สึกตัวดี มีสีหน้าสดชื่น มีอาการอ่อนเพลียเล็กน้อย ริมฝีปากชุ่มชื้นดี และยังคงปฏิเสธการรับประทานอาหาร จึงยังคงดูแลให้สารน้ำทางหลอดเลือดดำตามแผนการรักษาอยู่ พร้อมให้ดื่มเกลือแร่ทดแทน เบื้องต้นไม่มีอาการปวดแสบท้อง สัญญาณชีพโดยทั่วไปปกติ อุณหภูมิร่างกาย 36.8 องศาเซลเซียส อัตราเต้นของหัวใจ 64 ครั้งต่อนาที อัตราการหายใจ 18 ครั้ง/นาที ความดันโลหิต 103/76 มิลลิเมตรปรอท น้ำหนัก 99 กิโลกรัม อาการผื่นคันบริเวณหน้าอกและหลังดีขึ้น อาการภูมิแพ้ขึ้นตาดีขึ้นเป็นลำดับ
ทั้งนี้ สถานกักขังกลางจังหวัดปทุมธานี ได้ส่งตัวนายพริษฐ์ ขึ้นรถเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร ในเวลา 8.50 นาฬิกา เพื่อส่งตัวไปฝากขังต่อที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร เนื่องจากหมดระยะเวลาการกักขังตามหมายศาล ที่สถานกักขังกลางจังหวัดปทุมธานี
ด้านนางสาวปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล หรือ รุ้ง เจ้าหน้าที่พยาบาลประจำสถานพยาบาล ทัณฑสถานหญิงกลาง ได้เข้าตรวจสุขภาพประจำวัน พบว่านางสาวปนัสยา รู้สึกตัวดี สามารถพูดคุยรู้เรื่องและเข้าใจ มีปฏิสัมพันธ์ดี ช่วยเหลือตัวเองได้ปกติ
จากการตรวจร่างกายสัญญาณชีพปกติ อุณหภูมิร่างกาย 36.5 องศาเซลเซียสความดันโลหิต 111/64 มิลลิเมตรปรอทชีพจร 78 ครั้ง/นาที อัตราการหายใจ 20 ครั้ง/นาที ออกซิเจนในเลือด 98 เปอร์เซ็นต์ น้ำหนัก 107.1 กิโลกรัม สุขภาพร่างกายโดยทั่วไปปกติ ไม่มีอาการเหนื่อยหรืออ่อนเพลีย ไม่กระหายน้ำ ผิวหนังและริมฝีปากชุ่มชื้นดี เปลือกตาไม่ซีด เล็บมือและฝ่ามือมีสีชมพู ไม่มีสัญญาณของภาวะ Dehydration หรือ ขาดน้ำ
โดยเบื้องต้น หลังจากครบกำหนดการอดอาหารที่แจ้งไว้เมื่อวานนี้ (วันที่ 5 เมษายน 2564) นางสาวปนัสยาฯ แจ้งว่าจะขออดอาหารต่อเนื่องโดยไม่มีกำหนด
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news