“สรท.” เรียกร้องนายกฯ ผลักดันไทยก้าวสู่ชาติการค้า ช่วยสร้างเศรษฐกิจที่เข้มแข็ง มีเสถียรภาพ
นายชัยชาญ เจริญสุข ประธานสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย หรือ สรท. เปิดเผยว่าภาวะการค้าระหว่างประเทศของไทยในเดือนกรกฎาคม ขยายตัวร้อยละ 15.2 คิดเป็นมูลค่ากว่า 25,720 ล้านเหรียญสหรัฐและในช่วง 7 เดือนแรกของปี 2567 มูลค่าการส่งออกรวมอยู่ที่ 171,010 ล้านเหรียญสหรัฐ ขยายตัวร้อยละ 3.8 และทั้งปี สรท. คงคาดการณ์การส่งออก เติบโตที่ร้อยละ 1-2
แต่มีปัจจัยเสี่ยงที่ต้องเฝ้าระวังในครึ่งปีหลัง คือ ค่าเงินบาทแข็งค่าเร็วอย่างมีนัยสำคัญส่งผลโดยตรงต่อการส่งออกทันที ปัญหาภูมิรัฐศาสตร์ ทั้ง สหรัฐฯ สหภาพยุโรป และแคนาดา การตั้งกำแพงภาษีสินค้าจีน ส่งผลให้สินค้าจีนไหลกลับมายังตลาดเอเซียสงครามในตะวันออกกลางยังคงยืดเยื้อ ปัญหาการขนส่งสินค้าทางทะเล ที่สหภาพแรงงานทั่วประเทศสหรัฐฯ ยังไม่สามารถบรรลุข้อตกลง อาจทำให้เกิดความขัดแย้ง หยุดการผลิตและกระทบซัพพลายเชนในภาคการผลิต
และการให้บริการในท่าเรือฝั่งตะวันออกซึ่งจะส่งผลกระทบต่อการเดินเรือในภาพรวมและปริมาณการนำเข้าของสหรัฐฯ ค่าระวางเรือยังคงตึงตัวและผันผวนในท่าเรือหลัก
ทั้งนี้ สรท. มีข้อเสนอแนะต่อรัฐบาลใหม่ด้านโครงสร้าง รัฐบาลต้องมุ่งเน้นให้ประเทศไทยก้าวสู่การเป็นชาติการค้า เพื่อช่วยสร้างเศรษฐกิจที่เข้มแข็ง มีเสถียรภาพ และแข่งขันได้ในระดับสากล และการพัฒนาการส่งออก ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ให้สามารถแข่งขันและเติบโตอย่างมั่นคง
ด้านโลจิสติกส์ ต้องเร่งแก้ไขปัญหาความแออัดท่าเรือแหลมฉบัง ที่มีมาต่อเนื่อง ประกอบกับค่าน้ำมันที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง และปัญหายังไม่ได้บรรเทาลงสถานการณ์ยังไม่ดีขึ้นและมีความติดขัดมากขึ้น ส่งผลต่อต้นทุนที่ผู้ส่งออก
– นำเข้าต้องแบกรับ รวมถึงศักยภาพการแข่งขันทางการค้าระหว่างประเทศที่ลดลง
ด้านการเงิน ต้องรักษาเสถียรภาพค่าเงินบาทไม่ให้แข็งค่าเร็วเกินไป พร้อมทั้งสนับสนุนให้ผู้ประกอบการเร่งประกันความเสี่ยงค่าเงินบาท และพิจารณาหลักเกณฑ์เงื่อนไข สนับสนุน และส่งเสริมให้ผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) มีโอกาสเข้าถึงแหล่งเงินทุน ให้เพียงพอต่อการหมุนเวียนกระแสเงินสดและการผลิตเพื่อการส่งออก
ด้านการผลิตและต้นทุน ต้องกำกับดูแลต้นทุนการผลิตและต้นทุนวัตถุดิบ เพื่อให้การส่งออกของไทยยังคงขีดความสามารถในการแข่งขันได้ อาทิ ต้นทุนพลังงานและราคาน้ำมัน ค่าไฟฟ้า ค่าแรงขั้นต่ำ และค่าขนส่งสินค้าทางทะเลโดยเฉพาะค่าระวางเรือ ให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม กำกับดูแลสินค้าการเข้ามาลงทุนของนักลงทุนต่างชาติ ต้องเอื้อประโยชน์ให้กับซัพพลายเชนในประเทศ
และด้านการตลาดและ e-Commerce กำกับดูแลสินค้าไม่ได้มาตรฐาน รวมถึงสินค้าต้นทุนต่ำที่ทะลักเข้ามาในประเทศ ซึ่งก่อให้เกิดผลกระทบต่อผู้ผลิตในประเทศโดยเฉพาะ SMEs และปัญหาการจ้างงานลดลง
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews