เปิดสถิติ ก่อนฟาดแข้ง “ศึกแดงเดือด” ยกแรก “ลิเวอร์พูล” ข่ม “แมน ยูฯ”
เปิดสถิติ ก่อนฟาดแข้ง “ศึกแดงเดือด” ยกแรก “ลิเวอร์พูล” ข่ม “แมน ยูฯ”
เรียกว่าเป็นซุปเปอร์บิ๊กแมตช์ที่แฟนบอลทั่วทั้งโลกจับตามอง สำหรับการแข่งขันฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ในค่ำคืนนี้ ไฮไลท์อยู่ที่ “ศึกแดงเดือด” ยกแรกของฤดูกาลนี้ เป็นการพบกันระหว่าง “ปีศาจแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่จะเปิดบ้านต้อนรับ “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล ที่สนามโอลด์ แทรฟฟอร์ด ในคืนวันที่ 1 กันยายน เวลา 22.00 น.ตามเวลาประเทศไทย
ซึ่งการเจอกันในฤดูกาลนี้ เป็นการโคจรมาพบกันอย่างรวดเร็วตั้งแต่นัดที่ 3 ของฤดูกาล โดยจะเป็นทาง แมนฯ ยูไนเต็ด ภายใต้การคุมทีมของเอริค เทนฮาก ที่จะเปิดบ้านต้อนรับการมาเยือนของ ลิเวอร์พูล ภายใต้การคุมทีมของอาร์เน่ สล็อตกุนซือใหม่ของลิเวอร์พูล
สถานการณ์ในตอนนี้ หลังผ่าน 2 นัดแรก แมนฯ ยูไนเต็ด รั้งอันดับ 11 ของตาราง เก็บได้ 3 คะแนน โดยแบ่งเป็นชนะ 1 และ แพ้ 1 ส่วนทางลิเวอร์พูล รั้งอันดับ 4 ของตาราง ชนะได้ทั้ง 2 นัด เก็บได้ 6 คะแนนเต็ม
คู่นี้เพิ่งพบกันไปในเกมปรีซีซั่นที่สหรัฐฯ โดยลิเวอร์พูล ชนะ 3-0 ส่วนผลงานฤดูกาลที่ผ่านมา 2 นัดในพรีเมียร์ลีก เสมอกันทั้ง 2 เกม (โดยเสมอที่แอนฟิลด์ 0-0 ที่ โอลด์ แทรฟฟอร์ด 2-2 ) ส่วนเจอกันอีกเกมในศึกเอฟเอ คัพ แมนฯ ยูไนเต็ด ชนะที่บ้านช่วงต่อเวลาพิเศษ 4-3 หลังเสมอใน 90 นาที 2-2
เปิดสถิติการพบกันก่อนศึกแดงเดือด 10 นัดที่ผ่านมา “หงส์แดง” ทำได้ดีกว่า แมนฯ ยูไนเต็ด อย่างชัดเจนในช่วง 10 นัดหลังสุด คว้าชัยชนะไปได้ถึง 5 เกม เสมอกัน 4 ครั้ง ขณะที่ แมนฯ ยูไนเต็ด เก็บชัยชนะได้เพียงแมตช์เดียวเท่านั้น แค่นั้นยังไม่พอ สิ่งที่น่าสนใจคือจำนวนประตูที่ หงส์แดง ยิงใส่ แมนฯ ยูไนเต็ด ในเกมลีก 10 นัดหลังสุด โดยยิงได้มากถึง 26 ประตู และเสียแค่ 7 ประตูเท่านั้น ส่วนนักเตะที่ถือว่าสร้างฝันร้ายให้กับ แมนฯ ยูไนเต็ด ได้มากที่สุดคือ โมฮาเหม็ด ซาล่าห์ ที่ยิงประตูใส่ที่โอลด์ แทรฟฟอร์ด ไปถึง 6 ประตู นอกจากนี้ดาวยิงทีมชาติอิยิปต์ ยังมีส่วนกับ 18 ประตูจาก 11 เกม ที่ดวลกับ แมนฯ ยูไนเต็ด ทุกรายการ จากการทำ 14 ประตู 4 แอสซิสต์
สำหรับในเกมนี้ แมนฯ ยูไนเต็ด จะไม่มี เมสัน เมาท์ ที่พบกับอาการบาดเจ็บแฮมสตริง และคาดหมายว่าจะต้องพักเป็นเวลา 4-5 สัปดาห์ ขณะที่ ราสมุส ฮอยลุนด์ จะกลับมาหลังจากพ้นเกมทีมชาติ นอกนั้น วิคตอร์ ลินเดเลิฟ, ลุค ชอว์, เลนี่ โยโร่ และ ไทเรลล์ มาลาเซีย ยังพักต่อไป
ส่วนทางด้าน ลิเวอร์พูล อาจจะยังไม่ให้ เฟเดริโก้ เคียซ่า มีส่วนร่วมเพราะเพิ่งลงซ้อมกับทีมหนแรกในวันศุกร์ ส่วน เคอร์ติส โจนส์ พลาดการลงซ้อมในสัปดาห์นี้ไปและคาดหมายว่าจะอดมีส่วนร่วมในเกมนี้ไปด้วย
สำหรับผลการแข่งขัน ด้วยความเป็นศึกแดงเดือดอะไรก็เกิดขึ้นได้ ด้วยความพร้อม ลิเวอร์พูล อาจจะดูค่อนข้างเหนือกว่าก็จริง แต่ก็ประมาทแมนฯ ยูไนเต็ดไม่ได้ ดูได้จากการเจอกันเมื่อฤดูกาลที่ผ่านมา ลิเวอร์พูลไม่สามารถต้อนแมนยูได้เลย แม้ฟอร์มการเล่นจะเหนือกว่า เรียกได้ว่าแพ้ใครได้ แต่ห้ามแพ้ลิเวอร์พูล แถมนัดนี้ได้เล่นในบ้านด้วย เชื่อว่าแมนยูจะไม่แพ้ อย่างต่ำก็แบ่งแต้มกันไป
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews