สปก.โคราช ลงพื้นที่รังวัดที่ดินสาธารณประโยชน์ หลังชาวบ้านร้องที่พักสงฆ์บุกรุกเข้าสร้างวัดโดยไม่ได้รับอนุญาต ขณะที่กรมศิลปากรตั้งคณะกรรมการรื้อถอนแล้ว
ความคืบหน้า กรณีชาวบ้านในอำเภอห้วยแถลง จังหวัดนครราชสีมา รวมตัวทวงคืนปราสาทหินโบราณอายุนับพันปี หลังจากที่พักสงฆ์วัดโคกปราสาท ได้เข้ามาใช้พื้นที่โบราณสถานสร้างอาคารปฏิบัติธรรม คร่อมทับลงกลางตัวปราสาทบ้านหลุ่งตะเคียน ซึ่งชาวบ้านได้ร้องเรียนไปยังหน่วยงานต่างๆ จนกรมศิลปากร มีคำสั่งลงวันที่ 29 กันยายน 2565
ให้รื้ออาคารศาลาปฏิบัติธรรมที่ปลูกสร้างในพื้นที่โบราณสถานออกเพราะก่อสร้างโดยไม่ขออนุญาตอธิบดีกรมศิลปากร แต่ทางที่พักสงฆ์ได้ส่งทนายร้องศาลปกครองให้คุ้มครองคำสั่งรื้อถอน จนกระทั่งศาลปกครองสูงสุดได้ยกคำร้องการคุ้มครองคำสั่งรื้อถอนไปแล้วเมื่อวันที่ 19 เมษายน 2567 ที่ผ่านมา แต่การดำเนินการรื้อถอนยังไม่สามารถทำได้ เนื่องจากมีข้อพิพาทเรื่องที่ดินโดยรอบโบราณสถานฯ ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ล่าสุด (31 สิงหาคม 2567) เจ้าหน้าที่รังวัดจากสำนักงานปฏิรูปที่ดินจังหวัดนครราชสีมา ได้ลงพื้นที่ตามที่มีหนังสือจาก ศูนย์ดำรงธรรมอำเภอห้วยแถลง ที่ นม 1718/1785 เรื่องขอความอนุเคราะห์ให้ทำการรังวัดสอบเขตที่ดินพื้นที่ปราสาทบ้านหลุ่งตะเคียน แปลงที่ดินเลขที่ 7 ระวางที่ 1128 เนื่องจากที่ดินแปลงดังกล่าวเดิมอยู่ในพื้นที่ป่าสงวนป่าสงวน ป่าพิมาย ต่อมามีการจัดสรรพื้นที่ทำกินให้ชาวบ้าน โดยเว้นที่ดินบริเวณ
โดยรอบปราสาทหินบ้านหลุ่งตะเคียนไว้ เป็นพื้นที่ 110 ไร่ 5 ตารางวา โดยระบุเป็นพื้นที่สาธารณประโยชน์ที่ไม่สามารถจัดสรรให้ผู้ใดสามารถเข้าทำประโยชน์ได้ ซึ่งต่อมา ได้มีกรมศิลปากรขอเข้ามาใช้พื้นที่ จำนวน97 ไร่ เพื่อขึ้นทะเบียนเป็นพื้นที่โบราณสถานโคกปราสาท แต่ในปัจจุบัน กลับมีที่พักสงฆ์ฯ ได้เข้ามาก่อสร้างอาคารปฏิบัติธรรมและที่พักรอบบริเวณ
โดยอ้างเอกสารสิทธิ์ สค.1 ในการเข้าใช้พื้นที่ จนเกิดเป็นข้อพิพาทเรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน สปก.นครราชสีมา จึงจะช่วยอำนวยความยุติธรรมในการชี้แนวเขตข้อพิพาทที่ทับซ้อนกับ สค.1 ของที่พักสงฆ์ที่ถือครองอยู่ และแนวเขตพื้นที่สาธารณประโยชน์ เพื่อให้การเข้ารื้อถอนอาคารที่ปลูกคร่อมทับปราสาทหินเป็นไปด้วยความสะดวก
นอกจากนี้ ทางสำนักศิลปากรที่ 10 นครราชสีมา ได้มีคำสั่งแต่งตั้งคณะทำงานแก้ไขปัญหาผลกระทบจากการบุกรุกโบราณสถานและการรื้อถอนอาคารสิ่งปลูกสร้างในเขตโบราณสถานบ้านหลุ่งตะเคียน โดยมีนายวิจิตร กิจวิรัตน์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เป็นหัวหน้าคณะทำงาน และผู้อำนวยการสำนักศิลปากรที่ 10 นครราชสีมา เป็นคณะทำงานและเลขานุการ รวมถึง
เจ้าคณะจังหวัดนครราชสีมา(ฝ่ายธรรมยุต) เป็นที่ปรึกษา โดยให้คณะทำงานมีอำนาจหน้าที่ประสานและตรวจสอบพื้นที่โบราณสถานปราสาทบ้านหลุ่งตะเคียน พร้อมให้คำแนะนำเกี่ยวกับการรื้อถอนอาคารศาลาการเปรียญ รวมถึง อาคารอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ตามขั้นตอนและวิธีการที่ถูกต้อง ไม่ให้กระทบถึงสิทธิในความเป็นเจ้าของหรือผู้ครองที่ดิน .
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews