รัฐบาล “แพทองธาร 1” เดินหน้าฟอร์มทีมเป็นรูปเป็นร่างมากขึ้น เห็นโฉมหน้าคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ชัดเจนขึ้น หลังประกาศชัด ร่วมงานกับ “พลังประชารัฐ” ต่อไม่ได้ ด้วยเหตุผลต่างๆ นานาและนำมาซึ่งความเจ็บแค้นของอีกฝ่าย หลังมีการออกมา “ทวงคำมั่นสัญญา” อ้างข้อกฏหมายตามประมวลกฏหมายแพ่งและพาณิชย์ เหมือนเป็นการส่งสัญญาณว่า “นิติสงครามยังไม่จบ อย่าเพิ่งนับศพในบ้านป่าฯ”
เพราะ ณ เวลานี้ นายกฯยังไม่อาจเข้าทำเนียบทำงานได้ ต้องรอแถลงนโยบายต่อสภาก่อน แต่การตรวจสอบได้เริ่มขึ้นแล้ว โดยนักร้องสายบ้านป่าฯ “เรืองไกร ลีกิจวัฒนะ” สมาชิกพรรคพลังประชารัฐ ผู้ซึ่งในอดีตเคยเป็นสว. และเคยสังกัดพรรคเพื่อไทยมาก่อน และมีผลงานอันลือลั่นในการยื่นคำร้อง ตรวจสอบบุคคลต่างๆมาแล้วมากมาย และส่วนใหญ่จะเข้าเป้าโดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องที่เกี่ยวกับงบประมาณ การเงิน การถือครองหุ้นและบัญชีทรัพย์สิน โดยในอดีตสามารถสอย “นายกฯสมัคร สุนทรเวช” ของพรรคพลังประชาชน ตกเก้าอี้ในข้อหาชิมไปบ่นไปมาแล้ว รวมถึงสกัด “พิธา ลิ้มเจริญรัตน์” ด้วยกรณีหุ้นไอทีวี จนหมดสิทธิ์เป็นายกฯ
โดยการส่งคำร้อง ต่อคณะกรรมการ ปปช. ตรวจสอบ”นายกฯอิ๊งค์-แพทองธาร ชินวัตร” ซึ่งยังมีตำแหน่งทางการเมือง ผิดมาตรา 128 ห้ามมิให้เจ้าพนักงานของรัฐผู้ใดรับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดอันอาจคํานวณเป็นเงินได้จากผู้ใด กรณีไปตีกอล์ฟ ที่รีสอร์ทหรูของ “อนุทิน ชาญวีรกุล” กับอีกกระทงยื่นให้ กกต.ตรวจสอบ “แพทองธาร” กรณีลาออกจากกรรมการบริษัทต่าง ๆ เมื่อวันที่ 15 สิงหาคม 2567 จริงหรือไม่ซึ่งถือเป็น 2 บาดแผลของนายกฯอิ๊งค์ จาก “เรืองไกร”ตั้งแต่ยังไม่เข้าทำเนียบ
หลังจากนี้ “แพรทองธาร” จะเผชิญกับข้อกล่าวอะไรจาก “เรืองไกร”อีกหรือไม่ ยังตอบไม่ได้แต่ขณะเดียวกัน นักร้องอีกรายของค่ายบ้านป่า ซึ่งมีตำแหน่งเป็นถึงรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐนั่นคือ “ไพบูลย์ นิติตะวัน” ผู้ริเริ่มก่อตั้งและเป็นผู้ประสานงานกลุ่ม 40 ส.ว. ทำหน้าที่ตรวจสอบการบริหารราชการแผ่นดินของรัฐบาลในช่วงปี 2551-2557 ก็ส่งสัญญาณมาแล้ว ทวงคำมั่นสัญญาจาก “อุ๊งอิ๊ง”ว่าได้ทำอะไรผิดต่อพลังประชารัฐหรือไม่ ส่วนจะร้องต่อหน่วยงานใดหรือไม่ ทั้งเรื่องของตัวนายกฯหญิงคนที่ 2เองหรือตัวคุณพ่อที่มีการนัดแนะเรียกพบแกนนำพรรครัฐบาลเข้าบ้านจันทร์ส่องหล้า แม้จะยังไม่ชัดในท่าที
แต่หากมีการยื่นเอง หรือส่งบุคคลใดในพรรคไปยื่น โดยที่ตัวเองคอยกำกับดูแล ก็น่ากลัวไม่ใช่น้อย สำหรับ”นายกฯอิ๊งค์”เพราะผลงานในอดีตของ “ไพบูลย์” ในการยื่นตรวจสอบ ก็ไม่ธรรมดา เชี่ยวชาญในเรื่องข้อกฏหมาย โดยปี 2557 เป็นโจทย์ ยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ ขอให้วินิจฉัยกรณี “ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” สั่งโยกย้าย “ถวิล เปลี่ยนศรี” เลขาฯ สมช. ไปดำรงตำแหน่งที่ปรึกษานายกฯ โดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย
ส่งผลให้ “ยิ่งลักษณ์” ต้องพ้นจากสถานะรักษาการนายกฯ ส่วนผลงานชิ้นต่อมา ในปี 2562 ยื่นคำร้องต่อ กกต.ให้พรรคไทยรักษาชาติ ระงับการเสนอพระนามทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตน์ฯ ในบัญชีชื่อนายกรัฐมนตรีเข้าข่ายขัดระเบียบ กกต.ว่าด้วยการหาเสียงเลือกตั้ง หมวด 4 ข้อ 17 ห้ามผู้สมัคร พรรคการเมือง หรือผู้ใดนำสถาบันพระมหากษัตริย์มาเกี่ยวข้องกับการหาเสียง ส่งผลให้พรรคไทยรักษาชาติถูกยุบไปในที่สุด
ดังนั้นจะเห็นได้ว่า การขยับตัวของ 2 นักร้องบ้านป่าฯ ที่คนแรกยื่นตรวจสอบแล้ว กับอีกคนที่เพิ่งส่งสัญญาณ นั้นมีนัยยะพิเศษพอสมควร ส่วนหลังจากนี้ จะมีนักร้องคนอื่นมาตรวจสอบต่อในเรื่องของนายกฯอิ๊งค์ หรือจะมีเพียง 2 คนนี้ดำเนินการ ต้องติดตามกันต่อไป
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews